Fed ฆ่า Trump?

จะเห็นว่าสาเหตุหลักของการที่ตลาดหุ้นพลิกผันจากสภาวะกระทิง และกําลังจะย่างเข้าสู่สภาวะหมีนั้น มาจากการที่ Fed ปรับขึ้นดอกเบี้ย Fed Fund Rate ถึง 4 ครั้ง ในปีนี้คือปี พ.ศ 2561 เพื่อที่จะดับความร้อนแรงทางเศรษฐกิจสหรัฐอเมริกา แต่ในทางตรงกันข้ามก็ส่งผลร้ายต่อหนี้สินต่างๆทั่วโลกที่มีจํานวนมหาศาลที่จะมีต้นทุนทางการเงินที่สูงขึ้น

เมื่อเป็นดังนี้แล้ว แบบจําลองที่ 3 จึงน่าที่จะเป็นไปได้มากที่สุดโดยจะมีเหตุการณ์ที่สําคัญตามมา 3 เหตุการณ์ ดังนี้ คือ :

1) Down Jones ปรับตัวลดลงจาก 18,333 จุด เมื่อวันที่ 8 พฤศจิกายน ปี ค.ศ 2016 ซึ่งเป็นวันเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกาครั้งที่แล้ว มาอยู่ที่ 6,666 จุด ( หรือ ปรับตัวลดลง -63.64% )ในวันอังคารแรกของเดือนพฤศจิกายน ปี ค.ศ 2020 ซึ่งเป็นวันเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกาครั้งต่อไป ส่วน Set Index ปรับตัวลดลงจาก 1,510 จุด เมื่อวันที่ 8 พฤศจิกายน ปี ค.ศ 2016 ซึ่งเป็นวันเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกาครั้งที่แล้ว มาอยู่ที่ 549 จุด ( หรือ ปรับตัวลดลง - 63.64% ) ในวันอังคารแรกของเดือนพฤศจิกายน ปี ค.ศ 2020 ซึ่งเป็นวันเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกาครั้งต่อไป

2) นับจากนี้เป็นต้นไป ดอกเบี้ย Fed Fund Rate จะเป็นขาลง โดยทําจุดสูงสุดที่ 2.50% ไปแล้ว 

3) ประธานาธิบดี Donald Trump จะไม่ได้รับเลือกตั้งเป็นประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกาในสมัยที่ 2ในการเลือกตั้งประธานาธิบดีครั้งต่อไปในวันอังคารแรกของเดือนพฤศจิกายน ปี ค.ศ 2020 

และ เป็นไปตามการคาดการณ์ของ Jim Rogers ดังนี้ คือ :

( เป็นข้อมูล ณ. วันที่ 25 เมษายน ปี พ.ศ 2561 )

เมื่อเป็นดังนี้แล้ว สิ่งที่นักลงทุนควรจะทําก็คือ :

1) เปลียนสถานะจากการเล่น Long เป็นเล่น Short ในช่วงตลาดหมีหรือตลาดขาลงรอบใหญ่

2) เปลียนสถาณะการลงทุนในหุ้นเป็นการถือเงินสด แลัวเข้าซิ้อหุ้นเมื่อ 549 จุด 

อย่างใดอย่างหนึ่ง หรือทั้งสองอย่าง?