นักลงทุนต่างชาติซื้อหุ้นไทยต่อเนื่องในวันนี้ วันที่ 6 สิงหาคม ปี พ.ศ 2561 จํานวน +1,229.07 ล้าน บาท ทําให้นักลงทุนต่างชาติซื้อต่อเนื่องเป็นจํานวน 9 วันทําการแล้ว ยกเว้นวันที่ 25 กรกฎาคม ปี พ.ศ 2561 เท่านั้น และ สรุปการซื้อหุ้นไทยของนักลงทุนต่างชาติเป็นดังนี้ คือ :
ยอดขายสุทธิตั้งแต่ต้นปีถึงวันที่ 19 กรกฎาคม ปี พ.ศ 2561 = -198,405.75 ล้าน บาท ( ขายสะสมสูงที่สุดเป็นประวัติการณ์ )
1) วันที่ 20 กรกฎาคม ปี พ.ศ 2561 นักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิ = + 979.39 ล้าน บาท
2) วันที่ 23 กรกฎาคม ปี พ.ศ 2561 นักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิ = +1,610.98 ล้าน บาท
3) วันที่ 24 กรกฎาคม ปี พ.ศ 2561 นักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิ = +1,309.54ล้าน บาท
4) วันที่ 25 กรกฎาคม ปี พ.ศ 2561 นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิ = -330.56 ล้าน บาท
5) วันที่ 26 กรกฎาคม ปี พ.ศ 2561 นักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิ = +2,313.76 ล้าน บาท
6) วันที่ 31 กรกฎาคม ปี พ.ศ 2561 นักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิ = +1,823.67 ล้าน บาท
7) วันที่ 1 สิงหาคม ปี พ.ศ 2561 นักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิ = +1,147.73 ล้าน บาท
8) วันที่ 2 สิงหาคม ปี พ.ศ 2561 นักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิ = +347.52 ล้าน บาท
9) วันที่ 3 สิงหาคม ปี พ.ศ 2561 นักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิ = + 560.11 ล้าน บาท
10) วันที่ 6 สิงหาคม ปี พ.ศ 2561 นักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิ = +1229.07 ล้าน บาท
รวมนักลงทุนต่างชาติซื้อ 9 วันทําการและขาย 1 วันทําการ = +10,991.21 ล้าน บาท
ยอดขายสุทธิตั้งแต่ต้นปีถึงวันที่ 6 สิงหาคม ปี พ.ศ 2561 = -187,414.54 ล้าน บาท
การกลับมาซื้อหุ้นไทยของนักลงทุนต่างชาติ น่าจะพยุงตลาดหุ้นไทยไม่ให้ปรับฐานอย่างรุนแรงเหมือนก่อนหน้านี้ ก่อนที่จะเป็นขาขึ้นต่อไปในอนาคตได้
การที่นักลงทุนต่างชาติกลับมาซื้อทั้งหุ้นไทยและหุ้นในภูมิภาคแถบเอเชีย อาจจะมีสาเหตุมาจาก 2 ประการด้วยกัน คือ :
1) FOMC อาจจะปรับขึ้นดอกเบี้ย Fed Fund Rate เพียงแค่ครั้งเดียวในช่วงที่เหลือของปีนี้คือปี พ.ศ 2561 จากการชี้นําของประธานาธิบดี Donald Trump เพราะ ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐแข็งค่ามากเกินไป เมื่อเปรียบเทียบกับค่าเงินหยวนของจีน และ ค่าเงิน EURO ของสหภาพยุโรป
2) กนง. อาจจะปรับขึ้นดอกเบี้ยนโยบายในช่วงที่เหลือของปีนี้คือปี พ.ศ 2561 แทนที่จะเป็นต้นปีหน้าคือปี พ.ศ 2562
หมายเหตุ 1) ที่มาจาก ( www.set.or.th )
2) โปรดติดตามรายละเอียดการลงทุนใน สภาวะตลาดกระทิง และ ธุรกิจรับเหมาขาขึ้นรอบใหญ่ได้ใน longtunbysak.blogspot.com