หุ้นเสี่ยงถูกฝรั่งเทขาย หลัง `เงินบาทอ่อนค่า` สุดในรอบ 16 ปี

บทวิเคราะห์ บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) ซีจีเอส-ซีไอเอ็มบี ประเมินว่าตลาดหุ้นไทยจะมีแรงขายต่อเนื่องจากนักลงทุนต่างประเทศ เนื่องจากค่าเงินบาทที่อ่อนค่าลงต่อเนื่องใกล้ทดสอบระดับ 37 บาทต่อดอลลาร์ ซึ่งเป็นระดับอ่อนค่ามากสุดในรอบ 16 ปี และมองกรอบการขึ้นค่อนข้างจำกัด เพราะจะมี FTSE Rebalancing ที่มีการปรับลดน้ำหนักตลาดหุ้นไทยลง 3 พันกว่าล้านบาท โดยมีผลบังคับใช้ ณ ราคาปิดในวันนี้ จึงทำให้ดัชนีตลาดหุ้นไทยน่าจะย่อตัวลงมากกว่าที่จะกลับตัวได้ พร้อมให้แนวรับที่ 1,630-1,626 จุด และแนวต้านที่ 1,646-1,650 จุด
ขณะที่ บล.พาย แนะให้นักลงทุนจับตากับกระแสฟันด์โฟลว์ต่างชาติใกล้ชิด หลังเริ่มเห็นแรงขายสุทธิออกมาต่อเนื่อง ขณะที่ค่าเงินบาทเทียบดอลลาร์สหรัฐฯยังคงเดินหน้าอ่อนค่าลง ซึ่งเป็นผลพวงมาจากการที่แนวโน้มอัตราดอกเบี้ยนโยบายของสหรัฐฯที่ปรับขึ้นต่อเนื่องโดยที่ดอกเบี้ยไทยปรับขึ้นตามไม่ทัน ดังนั้นกระแสเงินทุนต่างชาติจึงมีโอกาสไหลออกอยู่และนับเป็นปัจจัยกดดัน SET ในช่วงนี้ ส่วนด้านกลยุทธ์การลงทุนนั้น จึงยังคงคำแนะนำทยอยลดพอร์ตการลงทุน เนื่องจากหลายๆความเสี่ยงที่กล่าวไปข้างต้น
ส่วนบล.โนมูระ พัฒนสิน มองว่าระยะสั้น SET ยังเหวี่ยง เนื่องจากสถานการณ์ค่าเงินบาทที่ยังอ่อนค่า ซึ่งกระทบต่อการไหลออกของฟันด์โฟลว์โดยเฉพาะกลุ่มพลังงานและกลุ่มอิง Global Plays รวมถึงวันนี้จะมีการ Rebalance ดัชนี FTSE คาดเม็ดเงินต่างชาติไหลออกราว -73 ล้านดอลลาร์ แม้ไม่มีหุ้นไทยเข้าและออก แต่มีการเพิ่มน้ำหนักหุ้น BH จำนวน 35 ล้านดอลลาร์ และลดน้ำหนักหุ้น SCC จำนวน 42 ดอลลาร์ ส่วน PTT, CPALL, AOT, BDMS, KBANK, ADVANC, PTTEP, GULF, CPN, SCB คาดจะโดนลดน้ำหนักราว -6 ถึง-2 ล้านดอลลาร์
อ่านต่อที่นี้ : http://www.efinancethai.com/LastestNews/LatestNewsMain.aspx?ref=A&id=WUh2MnJUeVpTblE9
สำนักข่าวอีไฟแนนซ์ไทย