ห้องเม่าปีกเหล็ก

กูรู ประเมินบาทแข็งค่ารอบนี้อาจแตะ 32 บ./ดอลล์ จับตาธปท.แทรกแซง

โดย 8080
เผยแพร่ :
68 views

กูรู ประเมินบาทแข็งค่ารอบนี้อาจแตะ 32 บ./ดอลล์ จับตาธปท.แทรกแซง

กูรู ชี้เงินบาทแข็งค่าในรอบ 8 เดือน เหตุท่องเที่ยวฟื้น หลังจีนเปิดประเทศ คาดรอบนี้อาจแตะ 32 บ./ดอลล์ จับตาธปท.แทรกแซง แนะหุ้นโรงไฟฟ้า - สายการบิน - นิคม - นำเข้าเด่น

 

.

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากค่าเงินบาทปรับตัวแข็งค่าสูงสุดในรอบ 8 เดือน แตะระดับประมาณ 33.98 บาท/ดอลลาร์ เนื่องจากนักลงทุนคาดหวังภาพรวมการท่องเที่ยวไทยมีโอกาสฟื้นตัวกลับมาในปี 66 นี้ โดยเฉพาะหลังจากจีนเปิดประเทศ ซึ่งนักท่องเที่ยวจีนถือเป็นกลุ่มเป้าหมายสำคัญของไทย

.

อย่างไรก็ตามภาพรวมเงินบาท โบรกฯประเมินว่า มีโอกาสแข็งค่าได้ไม่เกินระดับ 32-33 บาท/ดอลลาร์ เนื่องจากแม้เศรษฐกิจไทยจะมีโอกาสฟื้นตัวดี เงินบัญชีเดินสะพัดพลิกกลับมาเกินดุลจากประเด็นการท่องเที่ยวหนุน แต่การแข็งค่าที่เร็วเกินไปอาจทำให้ธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.) มีโอกาสเข้าแทรกแซงได้ เพราะเงินบาทที่แข็งค่าจะกระทบภาคการส่งออก

.

นอกจากนี้แม้ว่าทิศทางการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของสหรัฐฯ ยังคงมีอยู่ แต่คงเป็นไปในทิศทางชะลอขึ้นดอกเบี้ย ส่งผลให้เม็ดเงินไหลกลับเข้าตลาดตราสารหนี้ขนาดใหญ่ในสหรัฐฯ หนุนเงินดอลลาร์แข็งค่า กดดันเงินบาทอ่อนค่าได้

.

*** ซีไอเอ็มบีไทย คาดอาจแข็งค่าแตะ 32 บ./ดอลล์

ดร.อมรเทพ จาวะลา ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ ผู้บริหารสำนักวิจัยและที่ปรึกษาการลงทุน ธนาคาร ซีไอเอ็มบี ไทย จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ภาพรวมค่าเงินบาทแข็งค่าขึ้นตั้งแต่ปลายปี 65 เนื่องจากนักลงทุนคาดการณ์ว่าสหรัฐฯ อาจขึ้นอัตราดอกเบี้ยได้น้อยลง ประกอบกับเก็งกำไรเรื่องนักท่องเที่ยวจีนกลับเข้ามาหลังประเทศจีนเปิดประเทศ ซึ่งแม้ว่าจะเริ่มเห็นชัดเจนในไตรมาส 2/66 แต่นักลงทุนเก็งกำไรล่วงหน้าก่อนแล้ว

.

โดยประเด็นดังกล่าวช่วยหนุนให้ดุลบัญชีสะพัดจากขาดดุลพลิกกลับมาเกินดุลได้ จากรายได้ของกลุ่มการท่องเที่ยวซึ่งเป็นตัวสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทย

.

ระดับการแข็งค่ามีโอกาสจะเห็นในระดับต้นๆ 32 บาท/ดอลลาร์ แต่คาดว่าจะไม่แข็งค่ามากกว่านั้น เนื่องจากการเปิดเมืองของจีนหลังจากนี้ ยังเป็นสิ่งที่ต้องติดตามเพราะการเปิดเมืองอาจทำให้การติดเชื้อโควิด-19 สูง ซึ่งมาตรการต่างๆ ในอนาคตอาจมีการปรับเปลี่ยนได้

.

ประกอบกับการเปิดเมืองของจีน ทำให้ความต้องการใช้พลังงานอย่างน้ำมันมีโอกาสเพิ่มมากขึ้น จากการสัญจร ท่องเที่ยว ซึ่งอาจนำไปสู่ภาวะเงินเฟ้อจากประเด็นราคาพลังงานที่ปรับตัวเพิ่มขึ้นได้ แม้ว่าในปัจจุบันราคาพลังงานจะลดลง จากความกังวลเศรษฐกิจสหรัฐฯ ชะลอตัวก็ตาม ซึ่งอาจเป็นตัวแปรสำคัญ กระทบค่าเงินบาทได้

.

สำหรับกรณีบาทแข็งค่าจะช่วยหนุนธุรกิจในภาคนำเข้า ซึ่งหากมองโอกาสการลงทุนอาจเป็นจังหวะดี โดยหลังจากนี้ต้องติดตามนโยบายภาครัฐบาลว่าจะช่วยดึงดูดการลงทุนอย่างไรบ้าง

.

