ห้องเม่าปีกเหล็ก

สรุปมุมมองหุ้น เลือกตั้ง "สูสี" โบรคเกอร์มองอย่างไร ?

โดย SiTh LoRd PaCk
เผยแพร่ :
68 views

 

"สิ่งสำคัญที่สุด คือ เสถียรภาพของรัฐบาล..."

สรุปมุมองหุ้นของบริษัทหลักทรัพย์ ทิสโก้ จำกัด ในรายการ "LIVE with Guru เจาะลึกกับผู้รู้เรื่องการลงทุน" ผ่านเฟซบุ๊ก TISCO Mastery โดยมีนายไพบูลย์ นลินทรางกูร มาให้ความรู้ มุมมองหุ้น และกลยุทธ์ที่นักลงทุนควรรู้ มีสาระสำคัญอะไรบ้าง สรุปมาให้อ่านกันครับ

- ผลการเลือกตั้งผิดคาดมากๆ แต่เดิมคาดว่าพรรคเพื่อไทยน่าจะได้คะแนนทิ้งห่าง แต่กลายเป็นว่าพรรคพลังประชารัฐได้คะแนนสูสีกับเพื่อไทย

 

- พรรคประชาธิปัตย์ ได้คะแนนที่ต่ำกว่าที่คาดไว้พอสมควร ทำให้ทางพรรคไม่ได้เป็นทางเลือกสำหรับการจัดตั้งรัฐบาล ทำให้ตอนนี้สู้กันระหว่าง 2 พรรค คือ พรรคเพื่อไทยและพลังประชารัฐ

 

- คาดว่าพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชาจะสามารถกลับมาเป็นนายกรัฐมนตรีได้อีกครั้ง

 

- สิ่งที่สำคัญที่สุดตอนนี้คือความมีเสถียรภาพทางการเมือง และของรัฐบาลในอนาคต

 

- ถ้าวิเคราะห์นโยบายของแต่ละพรรค ถือว่าใกล้เคียงกันไม่ได้แตกต่างกันมาก โดยมีสาระสำคัญ คือ ช่วยเหลือเศรษฐกิจรากหญ้า เพิ่มกำลังซื้อให้ประชาชน ลงทุนโครงสร้างพื้นฐาน ซึ่งในหลายรัฐบาลที่ผ่านมาก็เป็นแบบนั้นอยู่แล้ว ทำให้รัฐบาลใหม่อาจจะไม่ได้มีผลร่วมอะไรมากกับเศรษฐกิจในภาคใหญ่

 

- เศรษฐกิจไทยกว่า 70% ของจีดีพี อิงกับต่างประเทศ คือ เรื่องของการท่องเที่ยว และส่งออก ซึ่งแต่ละรัฐบาลก็ส่งเสริมการท่องเที่ยวอยู่แล้ว เน้นกระตุ้นให้เกิดการส่งออกอยู่แล้ว เลยคิดว่าไม่น่าจะกระทบกับภาพใหญ่ของเศรษฐกิจไทยมาก

 

- คิดว่าปี 2562 เศรษฐกิจไทยไม่น่าจะขยายตัวเกิน 4% และเป้าการเติบโตของทิสโก้คาดคือ 3.5%

 

- เสถียรภาพสำคัญที่สุดในแง่ของเศรษฐกิจ ถ้ารัฐบาลอยู่จนครบวาระ มีเสถียรภาพ จะช่วยให้เศรษฐกิจไทยขับเคลื่อนต่อไปได้

 

- วิเคราะห์ตามเศรษฐกิจอย่างเดียว 5 ปีที่ผ่านมารัฐบาลมีความเอกภาพมาก เพราะไม่มีฝ่ายค้าน มีรัฐบาลพรรคเดียว จะทำอะไรก็สะดวก แต่ 4 ปีต่อจากนี้จะไม่เหมือนเดิม มีฝ่ายค้าน มีฝ่ายตรวจสอบ เรียกได้ว่าไม่ง่ายเหมือนเดิมอีกต่อไป

 

- ถ้ารัฐบาลอยู่ครบวาระ มีความมั่นคง คาดว่าจะมีเงินจากต่างชาติไหลเข้าไทยประมาณ 1 แสนล้านบาท

 

- ต่างชาติไม่ค่อยสนใจการเมืองไทยมากนัก ไม่สนใจว่าใครจะมาเป็นรัฐบาล แต่สิ่งที่สนใจ คือ มีเสถียรภาพหรือไม่ นโยบายเศรษฐกิจเอื้อต่อการลงทุนหรือไม่ และความต่อเนื่องของนโยบาย เช่น โครงการอีอีซี เป็นต้น

 


ปัจจุบันหุ้นไทยมีค่า P/E ที่17 เท่า และ P/BV ที่ 1.81 เท่า ให้ผลตอบแทนต้นปีไปแล้วเกือบ 4%
ที่มาข้อมูล : https://marketdata.set.or.th/mkt/marketsummary.do

 

- สำหรับหุ้นไทยมองว่ายังไม่แพงลงทุนได้ ประเมินไว้ที่ 1,750 -1,800 จุด

 

- ไม่มีสัญญาณว่าหุ้นจะลงเยอะ หรือเกิดวิกฤตเศรษฐกิจในประเทศไทย

 

== สรุป ==
หลังผ่านการเลือกตั้งไปแล้ว สิ่งสำคัญที่สุดคือ "เสถียรภาพ" ของรัฐบาลว่าเป็นอย่างไร และจะอยู่ครบวาระหรือไม่ โดยทั่วไปต่างชาติไม่ค่อยสนใจการเมืองไทยเท่าไรนัก ขอแค่มีความมั่นคงและเอื้อต่อการลงทุนก็พอ อย่างไรก็ตามประเมินหุ้นไทยยังไม่แพง ลงทุนได้ ไม่มีสัญญาณว่าจะเกิดวิกฤตเศรษฐกิจ

----------

ขอบคุณรายการ "LIVE with Guru เจาะลึกกับผู้รู้เรื่องการลงทุน" ผ่านเฟซบุ๊ก TISCO Mastery

แนะนำข่าวสารการลงทุนดีๆ กด like กันได้เลยครับ www.facebook.com/tiscomastery


SiTh LoRd PaCk