ห้องเม่าปีกเหล็ก

จีนหันหลังให้พันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ แล้ว จริงหรือ?

โดย หยินหยาง
เผยแพร่ :
251 views

จีนหันหลังให้พันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ แล้ว จริงหรือ?

 

พันธบัตรสหรัฐฯ: เมื่อความเชื่อมั่นคือสกุลเงินที่แท้จริง

ในโลกที่เต็มไปด้วยความไม่แน่นอน

พันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ ยังคงเป็นเสมือน “ศูนย์กลางแรงโน้มถ่วง” ของระบบการเงินโลก

ไม่ใช่เพราะให้ผลตอบแทนดีที่สุด

แต่เพราะมันมีสิ่งที่หาได้ยากขึ้นทุกวัน—ความมั่นใจว่าจะไม่หายไป

แม้สหรัฐฯ จะเผชิญภาวะขาดดุลงบประมาณเรื้อรัง

และหนี้สาธารณะพุ่งสูงเป็นประวัติการณ์

แต่นักลงทุนทั่วโลกยังแห่ถือพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ เป็นเงินสำรอง

เพื่อกระจายความเสี่ยงและคุมค่าเงินของตัวเอง

เดือน มี.ค. 68 ต่างชาติถือครองพันธบัตรสหรัฐฯ

สูงสุดเป็นประวัติการณ์กว่า 9 ล้านล้านดอลลาร์

แต่ในขณะที่โลกกำลัง “ไหลเข้า” จีนกลับค่อย ๆ “ถอยออก”

การเคลื่อนไหวที่ดูขัดกับกระแส

อาจไม่ใช่แค่การลงทุน—แต่อาจเป็นการวางหมากทางภูมิรัฐศาสตร์

 

 

เจ้าหนี้เบอร์ใหญ่ของสหรัฐฯ

การถือพันธบัตร = การเป็น "เจ้าหนี้" ของรัฐบาลสหรัฐฯ

3 อันดับประเทศที่ถือครองมากที่สุด ได้แก่

 

ญี่ปุ่น: 1.13 ล้านล้านดอลลาร์ (12.5%)

สหราชอาณาจักร: 779 พันล้านดอลลาร์ (8.6%)

จีน: 765 พันล้านดอลลาร์ (8.5%) หล่นจากอันดับ 2 มาอยู่ที่ 3 เป็นครั้งแรกในรอบหลายปี

 

จีนเริ่มเมินพันธบัตรสหรัฐฯ?

จีนเคยเป็นเจ้าหนี้รายใหญ่สุดของสหรัฐฯ

ถือพันธบัตรไว้เพื่อควบคุมค่าเงินหยวน และบริหารดุลบัญชีเดินสะพัด

แต่หลังยุค Trump 1.0 เป็นต้นมา จีนค่อย ๆ ลดการถือครองลงต่อเนื่อง

จากจุดสูงสุด 1.32 ล้านล้านดอลลาร์ในปี 2013 → เหลือเพียง 765 พันล้านในปัจจุบัน

ลดลงกว่า 550 พันล้าน หรือราว 42% ในทศวรรษเดียว

 

ปัจจัยหลักคือ ความตึงเครียดด้านภูมิรัฐศาสตร์ และสงครามการค้า

จีนต้องการลดการพึ่งพาดอลลาร์ และกระจายความเสี่ยง

 

แต่ก็เลี่ยงไม่ขายออกเร็วเกินไป เพราะอาจกระทบมูลค่าทรัพย์สินตัวเอง

 

หนึ่งในยุทธศาสตร์ใหม่คือ “การสะสมทองคำ”

โดยตั้งเป้าปรับสัดส่วนทองคำในทุนสำรองจาก 8% → 20%

 

จีนถอยจริงหรือแค่ซ่อนตัวให้ลึกขึ้น

แม้ตัวเลขอย่างเป็นทางการจะชี้ว่า จีนลดการถือครองพันธบัตรสหรัฐฯ เกือบครึ่ง

แต่มีข้อสังเกตว่า

จีนอาจแค่ “ซ่อนตัว” ผ่านตัวกลางในต่างประเทศ

เช่น Euroclear (เบลเยียม) หรือ Clearstream (ลักเซมเบิร์ก)

ซึ่งช่วงหลังมีการถือครองพันธบัตรสหรัฐฯ พุ่งสูงขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ

เปรียบเสมือน “ฝากกระเป๋าเงินให้เพื่อนถือ”

แค่เพราะมันไม่ได้อยู่ในกระเป๋าเรา… ไม่ได้แปลว่าเราไม่ได้เป็นเจ้าของ

 

จีนอาจจะยังคงเป็นเจ้าหนี้รายใหญ่ที่สุดของสหรัฐฯ อย่างลับๆ ก็เป็นได้

บางที... จีนอาจไม่ได้หันหลังให้สหรัฐฯ

แต่อาจแค่ ย้ายไปนั่งข้างหลัง แล้วมองทุกอย่างจากเงามืด

พร้อมจะเดินเกมในแบบที่โลกคาดไม่ถึง

.

เรื่องและภาพ: สราลี วงษ์เงิน Economist, Bnomics

════════════════

 

ขอบคุณเนื้อหาที่มาจาก..  Bnomics by Bangkok Bank


หยินหยาง