ห้องเม่าปีกเหล็ก

เป็นโอกาสเก็บ 5 หุ้นใหญ่ มูลค่าไม่แพง รอรับผลตอบแทนช่วงตลาดฟื้น

โดย นักเดินทาง
เผยแพร่ :
128 views

เป็นโอกาสเก็บ 5 หุ้นใหญ่ มูลค่าไม่แพง

รอรับผลตอบแทนช่วงตลาดฟื้น

.

แม้ตลาดหุ้นจะผันผวนอย่างหนัก แต่ผลตอบแทนจากการลงทุนยังคงเป็นสิ่งที่ทุกคนใฝ่หา ซึ่งหนึ่งในกลยุทธ์ที่นักวิเคราะห์แนะนำ คือ การเฟ้นหาหุ้นที่อยู่ในภาวะขายมากเกินไป (Oversold) แต่ยังมีปัจจัยพื้นฐานดี และ Valuation ไม่แพง ทยอยสะสมในช่วงที่ตลาดย่อตัว เพื่อรับการฟื้นตัวของราคาในช่วงที่ตลาดหุ้นไทยรีบาวน์

.

โดย นักวิเคราะห์จากบริษัทหลักทรัพย์ อินโนเวสท์ เอกซ์ จำกัด ให้มุมมองว่า SET ปรับลงแรง ถูกกดดันจากการอ่อนตัวของราคาน้ำมันและภาพรวมเศรษฐกิจโลกที่ไม่สดใส

.

ล่าสุด World Bank ปรับลดคาดการณ์ GDP growth ประเทศในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ (รวมทั้งไทย) ซึ่งกดดันบรรยากาศการลงทุน ทำให้ SET Index ทำจุดต่ำสุดนับตั้งแต่ปี 2564 ดังนั้นจึงแนะนำ Selective Buy ในธีมหุ้นที่มีปัจจัยเฉพาะตัว

.

ทั้งนี้หนึ่งในธีมหุ้นที่ฝ่ายวิเคราะห์แนะนำ คือ หุ้นเก็งกำไร โดยมองเป็นโอกาสซื้อสะสมหุ้นที่ราคา Oversold และยังมีปัจจัยพื้นฐานดี อีกทั้ง Valuation ไม่แพง (PER และ PBV ปี 2566 ต่ำกว่าค่าเฉลี่ยย้อนหลัง 5 ปี) ได้แก่ CPALL, TOP, CPN, BDMS และ MINT เนื่องจากคาดว่าราคาหุ้นจะรีบาวด์ได้ดีหาก SET ฟื้นตัว

.

สำหรับ CPALL ราคาหุ้นวัน 3 ต.ค. 2566 อยู่ที่ 60 บาท ยังปรับตัวลดลง 12.09% จากต้นปี โดยแนวโน้มการเติบโต นักวิเคราะห์จากบริษัทหลักทรัพย์ กรุงศรี พัฒนสิน จำกัด (มหาชน) ให้มุมมองว่า แนวโน้มกำไรในช่วงครึ่งหลังของปี 2566 จะเติบโตทั้งจากช่วงเดียวกันของปีก่อนและครึ่งปีแรก จากทิศทางยอดขายต่อสาขา (SSSG) ในเดือนก.ค.-ส.ค. ที่ยังบวก 2-4%

.

และอัตรากำไรขั้นต้น (GPM) ของร้านสะดวกซื้อ 7-Eleven ยังเติบโตเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน รวมถึงต้นทุนค่าไฟและดอกเบี้ยที่ลดลง อีกทั้งไตรมาส 4/66 จะเข้าสู่ช่วงพีคของการท่องเที่ยวไทย จึงคงคำแนะนำ ซื้อ ราคาเป้าหมาย 76 บาท พร้อมเลือกเป็นหุ้นเด่นของกลุ่มฯ

.

ส่วน TOP ราคาหุ้นวัน 3 ต.ค. 2566 อยู่ที่ 48 บาท ยังปรับตัวลดลง 14.67% จากต้นปี โดยนักวิเคราะห์จากบริษัทหลักทรัพย์ ลิเบอเรเตอร์ จำกัด ให้มุมมองว่า แนวโน้มค่าการกลั่น (GRM) ยังทรงตัวในระดับสูงจากอุปทานน้ำมันในตลาดโลกที่ตึงตัว

.

ขณะที่อุปสงค์น้ำมันสำเร็จรูปฟื้นตัวจากการเดินทางเพิ่มขึ้นและการหยุดซ่อมของโรงกลั่นขนาดใหญ่ หนุนให้ส่วนต่างราคาผลิตภัณฑ์ฟื้นตัว แต่ปัจจัยที่อาจมีผลกระทบต่อการดำเนินงานคือค่าใช้จ่ายจากเหตุการณ์น้ำมันรั่ว

.

