ธุรกิจความงาม / e-commerce / แพลตฟอร์ม ดาวรุ่งครึ่งปีหลัง

============================
ตลาดหุ้นบ้านเราในสัปดาห์นี้ ยังคงผันผวน เพราะพิษเศรษฐกิจจากปัญหาเงินเฟ้อพุ่งทั่วโลก จนทำให้นักลงทุนยังกล้าๆ กลัวๆ เพราะหวั่นว่าหากสงครามรัสเซีย ยูเครน ยังส่งผลให้ราคาน้ำมันพุ่งไม่หยุดแบบนี้ เศรษฐกิจโลกคงได้ถดถอย ตามที่บรรดากูรูเศรษฐกิจคาดการณ์ไว้แน่ๆ ก็เลยทำให้ Sentiment ตลาดตลอดทั้งสัปดาห์ไม่ค่อยสดใสนัก หลายโบรกเกอร์เริ่มออกมาหั่นเป้า Set Index กันแล้ว
.
เพราะฉะนั้นด้วยภาพรวมที่ไม่ดีสักเท่าไหร่ ทั้งเศรษฐกิจมหภาค ตลาดเงิน ตลาดทุน ที่ส่งผลเชื่อมโยงถึงกันอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ และที่แน่ๆ บรรดาธุรกิจต่างๆ ก็ต้องได้รับผลกระทบตามไปด้วยเช่นกัน หลากหลายธุรกิจอาจจะได้รับผลดี จากเศรษฐกิจตอนนี้ และอีกหลายธุรกิจก็ต้องรับผลลบ ตามทิศทางโลกที่เปลี่ยนไปด้วยเช่นกัน
.
ล่าสุด ศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย ได้ประเมิน "10 ธุรกิจเด่น-ร่วง ครึ่งปีหลัง 2565" ในช่วงครึ่งปีหลัง จากหลายปัจจัยที่จะเข้ามากระทบภาคธุรกิจ โดยปัจจัยบวกมาจาการเปิดประเทศ ภาครัฐช่วยค่าครองชีพประชาชนจากปัญหาราคาน้ำมันแพง ค่าเงินบาทที่อ่อนค่าหนุนการส่งออก การแพร่ระบาดของโควิดที่ลดลทำให้การใช้จ่ายภาคครัวเรือนฟื้นตัว รวมถึงนโยบายรัฐอื่นๆ ทั้งการส่งเสริมเขตเศรษฐกิจพิเศษตะวันออก (EEC) ความตกลงหุ้นส่วนทางเศรษฐกิจระดับภูมิภาค และการปลดล็อกกัญชง - กัญชา ที่เปิดโอกาสให้มีผู้ประกอบการหน้าใหม่เข้ามา
ส่วนปัจจัยลบ ได้แก่สงครามรัสเซีย - ยูเครน ธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ขึ้นดอกเบี้ย ปัญหาการขาดแคลนตู้คอนเทนเนอร์ ความสามารถในการชำระหนี้ภาคครัวเรือนที่ยังเปราะบาง ทางการจีนยังคุมเข้มโควิด-19 การจัดเก็บภาษีที่ดินสิ่งปลูกสร้าง และแนวโน้มที่ธนาคารแห่งประเทศไทยจะขึ้นดอกเบี้ยนโยบาย
.
.
โดย 10 ธุรกิจ ที่คาดว่าจะโดดเด่น และเป็นดาวรุ่งในครึ่งปีหลัง ก็คือ
1 ธุรกิจการแพทย์และความงาม / ธุรกิจ e-commerce (ธุรกิจที่ทำการซื้อขายผ่านอิเล็กทรอนิกส์)
2 ธุรกิจ แพลตฟอร์ม (ธุรกิจตัวกลางหรือตลาดกลางด้าน อิเล็กทรอนิกส์) / ธุรกิจโลจิสติกส์ delivery และคลังสินค้า
3 Cloud Storage / ธุรกิจประกันภัย ประกันชีวิต / ธุรกิจอาหารเสริมและสุขภาพ
4 E-Sports / Social Media และ Online Entertainment
5. ธุรกิจจัดทำคอนเทนต์ / ธุรกิจ youtuber influencerและการรีวิวสินค้า / Media ธุรกิจสื่อโฆษณา
6 ธุรกิจเวชภัณฑ์ยา ธุรกิจการขายส่งสินค้าทางเภสัชภัณฑ์และทางการแพทย์ / ธุรกิจด้าน fintech และการชำระเงินผ่านระบบเทคโนโลยี / งานคอนเสิร์ต มหกรรมจัดแสดงสินค้า ธุรกิจ event
7. ธุรกิจเกี่ยวกับเครื่องมือแพทย์ / ธุรกิจอิเล็กทรอนิกส์และชิ้นส่วน
8. ธุรกิจ Modern Trade/ร้านค้าปลีกสมัยใหม่ / ธุรกิจสมุนไพรไทย เช่น กัญชง กัญชา ใบกระท่อม ฯ
9. ธุรกิจสถานบันเทิง / ธุรกิจยานยนต์ และ
10 ธุรกิจก่อสร้างและอสังหาริมทรัพย์แนวราบ / ธุรกิจท่องเที่ยว โรงแรม ทัวร์ และธุรกิจเกี่ยวเนื่อง
.
.
สังเกตุได้ว่า ธุรกิจที่มาแรง และติดท็อปไฟว์ ล้วนแต่เป็นธุรกิจที่มาพร้อมกับ New Normal ในช่วง 2-3 ปีหลังๆ นี้ทั้งนั้น เป็นธุรกิจที่มาพร้อมกับเทรนด์ใหม่ การเปลี่ยนแปลง และปรับแพตฟอร์ม ในยุคที่โควิดระบาดอย่างต่อเนื่อง ซึ่งก็ถือว่าใครปรับตัวได้เร็วก็ได้ เปรียบที่สุด เพราะถือว่าธุรกิจเหล่านี้ยังน่าจะได้รับความนิยมไปอีกพักใหญ่เลยทีเดียว
.
.
อย่างไรก็ดีมีดาวรุ่ง ก็ต้องมีดาวร่วงเช่นกัน โดย 10 ธุรกิจที่คาดว่าจะเป็นดาวร่วง คือ
1 ธุรกิจผลิตโทรศัพท์พื้นฐานและครื่องโทรสาร
2 ธุรกิจฟอกย้อม
3.ธุรกิจหัตถกรรมที่ไม่มีการออกแบบและราคาถูก
4.ธุรกิจสื่อสิ่งพิมพ์ และวารสาร
5.ธุรกิจรับส่งสื่อสิ่งพิมพ์ตามบ้านและสถานที่ทำงาน
6.ธุรกิจโรงพิมพ์ การพิมพ์ เช่น หนังสือ แผ่นพับ
7.ธุรกิจคนกลาง / ธุรกิจผลิตและขายต้นไม้/ดอกไม้ประดิษฐ์
8.ธุรกิจ call center / ธุรกิจเครื่องปั้นดินเผา และเซรามิก
9.ธุรกิจผลิตเสื้อผ้าสำเร็จรูปที่ไร้ฝีมือ หรือเสื้อผ้าโหล และ
10ธุรกิจร้านเช่าหนังสือ ขายหนังสือ / ธุรกิจร้านถ่ายรูป
.
ดาวรุ่งก็มาพร้อมการเปลี่ยนแปลง เช่นเดียวกับธุรกิจดาวร่วง ก็ไปพร้อมกับการเปลี่ยนแปลงเช่นกัน หากไม่ปรับตัว ก็ยิ่งอยู่ลำบากมากขึ้นทุกที
