คิดเป็นเห็นก่อน

คิดเป็นเห็นก่อน 

PDI โชว์งบฯ Q2/60 สุดหรู พื้นฐานกลับมาแกร่ง ราคาหุ้นต่ำไปหรือไม่?

ปัญหาความขัดแย้งระหว่างเกาหลีเหนือกับสหรัฐฯ เริ่มสั่นคลอนความเชื่อมั่นการลงทุนในสินทรัพย์เสี่ยงทั่วโลก ตลาดหุ้นทั่วโลกพากันดิ่งลง หลังเกาหลีเหนือเปิดเผยแผนการโจมตี ฐานทัพสหรัฐฯที่เกาะกวมและผู้นำสหรัฐฯก็แสดงท่าทีตอบโตด้วยความแข็งกร้าวตอบกลับในทันที นักวิเคราะห์ทั่วโลกต่างแสดงความกังวลต่อความตรึงเครียดดังกล่าว แต่ก็ยังคาดหวังว่าทุกฝ่ายจะสามารถหาทางประนีประนอมให้เรื่องดังกล่าวคลี่คลายลงได้ไม่ลุกลามบานปลาย

สำหรับตลาดหุ้นไทยก็โดนไปเต็มๆเหมือนกัน จากปัจจัยภายนอกดังกล่าว นอกจากนี้ปัจจัยหนุนเรื่องผลประกอบการไตรมาส 2/60 ก็กำลังเข้าสู่ช่วงโค้งสุดท้ายแล้วปัจจัยสนับสนุนเริ่มอ่อนแรง  อีกทั้งตลาดหุ้นไทยเข้าสู่ช่วงวันหยุดยาวพอดี นักลงทุนส่วนใหญ่จึงขายทำกำไรออกมาก่อน รอดูสถานการณ์ความชัดเจนหลังจากนี้อีกที อาจจะมีนักลงทุนใจกล้าบางส่วนอาศัยราคาหุ้นปรับตัวลงแรงแล้วเข้าไปรับซื้อหุ้นในราคาต่ำเพื่อหวังผลตอบแทนที่สวยหรูเมื่อสถานการณ์คลี่คลายลง แต่ต้องเป็นคนที่จิตใจมั่นคงทำการบ้านมาอย่างดีแล้วเหมือนกัน ความกล้าอย่างเดียวไม่สามารถประสบความสำเร็จได้นะครับ

PDI หรือ บมจ.ผาแดงอินดัสทรี หุ้นเก่าแก่ที่ภายหลังได้ บมจ.คันทรี่ กรุ๊ป โฮลดิ้ง หรือ CGH มาถือหุ้นใหญ่กว่า 25% ได้เข้ามาปรับโครงสร้างการดำเนินธุรกิจครั้งใหญ่ จากการพึ่งพาธุรกิจหลักในการผลิตและจำหน่ายโลหะสังกะสี ซึ่งเป็นสินค้าที่มีความผันผวนทั้งราคาในตลาดโลกและอัตราแลกเปลี่ยนที่บริหารจัดการได้ยาก   ผู้บริหารชุดใหม่จึงได้เข้ามาปรับโครงสร้างการทำธุรกิจใน 3 กลุ่มหลักได้แก่ 1. พีดีไอ เอ็นเนอร์ยี ดำเนินธุรกิจจัดหาพลังงานจากแหล่งพลังงานทดแทน 2. พีดีไอ แมททีเรียล ดำเนินธุรกิจจัดหาผลิตภัณฑ์ที่มีมูลค่าเพิ่มจาการรีไซเคิล และ 3. พีดีไอ อีโค ดำเนินธุรกิจจัดหาวัตถุดิบจากของเสียและบริหารจัดการของเสียที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม

ล่าสุด PDI รายงานผลดำเนินงานไตรมาส 2/60 มีกำไรสุทธิ 210.75 ล้านบาท เพิ่มขึ้น ร้อยละ109.5 จากช่วงเดียวกันปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 100.60 ล้านบาท ขณะที่กำไรช่วงครึ่งปีแรก 523 ล้านบาท โต 300% จากช่วงเดียวกันปีก่อน หลังราคาโลหะสังกะสีโลกทะยานต่อเนื่อง นอกจากนี้ความเปลี่ยนแปลงโครงสร้างธุรกิจดังกล่าวเริ่มผลิดอกออกผล และจะเห็นถึงความก้าวหน้าในอีก 1-2 ปีนี้อย่างแน่นอน

ดำเนินงานตามแผนกลยุทธ์การเปลี่ยนแปลงธุรกิจอย่างต่อเนื่องและมีความก้าวหน้าอย่างมาก โดยเฉพาะการลงทุนในโครงการพลังงานทดแทน โดยโครงการก่อสร้างโรงไฟฟ้าพลังแสงอาทิตย์แห่งที่สองในประเทศญี่ปุ่น จำนวน 10.57 เมกะวัตต์ มีความคืบหน้าเป็นไปด้วยดี และคาดว่าจะสามารถเริ่มดำเนินการได้ภายใน ไตรมาส 3/60 ส่วนโครงการโรงไฟฟ้าพลังแสงอาทิตย์ จำนวน 6.5 เมกะวัตต์ในจังหวัดตาก ซึ่งดำเนินการโดยบริษัท พีดีไอ แม่ระมาด จำกัด มีผลการดำเนินงานสูงกว่าเป้าหมายที่กำหนดไว้ และทางผู้บริหารยังคงหาโอกาสการลงทุนในธุรกิจอื่นๆ ที่สามารถสร้างผลตอบแทนให้กับบริษัทฯในอนาคตอีกด้วย

จึงไม่แปลกที่เห็นราคาหุ้น PDI ปรับตัวขึ้นต่อเนื่องตามผลการดำเนินงานที่เติบโตอย่างงดงาม  นอกจากนี้ราคาหุ้นปัจจุบันยังซื้อขายกันที่ พีอี 6-7 เท่า ปันผลตอบแทนก็สูงระดับ 4.5% นับว่าน่าสนใจไม่น้อยเมื่อเทียบกับผลการดำเนินงานที่ประกาศออกมาและที่คาดว่าเติบโตได้อีกมากในอนาคต  ตลาดแบบนี้ก็ลองค้นหาหุ้นดีๆ พื้นฐานแจ่มราคาไม่แพง อนาคตสดใสแบบนี้ลงทุนกัน น่าจะดีที่สุดนะครับ  อย่างไรก็ตามก็ต้องไปศึกษาหาข้อมูลเพิ่มเติมในหุ้นทุกๆตัวที่เราสนใจกันด้วยนะครับ อย่าเชื่อเพียงการนำมาบอกกล่าวหรือกระแสข่าวที่เกิดขึ้นเพียงอย่างเดียวนะครับ