*** บล.ยูโอบีฯ คาดอาจเห็นธปท.แทรกแซงช่วยส่งออก

นายกิจพณ ไพรไพศาลกิจ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ บล.ยูโอบี เคย์เฮียน (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) เปิดเผยกับ "สำนักข่าวอีไฟแนนซ์ไทย" ว่า ค่าเงินบาทอ่อนค่ามาจาก 3 ปัจจัยหลักได้แก่ 1.สกุลเงินดอลลาร์ชะลอการแข็งค่าลง หลังความกังวลภาวะเศรษฐกิจชะลอตัว 2.ตัวเลขเศรษฐกิจไทยมีแนวโน้มฟื้นตัว จากเงินดุลสะพัดมีโอกาสกลับมาเกินดุลจากการท่องเที่ยวในประเทศที่ฟื้นตัว และ3.ไทยและภูมิภาคเอเชียถือเป็นกลุ่มประเทศที่นักลงทุนต่างชาติสนใจเข้าลงทุน เนื่องจากไทยมีหนี้ไม่เยอะและมีเงินทุนสูง เมื่อเทียบกับกลุ่มหนี้สูงอย่างฝั่งยุโรป หรือกลุ่มประเทศที่ไม่สามารถชำระหนี้ได้ทัน (กลุ่มเศรษฐกิจเปราะบาง)

.

โดยประเมินค่าเงินบาทในปี 66 นี้ กรอบ 33-36 บาท/ดอลลาร์ โดยมองว่าการแข็งค่าเงินบาทคงไม่หลุด 33 บาท/ดอลลาร์ เนื่องจากหากเงินบาทแข็งค่ามากเกินไป ธปท.จะเข้าแทรกแซงตลาดเพื่อช่วยเหลือภาคการส่งออกได้ อีกทั้งการชะลอขึ้นอัตราดอกเบี้ยสหรัฐฯ ทำให้เม็ดเงินไหลกลับเข้าตลาดตราสารหนี้ ซึ่งสหรัฐฯ เป็นตลาดใหญ่สุด จึงมีโอกาสที่เงินลงทุนจากตลาดหุ้น ไหลเข้าไปตลาดตราสารหนี้โดยปัจจุบันพันธบัตรตราสารหนี้ 10 ปี มีอัตราผลตอบแทนที่น่าสนใจ จึงมีโอกาสทำให้สกุลเงินดอลลาร์แข็งค่า และกดดันค่าเงินในภูมิภาคเอเชียรวมถึงไทยอ่อนค่าลงได้

.

อย่างไรก็ตามค่าเงินบาทที่แข็งค่าในปัจจุบันมองว่าเป็นผลบวกต่อกุ้นในกลุ่มโรงไฟฟ้า ซึ่งได้รับประโยชน์จากการบันทึกกำไรอัตราแลกเปลี่ยน

.

*** โบรกฯ แนะหุ้นนำเข้า - โรงไฟฟ้า - กลุ่มหนี้ต่างประเทศ

บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) ดีบีเอส วิคเคอร์ส (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่า ภาพรวมเงินบาทเมื่อวานนี้แข็งค่าสุดในรอบ 8 เดือน ที่ระดับ 33.98 บาท/ดอลลาร์ ด้านสกุลเงินในภูมิภาคส่วนใหญ่แข็งค่า ซึ่งเงินบาทแข็งค่านำภูมิภาค โดยหุ้นที่ได้รับผลกระทบเมื่อบาทแข็ง ได้แก่ 1.กลุ่มเน้นการนำเข้าวัตถุดิบหรือ สินค้าจากต่างประเทศ เช่น นำเข้าเม็ดถั่วเหลือง (TVO) , นำเข้ามือถือ สินค้าไอที (COM7 , JMART , SPVI , SIS , CPW)

.

2.กลุ่มมีหนี้ต่างประเทศจะบันทึกกำไรจากอัตราแลกเปลี่ยนสูง เช่น โรงไฟฟ้า (BGRIM , GPSC , GULF , EGCOMP , WHA , WHAUP , AMATA , BA , AAV) และ 3. หุ้นได้รับผลเสียเมื่อบาทแข็ง คือ กลุ่มส่งออก ,ท่องเที่ยว (นักท่องเที่ยวแลกเป็นเงินบาทได้น้อยลง เมื่อบาทแข็ง)

.

ด้านบล.โนมูระ พัฒนสิน ประเมินหุ้นกลุ่มได้ประโยชน์บาทแข็ง เป็นบวกต่อกลุ่มหนี้ต่างประเทศจะนำตลาดเป็นบวกต่อกลุ่มหนี้ต่างประเทศและนำเข้า ได้แก่ สายการบิน (AAV, BA), โรงไฟฟ้า (GPSC ,GULF BGRIM) , พลังงาน (PTTGC ,TOP , IVL , PTT) , กลุ่มนิคม (AMATA ,WHA) กลุ่มนำเข้าสินค้า (TOA , ICHI , SABINA , JUBILE , JMART , COM7 , SYNEX , SIS)

***********************************

 

 


8080