บล.ยูโอบี เคย์เฮียน(ประเทศไทย) ระบุว่า แม้ผลประกอบการของ AWC จะยังคงอ่อนแอในระยะเวลอันใกล้นี้ แต่เชื่อว่าราคาหุ้นของ AWC ยังต่ำกว่าพื้นฐาน เนื่องจากคาดว่ามูลค่าสินทรัพย์รวมในอนาคตจะสูงกว่ามูลค่าตลาดในปัจจุบัน โดยมีมุมมองเชิงบวกต่อการเติบโตในระยะยาวของ AWC โดยได้รับแรงหนุนจากศักยภาพในการเติบโตของบริษัทผ่านการเข้าซื้อกิจการ และแนวโน้มภาคการท่องเที่ยวของไทยที่สดใส หลังโควิด-19 จึงปรับเพิ่มคำแนะนำเป็นซื้อ โดยให้ราคาเป้าหมายที่ 6.00 บาทต่อหุ้น
ฝ่ายวิจัยฯ เชื่อว่า AWC ได้ผ่านสิ่งที่เลวร้ายไปแล้ว เนื่องจากคาดว่าผลประกอบการของ AWC ได้ผ่านจุดต่ำสุดไปแล้วในไตรมาส 2/63 จากผลกระทบของการปิดเมือง ผลประกอบการน่าจะยังคงฟื้นตัวอย่างต่อเนื่อง หลังจากผ่อนคลายมาตรการล็อคดาวน์ ในไตรมาส 3/63 และคาดว่า
ความสามารถในการอยู่รอดของบริษัทในช่วงโควิด-19 จากโครงสร้างทางการเงินที่แข็งแกร่งหลังเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ ซึ่งช่วยให้บริษัทมีเงินทุนสำหรับการดำเนินงานในระยะเวลาอันใกล้นี้ และขยายธุรกิจในอนาคต
ทั้งนี้จากผลกระทบของโควิด-19 ฝ่ายวิจัยฯ คาดว่าหลายโรงแรมจะทยอยขายธุรกิจในช่วงปี 2563-2564 จึงคาดว่า AWC จะเป็นผู้ที่ได้รับประโยชน์หลักจากโอกาสในการเติบโตนี้ผ่านการเข้าซื้อกิจการ เนื่องจากความแข็งแกร่งทางการเงินของ AWC ซึ่งแตกต่างจากหุ้นอื่นๆ ในอุตสาหกรรมเดียวกันที่ประสบปัญหาด้านการลงทุน นอกจากนี้ บริษัทมีแหล่งเงินทุนให้เลือกหลายทาง รวมทั้งผ่านกองทุนพัฒนาภายใต้กลุ่ม TCC ซึ่ง AWC สามารถซื้อสินทรัพย์ภายใต้กลุ่ม TCC ได้ในราคาซื้อเดียวกันภายใต้ข้อตกลง “Grant of Right”
และประการต่อมาเชื่อว่า AWC จะสามารถซื้อสินทรัพย์ได้ในราคาที่ลดลง เมื่อเทียบกับสถานการณ์ทางเศรษฐกิจปกติ และจะบรรลุอัตราการ
เติบโตเร็วขึ้นเมื่อตลาดฟื้นตัว