BANPU เร่งทรานฟอร์มกลุ่มธุรกิจบุกพลังงานก๊าซธรรมชาติ-พลังงานหมุนเวียน ทั้งในและต่าง
ประเทศเต็มสูบ หลังปูฐานตลาดใหญ่ในสหรัฐ จีน ญี่ปุ่น และเวียดนาม เล็งโอกาสต่างชาติเข้าลงทุน ต่อยอดสร้างมูลค่าธุรกิจแข็งแกร่ง
นางสมฤดี ชัยมงคล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท บ้านปู จำกัด(มหาชน) หรือ BANPU กล่าวว่า บริษัทยังคงเดินหน้าขยายการลงทุนด้านพลังงานสะอาดอย่างต่อเนื่อง เพื่อที่จะเข้ามาเพิ่มสัดส่วนรายได้มากกว่า 50% ภายในปี 2568 จากช่วงครึ่งแรกปี 2564 ที่มีสัดส่วน 43% ตามแผนขยายการลงทุน ไม่ว่าจะเป็นธุรกิจก๊าซธรรมชาติ ธุรกิจไฟฟ้าพลังงานหมุนเวียน (Renewable) และ ธุรกิจ Energy Technology ตามแผนการลงทุนในช่วง 5 ปี (ปี2564-2568) ที่เป็นไปตามแนวโน้มการใช้พลังงานของโลก โดยมีการประเมินว่าภายในปี2040 ทั้งโลกจะหันมาให้ความสำคัญกับงานก๊าซธรรมชาติและพลังงานหมุนเวียนมากขึ้น
ประกอบกับในเอเชีย-แปซิฟิกจะเห็นได้ว่ามีกองทุนจาก BloombergNEF มูลค่ากว่า 11,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ที่สนใจจะเข้ามาลงทุนในธุรกิจพลังงานหมุนเวียน (Renewable) ภายในปี 2025 ถือว่ากลุ่มบริษัทบ้านปูได้มาถูกทางที่จะทรานฟอร์มธุรกิจเป็น Greener & Smarter
ส่วนธุรกิจถ่านหินในตลาดโลกก็ยังมีความต้องการในตลาด ซึ่งบ้านปูก็ยังคงให้บริการถ่านหินไว้เช่นเดิม แต่ไม่มีนโยบายในการเพิ่มหรือขยายการลงทุนแต่จะหันเน้นธุรกิจก๊าซธรรมชาติ และธุรกิจไฟฟ้าพลังงานหมุนเวียน (Renewable) ที่มีแนวโน้มการเติบโตและสร้างผลตอบแทนได้มากขึ้น
ลุยครึ่งปีหลัง
โดยในช่วงครึ่งหลังปี 2564 คาดว่าเดินเครื่องเชิงพาณิชย์และจ่ายไฟฟ้าเข้าสู่ระบบ (COD) อีก 2 โครงการใหม่ในประเทศญี่ปุ่น ขนาดกำลังการผลิตรวมประมาณ 30 เมกะวัตต์ ส่วนโรงไฟฟ้าซานซีลู่กวง (SLG) ได้ดำเนินการทดสอบการเดินเครื่องเสร็จเรียบร้อยแล้ว เพื่อเตรียมความพร้อมในการจ่ายไฟเชิงพาณิชย์ (COD) ในไตรมาส 3/2564
ขณะที่โครงการโรงไฟฟ้าพลังงานลม Vin Chau ระยะที่ 1 ขนาด 30 เมกะวัตต์ ในเวียดนาม คาดว่าจะสามารถจ่ายไฟเชิงพาณิชย์ (COD) ในไตรมาส 4/2564 สำหรับราคาถ่านหินยังมีแนวโน้มในระดับสูง ณ ขณะนี้เคลื่อนไหวอยู่ที่ 151 ดอลลาร์สหรัฐต่อตัน ส่วนราคาก๊าซธรรมชาติ 3.8 ดอลลาร์สหรัฐต่อล้านบีทียู ซึ่งจะส่งผลดีต่อยอดขายได้มากขึ้น ขณะที่มาตรการคุมต้นทุนก็ต้องมีการบริหารอย่างรัดกุม
ก่อนหน้านี้บริษัทได้เข้าไปลงทุนสหรัฐ โดย BKV Corporation หรือ BKV ซึ่งเป็นบริษัทย่อย และ Banpu Power US Corporation หรือ BPPUS ซึ่งเป็นบริษัทย่อยของบริษัท บ้านปู เพาเวอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ BPP ได้ร่วมกันจัดตั้งบริษัท BKV-BPP Power LLC หรือ BKV-BPP โดย BKV และ BPPUS ถือหุ้นในสดัส่วนเท่ากันคือร้อยละ 50% ซึ่ง BKV-BPP ได้ลงนามในสัญญาเพื่อเข้าซื้อหุ้น 100% ในบริษัท Temple Generation Intermediate Holdings II, LLC ซึ่งถือหุ้นร้อยละ 100 ในโรงไฟฟ้าก๊าซธรรมชาติ Temple I ในสหรัฐ มีมูลค่าการลงทุนรวม 430 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือเทียบเท่า 14,147 ล้านบาท
บริษัทหลักทรัพย์บัวหลวง จำกัด (มหาชน) ประมาณการกำไรสุทธิปี 2564 ลง 14%มาอยู่ที่ 9,353 ล้านบาท เพื่อสะท้อนขาดทุนพิเศษที่บันทึกในไตรมาส 2/2564ทั้งนี้ราคาเป้าหมายสิ้นปี 2564 โดยวิธี SOTP ยังคงอยู่ที่ 16.90 บาท และคาดว่าแนวโน้มจะดีขึ้นสำหรับปี 2565 โดยมูลค่าหุ้นยังคงถูก ซื้อขายอยู่ที่P/BV ณ สิ้นปี 2564 เพียง 0.9 เท่า(ต่ำกว่าค่าเฉลี่ยระยะยาวที่1.2เท่า อยู่ที่ 0.5 ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน)และยังมีอัพไซด์ต่อประมาณการกำไรในระยะยาวจากการลงทุนใหม่ในธุรกิจพลังงานอัจฉริยะ(BanpuNEXT)