ด้าน Valuation ล่าสุด ซื้อขายบน P/BV ปี 2566 เพียง 0.66 เท่า ต่ำกว่าค่าเฉลี่ยในอดีต 21.2% จึงแนะนำ “ซื้อ” ราคาเป้าหมาย 60 บาท จากแนวโน้มผลการดำเนินงานไตรมาส 3/66 ที่คาดจะขยายตัวได้โดดเด่นสุดในกลุ่มพลังงาน

.

ถัดมา CPN ราคาหุ้นวัน 3 ต.ค. 2566 อยู่ที่ 62.75 บาท ยังปรับตัวลดลง 11.62% จากต้นปี โดยนักวิเคราะห์จากบริษัทหลักทรัพย์ ดาโอ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) ให้มุมมองว่า ยังคงประมาณการกำไรสุทธิปี 2566 อยู่ที่ 1.2 หมื่นล้านบาท เพิ่มขึ้น 15% จากปีก่อน จากการให้ส่วนลดค่าเช่าลดลงจนกลับมาเท่าช่วงก่อนโควิดแล้ว และ Traffic ที่เพิ่มขึ้นจากนักท่องเที่ยวที่เพิ่มขึ้น

.

ขณะที่แนวโน้มกำไรไตรมาส 3/66 คาดว่าจะยังเพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันปีก่อน จากการฟื้นตัวของนักท่องเที่ยว แต่จะหดตัวจากไตรมาสก่อนหน้า เพราะเป็นช่วงหน้าฝน ทำให้ Traffic ลดลง อย่างไรก็ตามยังคงคำแนะนำ ซื้อ และราคาเป้าหมายปีนี้ที่ 80 บาท โดยแบ่งเป็นธุรกิจหลัก 79 บาท และธุรกิจ Residential 1 บาท

.

ต่อกันที่ BDMS ราคาหุ้นวัน 3 ต.ค. 2566 อยู่ที่ 26.75 บาท ยังปรับตัวลดลง 7.76% จากต้นปี โดยนักวิเคราะห์จากบริษัทหลักทรัพย์หยวนต้า (ประเทศไทย) จำกัด ให้มุมมองว่า คงมุมมองเป็นบวกต่อแนวโน้มผลประกอบการปี 2566 ที่คาดเติบโตดีต่อเนื่อง รับผลบวกเต็มปีจากการเปิดประเทศ

.

ขณะที่ 3 ปีข้างหน้า (2567-2569) ประมาณการรายได้เติบโตเฉลี่ย 7% โดยมีปัจจัยหนุนจากการเติบโตจากธุรกิจหลัก กลยุทธ์การขยายฐานลูกค้าใหม่ อาทิ กลุ่มประกันสุขภาพ และกลุ่ม Wellness & Residence สอดคล้องกับการที่ประเทศไทยกำลังจะก้าวสู่สังคมผู้สูงอายุ และแผนขยายโรงพยาบาลทั้งสร้างใหม่ต่อเนื่อง

.

รวมถึงแผน M&A ขณะที่ราคาหุ้น BDMS ปรับลดลง 8% ในช่วง 2 เดือนสวนทางผลประกอบการที่ฟื้นตัว จึงมองเป็นจังหวะในการสะสม คงมูลค่าพื้นฐานสิ้นปีนี้ที่ 37.40 บาท

.

สุดท้าย MINT ราคาหุ้นวัน 3 ต.ค. 2566 อยู่ที่ 31 บาท ยังปรับตัวลดลง 3.88% จากต้นปี โดยนักวิเคราะห์จากบริษัทหลักทรัพย์หยวนต้า (ประเทศไทย) จำกัด ให้มุมมองว่า คาดกำไรปกติในไตรมาส 3/66 จะเติบโตจากช่วงเดียวกันของปีก่อน แม้เจอฐานสูง แต่ตัวเลขการดำเนินงานในเดือนก.ค.- ส.ค. ยังแข็งแกร่งทั้งในธุรกิจโรงแรมและร้านอาหาร แต่กำไรปกติคาดชะลอลงจากไตรมาสก่อนหน้า ตามปัจจัยด้านฤดูกาล

.

ทั้งนี้ คงประมาณการปี 2566 คาดกาไรปกติที่ 6.4 พันล้านบาท โต 219% จากปีก่อน พร้อมคงคำแนะนำ ซื้อ ราคาเหมาะสมที่ 44 บาท โดยยังเลือก MINT เป็นหุ้นเด่นกลุ่มท่องเที่ยว จากValuation ที่ไม่แพงราคาหุ้น Laggard กลุ่มอย่างชัดเจน แต่ได้ประโยชน์จากการฟื้นตัวของนักท่องเที่ยวจีนเช่นกัน

 

 


นักเดินทาง