ตลาดหุ้นญี่ปุ่นเผชิญปัจจัยรุมเร้า

ตลาดหุ้นญี่ปุ่นเผชิญปัจจัยรุมเร้า IPO หาย 40%

สำนักข่าว Nikkei Asia รายงานว่า ตลาดหลักทรัพย์หลักของญี่ปุ่น มีบริษัทที่ยื่นข้อจดทะเบียนเสนอขายหุ้นแก่ประชาชนทั่วไปเป็นครั้งแรก (IPO) ระหว่างเดือน เม.ย. - มิ.ย. เพียง 37 ราย ลดลง 40% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว ท่ามกลางนโยบายทางการเงินเข้มงวดทั่วโลกและสงครามในประเทศยูเครน

.

การชะลอตัวดังกล่าวนับเป็นตัวเลขที่ต่ำที่สุดนับตั้งแต่การร่วงลง 78% ในปี 2551 สะท้อนให้เห็นถึงการต่อสู้ของตลาดหลักทรัพย์โตเกียวเพื่อสร้างตลาดการเติบโตใหม่ (Growth Market) ในฐานะตลาดหุ้นดึงดูดนักลงทุนที่พร้อมจะเสี่ยงกับบริษัทที่กำลังเติบโต

.

เหตุผลสำคัญที่ทำให้การยื่นจดทะเบียน IPO ลดลงนั้นเนื่องจากนักลงทุนได้ให้ความสำคัญกับความสามารถในการทำกำไรมากกว่าการเติบโตของยอดขาย ขณะที่บริษัทเทคโนโลยีที่ต้องการเม็ดเงินล่วงหน้าจำนวนมากสำหรับการลงทุน พบว่าการทำให้มูลค่าทางตลาดให้สูงนั้นทำได้ยากขึ้น ยกตัวอย่าง Informetis บริษัทพลังงานปัญญาประดิษฐ์ และ Wellness Communications ผู้พัฒนาระบบการจัดการสุขภาพ ได้เลื่อนการยื่นจดทะเบียน IPO ออกไป

.

ขณะที่การเสนอขายหุ้น IPO ที่ยังดำเนินต่อไป กลับมีขนาดที่เล็กลง มูลค่าราคาตามตลาดโดยเฉลี่ยอยู่ที่ 1.54 แสนล้านเยน (107 ล้านดอลลาร์) หรือลดลงหนึ่งในสาม จากวันที่เข้าตลาด โดยบริษัทเดียวที่มีมูลค่าตามราคาตลาดสูงกว่า 1 แสนล้านเยน และจดทะเบียนปีนี้คือ Anycolor บริษัทเอเจนซี่สำหรับคนดังเสมือนจริงหรือ VTuber

.

จำนวนเงินทั้งหมดที่เพิ่มขึ้นในการเสนอขายหุ้น IPO ได้ลดลง 60% มาอยู่ที่ 3 หมื่นล้านเยน ขณะที่ค่าเฉลี่ยต่อบริษัทลดลง 30% มาอยู่ที่ 800 ล้านเยน เนื่องจากความต้องการที่ลดลงอย่างมากในกลุ่มนักลงทุนต่างชาติที่อยู่เบื้องหลังราคาตลาดที่สูงขึ้นในปีที่แล้ว

.

การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) และในยุโรป รวมถึงผลกระทบจากการรุกรานยูเครนของรัสเซีย เป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้การจดทะเบียน IPO ลดลง แต่การลดลงดังกล่าวยังตอกย้ำให้เห็นถึงช่วงเริ่มต้นของการยกเครื่องตลาดหลักทรัพย์โตเกียว (TSE) เพื่อทำให้ตลาดน่าดึงดูดยิ่งขึ้นสำหรับนักลงทุนและธุรกิจที่ต้องการระดมทุน

.

โดย TSE ได้ทำการจัดระเบียบใหม่เมื่อเดือนเม.ย. ปีนี้ แบ่งออกเป็นสามตลาดที่ประกอบด้วย ตลาด Prime ตลาด Standard และ ตลาด Glowth มีเป้าหมายสำคัญคือการเปลี่ยนภาพลักษณ์ของตลาด Mothers ซึ่งเป็นตลาดสำหรับธุรกิจสตาร์ทอัป และเป็นตลาดที่มีการเสนอขาย IPO จำนวนมากในปี 2564

.

การปรับโครงสร้างองค์กรส่งผลต่อตลาดบ้าง แต่ผลลัพธ์ยังไม่เด่นชัด

หากตลาดสามารถดึงดูดนักลงทุนได้มากขึ้น การไหลเข้าของเงินทุนก็จะทำให้บริษัทมีความน่าสนใจมากยิ่งขึ้น ก็จะเป็นการกระตุ้นให้นักลงทุนมีความสนใจมากขึ้น และเป็นกุญแจสำคัญที่จะสร้างแนวทางการลงทุนที่ดีในระยะยาว

***********************************