หลังจากที่ตลาดหุ้นสหรัฐอเมริกา ตลาดหุ้นทั่วโลกรวมทั้งตลาดหุ้นไทยปรับตัวลดลงเนื่องจากรับข่าวร้าย 2 ข่าวคือ :
1) สงครามการค้าระหว่างสหรัฐอเมริกากับจีนโดยการปรับขึ้นภาษีนําเข้าสินค้าซึ่งกันและกัน 2 ครั้งคือวันที่ 1 สิงหาคม ปี พ.ศ 2562 และวันที่ 23 สิงหาคม ปี พ.ศ 2562 โดยการประกาศผ่านทาง @realDonaldTrump
2) Inverted Yield Curve ซึ่งเป็นสาเหตุของการถดถอยครั้งแรกในรอบ 12 ปีตั้งแต่ปี พ.ศ 2550 เมื่อวันที่ 14 สิงหาคม ปี พ.ศ 2562 และมีผลต่อเนื่องตามมาหลายครั้ง
ข่าวร้ายทั้งสองข่าวดังกล่าวข้างต้นได้ทําให้ดาวโจนส์ และตลาดหุ้นไทยปรับฐานลงไปทําจุดตํ่าสุดในรอบที่แล้วดังนี้ คือ :
1) Down Jones :
1.1) จุดสูงสุดตลอดกาลคือ 27,398 จุด เมื่อวันที่ 16 กรกฎาคม ปี พ.ศ 2562
1.2) จุดตํ่าสุดในรอบที่แล้วคือ 25,339 จุด เมื่อวันที่ 15 สิงหาคม ปี พ.ศ 2562
1.3) ปิดที่ 26,797 จุด เมื่อวันที่ 6 กันยายน ปี พ.ศ 2562
2) Set Index :
2.1) จุดสูงสุดในรอบที่แล้วคือ 1,748 จุด เมื่อวันที่ 11 กรกฎาคม ปี พ.ศ 2562
2.2) จุดตํ่าสุดในรอบที่แล้วคือ 1,590 จุด เมื่อวันที่ 15 สิงหาคม ปี พ.ศ 2562
2.3) ปิดที่ 1,670 จุด เมื่อวันที่ 6 กันยายน ปี พ.ศ 2562
ส่วนข่าวดีที่จะทําให้ตลาดหุ้นเป็นขาขึ้นในระยะต่อไปคือ :
1) การประชุม FOMC ในวันที่ 18 กันยายน ปี พ.ศ 2562
2) การเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐอเมริกากับจีนในช่วงต้นเดือนตุลาคม ปี พ.ศ 2562
หมายเหตุ : โปรดติดตามการ Long และ Short Set 50 Derivatives ในระยะยาวได้ใน longtunbysak.blogspot.com และ Group Facebook