3 หุ้นท่องเที่ยวจ่อวิ่ง

3 หุ้นท่องเที่ยวจ่อวิ่งคึก

รับอานิสงส์มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจล็อตใหม่

.

ภาคการท่องเที่ยวของไทยเตรียมกลับมาคึกคักอีกครั้ง หลังเริ่มเห็นนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจด้านการท่องเที่ยวจากภาครัฐที่ดูเป็นรูปเป็นร่างขึ้นมามากขึ้น โดยล่าสุด การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เตรียมเสนอ 3 มาตรการ กระตุ้นภาคการท่องเที่ยว วงเงินรวม 3,500 ล้านบาท ประกอบด้วย

.

1.เที่ยวไทยคนละครึ่ง (อาจมีการปรับลดสิทธิ์จากเดิมที่คาด) 2. การส่งเสริมโปรโมชั่นร่วมกับแพลตฟอร์มท่องเที่ยว และ 3. การส่งเสริมโปรโมชั่นกับสายการบินเพื่อดึงนักท่องเที่ยวจีนโดยเฉพาะ โดยจะหารือกับกระทรวงท่องเที่ยว และนายกฯ สัปดาห์นี้ ก่อนเสนอครม. ในระยะถัดไป

.

สำหรับประเด็นนี้ บริษัทหลักทรัพย์ เมย์แบงก์ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) มองว่าน่าจะเป็น sentiment บวกอ่อน ๆ ต่อกลุ่มโรงแรมและสายการบิน CENTEL, MINT, AAV

.

ทั้งนี้ บล.เมย์แบงก์ (ประเทศไทย) แนะนำ "ซื้อ" บริษัท โรงแรมเซ็นทรัลพลาซา จำกัด (มหาชน) หรือ CENTEL ราคาเป้าหมายที่ 44.00 บาท โดยมองว่า CENTEL มีอัพไซด์จากแผนกระตุ้นการท่องเที่ยวภายในประเทศของภาครัฐในช่วงโลว์ซีซั่นที่กำลังจะมาถึง รวมถึงกำไรที่เพิ่มขึ้นจาก M&A ในธุรกิจอาหารและกำไรจากการขายสินทรัพย์ในญี่ปุ่น ซึ่ง ADR คาดว่าจะขึ้นถึงจุดสูงสุดในปี 68

.

อย่างไรก็ดี คาดการณ์กำไรหลักปี 67-70 เติบโต 18% CAGR คิดเป็น Price/Earnings To Growth Ratio (PEG) เพียง 1.0 เท่า ซึ่งเป็นระดับที่น่าสนใจที่สุดในกลุ่มโรงแรมที่บล.เมย์แบงก์วิเคราะห์ สำหรับปัจจัยเสี่ยงด้านลบ ได้แก่ การฟื้นตัวของนักท่องเที่ยวจีนที่ล่าช้า (คิดเป็น 9% ของรายได้จากโรงแรมปี 67) ในช่วงครึ่งหลังของปี 68 ขาดทุนจากธุรกิจในมัลดีฟส์ที่อาจสูงกว่าคาดการณ์และอัตราการยกเลิกการจองที่เพิ่มขึ้นหลังเหตุแผ่นดินไหวล่าสุด

.

ขณะที่ บล.พาย แนะนำ “ซื้อ” บริษัท ไมเนอร์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) หรือ MINT ด้วยราคาเป้าหมาย 36.00 บาท โดยมองว่าในไตรมาส 2/68 มีโอกาสเติบโตจากช่วงเดียวกันของปีก่อน หนุนจาก 1) แนวโน้มการฟื้นตัวของธุรกิจโรงแรม ด้วยยอดการจองล่วงหน้าตั้งแต่เดือนเมษายนอยู่ในระดับที่ดี โดยเฉพาะในโซนยุโรปที่กำลังเข้าสู่ช่วงฤดูกาลท่องเที่ยว หนุน RevPar ปรับตัวสูงขึ้น

.

2.โรงแรมในประเทศไทยได้รับอานิสงส์จากช่วงเทศกาลสงกรานต์ ทำให้ทั้งอัตราการเข้าพัก (Occupancy) และรายได้ต่อห้องพัก (RevPar) อยู่ในเกณฑ์ที่ดี และ 3) คาดรายได้ธุรกิจร้านอาหารจะฟื้นกลับมาทรงตัวจากช่วงเดียวกันของปีก่อน ด้วยยอดขายไอศกรีมมะม่วง เมนูฤดูกาลยอดนิยมที่เลื่อนเปิดการขายจากไตรมาส 1/68 มาในไตรมาส 2/68 เนื่องจากสภาพอากาศต้นปีที่หนาวยาวนานกว่าปีก่อน

.

ส่วนในครึ่งปีหลัง 2568 ผลบวกจากกระแสซีรีย์ The White Lotus ส่งผลให้มียอดจองโรงแรมที่สมุย และภูเก็ตอย่างต่อเนื่อง ซึ่ง MINT คาดรับรู้รายได้มากขึ้นตั้งแต่ช่วงปลายไตรมาส 3 ทำให้คาดว่ากำไรปกติในปี 2568 จะเติบโตแข็งแกร่งที่ 21.6% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน

.

ด้านบล.หยวนต้า (ประเทศไทย) แนะนำ “ซื้อ” บริษัท เอเชีย เอวิเอชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ AAV ด้วยราคาเป้าหมาย 1.90 บาท โดยแนวโน้มกำไรไตรมาส 2/68 ลดลงจากไตรมาสก่อน หลังผ่านฤดูกาลท่องเที่ยว ทำให้จำนวนผู้โดยสาร, Average Fare และ Load Factor ชะลอตัวตามปัจจัยฤดูกาล แต่คาดเติบโตจากช่วงเดียวกันของปีก่อน AAV ได้รับเครื่องบินเพิ่ม 2 ลำในเดือน มี.ค.-เม.ย. ประเมินจะช่วยเพิ่มการรองรับจำนวนผู้โดยสาร คาด AAV ได้ประโยชน์ด้านต้นทุน Jet Fuel ต่อเนื่อง อิงราคา Jet Fuel เฉลี่ย 2QTD ที่ 83.4$/bbl ลดลง 8% จากไตรมาสก่อน และ 17% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน เป็นปัจจัยหนุนการเพิ่มจากช่วงเดียวกันของปีก่อนของ GPM

ที่มา.. FacebookWealthy Thai