“การบินไทย” ไตรมาส 3 อู้ฟู่!
พลิกมีกำไรสุทธิ 1.5 พันล้านบาท
หลังยอดผู้โดยสารพุ่ง-เพิ่มเที่ยวบิน

.
นางเฉิดโฉม เทอดสถีรศักดิ์ ประธานเจ้าหน้าที่สายการเงินและการบัญชีบริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) หรือ THAI เปิดเผยว่า ไตรมาส 3/66 มีกำไรสุทธิ 1,537 ล้านบาท เทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีผลขาดทุนสุทธิ 4,785 ล้านบาท ส่งผลทำให้ภาพรวม 9 เดือนปี 66 บริษัทมีกำไรสุทธิ 16,313 ล้านบาท เทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีผลขาดทุนสุทธิ 11,252 ล้านบาท
.
ทั้งนี้ในไตรมาส 3/66 มีกำไรจากการดำเนินงานก่อนต้นทุนทางการเงินไม่รวมรายการที่เกิดขึ้นครั้งเดียว 7,719 ล้านบาท สูงกว่าช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน 3,799 ล้านบาท โดยมีรายได้รวม 37,008 ล้านบาท สูงกว่าปีก่อน 12.6% สาเหตุหลักจากรายได้จากการขนส่งผู้โดยสารเพิ่มขึ้น 26.4% โดยบริษัทได้เพิ่มความถี่เที่ยวบินในเส้นทางบินยอดนิยม
.
นอกจากนี้ยังมีรายได้จากกิจการอื่น เพิ่มขึ้น 12.5% ซึ่งหน่วยธุรกิจส่วนใหญ่มีรายได้เพิ่มขึ้นจากจำนวนผู้โดยสารของสายการบินลูกค้าเพิ่มขึ้น โดยมีค่าใช้จ่ายรวมทั้งสิ้น 29,289 ล้านบาท สูงกว่าปีก่อน 1.2% ส่วนหนึ่งเกิดจากปริมาณการผลิตและ/หรือ ปริมาณการขนส่งที่เพิ่มขึ้น
.
ประกอบกับมีค่าใช้จ่ายคงที่เพิ่มขึ้น และสำหรับต้นทุนทางการเงิน (ซึ่งเป็นการรับรู้ต้นทุนทางการเงินตามมาตรฐานการรายงานทางการเงินฉบับที่ 9: TFRS 9) มีการรับรู้ต้นทุนทางการเงินจำนวน 3,722 ล้านบาท สูงกว่าปีก่อน 1.4%
.
อย่างไรก็ตามในไตรมาสนี้ มีรายการที่เกิดขึ้นคร้ังเดียว-สุทธิเป็นค่าใช้จ่ายรวม 2,732 ล้านบาท ส่วนใหญ่เกิดจากขาดทุนจากอัตราแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศ การปรับปรุงค่าเช่าสำนักงานดอนเมือง และผลขาดทุนจากการด้อยค่าซึ่งเป็นไปตาม TFRS 9 ถึงแม้จะมีกำไรจากการขายสินทรัพย์และกำไรจากการปรับโครงสร้างหนี้ก็ตาม
.
โดยมี EBITDA หลังหักเงินสดจ่ายหนี้สินตามเงื่อนไขสัญญาเช่าเครื่องบิน รวมค่าเช่าเครื่องบินที่คำนวณจากการใช้เครื่องบินที่เกิดขึ้นจริง (Power by the Hour) เป็นกำไรจำนวน 8,360 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีก่อน 2,282 ล้านบาท
.
สำหรับ ณ วันที่ 30 กันยายน 2566 บริษัทมีเครื่องบินที่ใช้ทำการบินทั้งสิ้น 68 ลำ ในไตรมาส 3/66 มีอัตราการใช้ประโยชน์ของเครื่องบิน 12.1 ชั่วโมง มีปริมาณการผลิตด้านผู้โดยสาร (ASK) เพิ่มขึ้น 21.5% ปริมาณการขนส่งผู้โดยสาร (RPK) เพิ่มขึ้น 22% อัตราส่วนการบรรทุกผู้โดยสาร เฉลี่ย 77.3% สูงกว่าปีก่อนซึ่งเฉลี่ยที่ 77% และมีจำนวนผู้โดยสารที่ทำการขนส่งรวมทั้งสิ้น 3.27 ล้านคน เพิ่มขึ้นจากปีก่อน 22%
.
สำหรับด้านการขนส่งสินค้า มีปริมาณการผลิตด้านพัสดุภัณฑ์ (ADTK) สูงกว่าปีก่อน 20.1% ปริมาณการขนส่งพัสดุภัณฑ์ (RFTK) สูงกว่าปีก่อน 7.1% อัตราส่วนการขนส่งพัสดุภัณฑ์ (Freight Load Factor) เฉลี่ยเท่ากับ 52.7% ขณะที่ปีก่อนเฉลี่ยเท่ากับ 59.1%
