1) ธนาคารกลางสหรัฐอเมริกาปรับดอกเบี้ย Fed Fund Rate ในปีนี้คือปี พ.ศ 2561 มากเกินไปถึง 3 ครั้ง และคาดว่าจะปรับอีก 1 ครั้ง ในการประชุม FOMC ในวันที่ 18 - 19 ธันวาคม ปี พ.ศ 2561 นี้
2) การจับกุมนางเม่ง หวันโจว เมื่อวันที่ 1 ธันวาคม ปี พ.ศ 2561 ทําให้ตลาดคาดการณ์ว่าจะทําให้สงครามการค้าระหว่างสหรัฐอเมริกากับจีนอาจจะลุกลามบานปลายมากเกินกว่าที่ตลาดเคยคาดหมายไว้
จากเหตุการณ์ทั้งสองเหตุการณ์นั้น ทําให้ตลาดหุ้น Down Jones ปรับฐานใหญ่ ดังนี้ คือ :
วัฏจักร Down Jones :
1) Down Jones ปิดที่ 18,333 จุด เมื่อ วันที่ 8 พฤศจิกายน ปี พ.ศ 2559 ( ซึ่งเป็นวันก่อนเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา 1 วัน และ Donald Trump ได้รับการเลือกตั้งให้ดํารงตําแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา )
2) Down Jones ปิดที่ 26,951 จุด เมื่อ วันที่ 3 ตุลาคม ปี พ.ศ 2561 ( +47.01% และ เป็น All Time High )
3) Down Jones ทําจุดตํ่าสุดรอบนี้ที่ 23,881 จุด เมื่อ วันที่ 10 ธันวาคม ปี พ.ศ 2561 ( -11.39% จากจุดสูงสุด และเป็น Low รอบล่าสุด )
4) Down Jones ปิดที่ 24,423 จุด เมื่อ วันที่ 10 ธันวาคม ปี พ.ศ 2561
วัฏจักร Shianghai Composite Index :
1) 3,148 จุด ( วันที่ 8 พฤศจิกายน ปี พ.ศ 2559 ซึ่งเป็นวันก่อนเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา 1 วัน และ Donald Trump ได้รับการเลือกตั้งให้ดํารงตําแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา )
2) 2,449 จุด ( วันที่ 19 ตุลาคม ปี พ.ศ 2561 และ Low รอบล่าสุด = ( 2,449 - 3,148 ) / 3,148 x 100 = -22.20% )
3) 2,584 จุด ( วันที่ 10 ธันวาคม ปี พ.ศ 2561 )
การแก้ไขปัญหาของประธายาธิบดี Donald Trump :
1) ประธานาธิบดี Donald Trump ได้ให้คําแนะนําให้ธนาคารกลางสหรัฐอเมริกาปรับขึ้น Fed Fund Rate อย่างค่อยเป็นค่อยไป โดยในปีหน้าคือปี พ.ศ 2562 ตลาดคาดการณ์ว่า FOMC จะปรับขึ้นดอกเบี้ย Fed Fund Rate แค่ 1 - 2 ครั้งเท่านั้น แทนที่จะปรับขึ้น 3 ครั้งตามที่ตลาดเคยคาดการณ์ไว้แต่เดิม
2) เจรจาการค้ากับจีนแบบค่อยเป็นค่อยไป โดยไม่ให้มีเหตุการณ์ลุกลามบานปลายมากจนเกินไป แล้วมีผลทําให้ตลาดหุ้นสหรัฐปรับฐานลงมากเกินกว่าที่เป็นอยู่ในขณะนี้
ทั้งนี้ เพราะประธานาธิบดี Donald Trump มีความต้องการที่จะได้รับเลือกตั้งกลับเข้ามาดํารงตําแหน่งประธานาธิบดีอีกสมัยหนึ่งในช่วงต้นเดือนพฤศจิกายน ปี พ.ศ 2563 และถ้าเศรษฐกิจสหรัฐอเมริกาไม่ดีและตลาดหุ้นสหรัฐอเมริกามีปัญหา ก็จะทําให้โอกาสที่ท่านฯจะได้รับการเลือกตั้งให้กลับเข้ามาดํารงตําแหน่งประธานาธิบดีอีกครั้งหนึ่งก็จะมีน้อยลงทันที
การแก้ไขปัญหาของประธายาธิบดี Xi Jinping :
1) จีนจะต้องพยายามหันหน้าเข้ามาเจรจากับสหรัฐอเมริกา เพราะตลาดหุ้นจีนปรับตัวลงไปแล้ว -22.20% และถ้าตลาดหุ้นจีนตกลงไปมากกว่านี้ ก็จะไม่เป็นผลดีต่อจีนอย่างแน่นอน
2) จีนไม่อยู่ในฐานะที่จะต้องต่อรองกับสหรัฐอเมริกามากนัก เพราะความเสียเปรียบ ดังนี้ คือ :
2.1) สหรัฐอเมริกาสามารถปรับดอกเบี้ย Fed Fund Rate ขึ้นไปอีก ถ้าสหรัฐอเมริกาต้องการจะทํา แต่จีนไม่มีเพดานการปรับดอกเบี้ยนโยบายขึ้นอีกแล้ว เพราะตอนนี้จีนยังต้องอาศัยการอัดฉีดสภาพคล่องผ่านการผ่อนปรนทางธนาคารฯอยู่เลย
2.2) สหรัฐอเมริกายังสามารถขึ้นภาษีจาก 10% เป็น 25% จากมูลค่าสินค้า 200,000 ล้าน USD เดิม และสามารถปรับขึ้นได้อีกเป็นมูลค่าสินค้า 267,000 ล้าน USD ถ้าสหรัฐอเมริกาต้องการจะทํา
2.3) นางเม่ง หวันโจว ยังอยู่ในขั้นตอนการจับกุมของทางการสหรัฐอเมริกา และทางการสหรัฐอเมริกาสามารถเอาผิดถึงขั้นติดคุกได้สูงถึง 30 ปี ถ้าสหรัฐอเมริกาต้องการจะทํา
หมายเหตุ : โปรดติดตามรายละเอียดการลงทุนใน สภาวะตลาดกระทิง ( จากปัจจัยขับเคลื่อนและผลักดันโดยประธานาธิบดี Donald Trump ), ธุรกิจรับเหมาก่อสร้างขาขึ้นรอบใหญ่ ( จากปัจจัยขับเคลื่อนและผลักดันโดยนายกรัฐมนตรีพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา ) และ สภาวะตลาดหมี ( จากปัจจัยขับเคลื่อนและผลักดันโดยวัฏจักรเศรษฐกิจขาลงรอบใหญ่วิเคราะห์โดย Ray Dalio ) ใน longtunbysak.blogspot.com