MINT เผยปี 65 พลิกมีกำไร

MINT เผยปี 65 พลิกมีกำไร 4,286 ลบ. โต 132% ธุรกิจหลักฟื้น-คุมต้นทุนได้ดี

.

บริษัท ไมเนอร์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) หรือ MINT เปิดเผยผ่านตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) ว่า ผลการดำเนินงานปี 65 พลิกมีกำไร 4,286.37 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 132.55% จากปีก่อนที่ขาดทุน 13,166 ล้านบาท โดยปี 65 บริษัทมีรายได้จากการดำเนินงานเติบโต 66% จากปีก่อน อยู่ที่ 123,809 ล้านบาท จากสภาพแวดล้อมทางธุรกิจที่ฟื้นตัวในทุกภูมิภาคหลักของบริษัท

.

ส่วน EBITDA จากการดำเนินงานเติบโต 2 เท่า อยู่ที่ 32,919 ล้านบาท ซึ่งเป็นผลจากความสามารถในการทำกำไรที่เพิ่มขึ้นตามการเพิ่มขึ้นของรายได้จากการขึ้นราคาห้องพักและความสามารถในการจัดการต้นทุนเชิงรุกของบริษัท

.

สำหรับธุรกิจร้านอาหารในปีที่ผ่านมา ยอดขายโดยรวมทุกสาขาเติบโต 20.1% เมื่อเทียบกับปีก่อน โดยเป็นผลจากการฟื้นตัวของธุรกิจในประเทศไทยและออสเตรเลีย ส่วนยอดขายต่อร้านเดิมของกลุ่มธุรกิจร้านอาหารทั้งหมดเติบโต 8% โดยการฟื้นตัวของยอดขายผ่านช่องทางการนั่งรับประทานภายในร้านในทุกภูมิภาคสามารถหักกลบสภาพแวดล้อมการดำเนินงานที่ท้าทายในประเทศจีนได้เต็มจำนวน

.

ทั้งนี้ ณ สิ้นไตรมาส 4/65 บริษัทมีสาขาร้านอาหารทั้งสิ้น 2,531 สาขา แบ่งเป็นสาขาที่บริษัทลงทุนเอง 1,264 สาขา คิดเป็นสัดส่วน 50% ของสาขาทั้งหมด และสาขาแฟรนไชส์ 1,267 สาขา คิดเป็น 50%

.

ด้านธุรกิจโรงแรมและที่พัก พบว่า ในปี 65 รายได้เฉลี่ยต่อห้องต่อคืนของกลุ่มโรงแรมทั้งหมดของบริษัทเพิ่มขึ้น 2 เท่า จากปีก่อนและสูงกว่าระดับก่อนการระบาดของไวรัสโควิดในอัตรา 7% โดยเป็นผลทั้งจากการฟื้นตัวอย่างแข็งแกร่งของกลุ่มการเดินทางเพื่อพักผ่อน จากการเป็นช่วงเวลาของการปิดเทอม ช่วงเทศกาล และการเดินทางระหว่างประเทศที่เพิ่มขึ้น โดยปัจจัยเหล่านี้ทำให้ราคาค่าห้องพักเฉลี่ยเติบโตขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ

.

ขณะที่ธุรกิจไลฟ์สไตล์มีรายได้จากการดำเนินงานลดลง 9% เมื่อเทียบกับปีก่อน เป็นผลจากการปรับโครงสร้างธุรกิจภายใน ซึ่งไม่นับรวมรายได้จากธุรกิจรับจ้างผลิต ทั้งนี้ หากไม่นับรวมผลกระทบจากการปรับโครงสร้างธุรกิจดังกล่าว ไมเนอร์ไลฟ์สไตล์จะมีรายได้เติบโตขึ้น 31%

.

สำหรับในไตรมาส 4/65 บริษัทมีรายได้จากการดำเนินงานอยู่ที่ 35,964 ล้านบาท เติบโตอย่างมีนัยสำคัญในอัตรา 35% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน ซึ่งเป็นผลมาจากการฟื้นตัวอย่างแข็งแกร่งของธุรกิจโรงแรมจากกิจกรรมการท่องเที่ยวที่ฟื้นตัวทั้งในและต่างประเทศและกลยุทธ์การขึ้นราคาค่าห้องพักที่ประสบความสำเร็จ ประกอบกับการเติบโตของธุรกิจร้านอาหารและธุรกิจการขายสินค้าไลฟ์สไตล์จากจำนวนลูกค้าที่เพิ่มขึ้น

.

**********************************