KLINIQ อุปสงค์ด้านความงามเริ่มมีสัญญาณชะลอตัว

ยอดขายเงินสดเดือนต.ค. ทำสถิติสูงสุด แต่บริการที่มีอัตรากำไรต่ำยังจะกดดันผลประกอบการไตรมาส 4/2568
ยอดขายเงินสดเดือนต.ค. ทำสถิติสูงสุด แม้ว่าปกติแล้วเดือนธ.ค. จะเป็นจุดสูงสุดของไตรมาส ทั้งนี้ KLINIQ เปิดสาขาใหม่ 3 สาขา รวมง 1 สาขาที่เป็นการรีแบรนด์ ผู้บริหารเห็นการมาใช้บริการของลูกค้าเพิ่มขึ้นตามฤดูกาล แต่บริการบางส่วนของไตรมาส 4/2568 จะมาจากบริการที่มีอัตรากำไรต่ำซึ่งมีการขายไปในไตรมาส 3/2568
ลูกค้ามีการเปลี่ยนไปซื้อแพ็กเกจราคาต่ำในไตรมาส 3/2568
ผู้บริหารระบุว่า เห็นผลกระทบจากภาวะเศรษฐกิจที่อ่อนแอต่อรายได้เงินสดเป็นครั้งแรกในไตรมาส 3/2568 โดยลูกค้ามีการเปลี่ยนไปซื้อแพ็กเกจราคาต่ำลง ซึ่งส่วนใหญ่เป็นบริการที่มีอัตรากำไรต่ำ และมีความระมัดระวังมากขึ้นในการตัดสินใจซื้อบริการที่มีราคาสูง KLINIQ ได้ออกแพ็กเกจแบบรวมหลายบริการในราคาคุ้มค่าเพื่อกระตุ้นอุปสงค์
การเข้มงวดด้านค่าคอมมิชชั่นเพื่อควบคุมต้นทุนสำหรับบริการที่มีอัตรากำไรต่ำ
KLINIQ มีการปรับค่าคอมมิชชั่นตามประเภทของบริการเป็นระยะ โดยลดค่าคอมมิชชั่นสำหรับบริการที่ขายง่าย และเพิ่มขึ้นสำหรับบริการที่มีความซับซ้อนมากขึ้น ระดับค่าคอมมิชชั่นยังถูกปรับเพื่อส่งเสริมการขายสำหรับบางบริการในแต่ละช่วงเวลา อย่างไรก็ตาม การนำแนวทางดังกล่าวไปปฎิบัติยังทำได้ไม่ดี ทำให้ KLINIQ จะเริ่มเข้มงวดขึ้นในไตรมาส 4/2568 โดยพนักงานขายที่ไม่ปฏิบัติตามกลยุทธบริษัทจะได้รับค่าคอมมิชชั่นต่ำลง เพื่อให้บริษัทลดค่าคอมมิชชั่นในบริการที่มีอัตรากำไรต่ำ
มุมมอง KS : ปรับลดคำแนะนำเป็น “ถือ” จาก “ซื้อ” ภาวะเศรษฐกิจที่อ่อนลงเริ่มกดดันอุปสงค์ด้านความงาม โดย KLINIQ จะต้องเผชิญแรงกดดันต่ออัตรากำไรอย่างต่อเนื่องจากสัดส่วนบริการที่มีอัตรากำไรต่ำที่เพิ่มขึ้น แม้กำไรไตรมาส 4/2568 มีแนวโน้มเติบโต YoY แต่เราเห็นว่าเป็นปัจจัยบวกในระยะสั้น