ห้องเม่าปีกเหล็ก

สภาวะขาดกระแสเงินสด...จนทำให้หุ้นที่ลงทุนจากกำไรเป็นขาดทุน

โดย สาระพันเทรดดิ้ง
เผยแพร่ :
52 views

ขอข้ามตอนที่ 3 ของหัวข้อ : เทคนิคจุดเข้าจุดออก 10% การบริหารจัดการหน้าตักเงิน 30% จิตวิทยการลงทุน 60% ใช้อย่างไรให้พอร์ตหุ้นแข็งแกร่ง ไปก่อนนะครับ
พอดีเห็นว่าเนื้อหาในหัวข้อนี้น่าจะมีประโยชน์ต่อเพื่อนๆที่กำลังเข้ามาลงทุนในสภาวะตลาดขนาดนี้ได้ครับ
สำหรับเพื่อนๆที่สนใจย้อนไปอ่านตอนที่ 1 และ 2 สามารถอ่านได้ที่ลิ้งค์ข้างล่างนี้ครับ
เทคนิคจุดเข้าจุดออก 10% การบริหารจัดการหน้าตักเงิน 30% จิตวิทยการลงทุน 60% ใช้อย่างไรให้พอร์ตหุ้นแข็งแกร่ง ตอนที่ 1
เทคนิคจุดเข้าจุดออก 10% การบริหารจัดการหน้าตักเงิน 30% จิตวิทยการลงทุน 60% ใช้อย่างไรให้พอร์ตหุ้นแข็งแกร่ง ตอนที่ 2


มาที่หัวข้อของวันนี้กันครับ : สภาวะขาดกระแสเงินสด...จนทำให้หุ้นที่ลงทุนจากกำไรเป็นขาดทุน
นักลงทุนหลายๆท่านเข้ามาลงทุนในหุ้นก็เพื่อที่จะต้องการคาดหวังให้การลงทุนในหุ้นครั้งนี้มีกำไร
 
 
แต่ในการเคลื่อนตัวของราคาหุ้น และระบบเศรษฐกิจของประเทศ และของโลกที่แท้จริง มีทั้งช่วงที่ทำให้ราคาหุ้นเป็นขาขึ้น ทำให้ราคาหุ้นเป็นช่วงขาลง และทำให้ราคาหุ้นเป็นการออกข้างหรือไซด์เวย์...ด้วยสภาพตามธรรมชาตินี้...อาจทำให้การลงทุนในหุ้นที่ถูกตัว คือซื้อหุ้นแล้วในที่สุดราคาหุ้นขึ้น แต่ระหว่างที่รอให้หุ้นราคาขึ้น...นักลงทุนท่านนั้นได้ขาดสภาพคล่องทางกระแสเงินสดไปเสียก่อนจึงต้องยอมขายหุ้นที่ลงทุนไว้ออกมาก่อน...เพื่อนำเงินลงทุนในหุ้นนั้นมาใช้เป็นสภาพคล่องเป็นกระแสเงินสดให้กับธุรกิจ หรือการดำเนินชีวิตของตนเอง
 
 
คืออย่างไรกัน เดียวผมอธิบายผ่านภาพให้ดูครับ
:: ภาพที่ 1 ::

จุดที่ 1 : จุดเริ่มต้นของการลงทุน
จุดที่ 2 : ราคาหุ้นที่ลงทุนมีการเคลื่อนตัวลงมา และเราเริ่มเจอสภาวะขาดกระแสเงินสด จึงต้องยอมขายหุ้นที่ลงทุนออกมาก่อน เพื่อนำเงินมาใช้เป็นกระแสเงินสดสำหรับการดำเนินชีวิตหรือเพื่อค้าใช้จ่ายต่างๆ
จุดที่ 3 : ราคาหุ้นขึ้นไปทำจุดสูงสุดใหม่ แต่เราไม่มีหุ้นนั้นอยู่ในพอร์ต
จาก 3 จุดที่กล่าวมา คือ เราลงทุนในหุ้นที่ถูกตัวและในที่สุดมีกำไร แต่เราขาดสภาพคล่องทางการเงินหรือขาดกระแสเงินสดในระหว่างทางของการลงทุนจึงทำให้เราไม่สามารถถือหุ้นนั้นได้จนถึงวันที่หุ้นนั้นแสดงผลเป็นกำไรหรือราคาหุ้นนั้นได้วิ่งขึ้นไปทำจุดสูงสุดใหม่
 
 
มาดูวิธีแก้ไขปัญหานี้กันครับ 
:: ภาพที่ 2 ::

โดยปกติแล้วกลุ่มของนักลงทุนในตลาดหุ้นที่เข้ามาลงทุนในตลาดหุ้นนั้นมีหลายกลุ่ม...แต่กลุ่มที่จะพบกับปัญหาสภาวะขาดกระแสเงินสด คือ
1. นักธุรกิจ
2. ผู้ทำงานอิสระ
3. พนักงานประจำ
4. แม่บ้าน
5. ข้าราชการวัยเกษียณ
6. นักศึกษา
อื่นๆ เนื่องจาก
จากภาพที่ 2 ในตำแหน่งที่ 1 ,2 ,3
จากกลุ่มที่ยกตัวอย่างแสดงมานี้ โดยธรรมชาติแล้วจะมีเงินกระแสเงินสดที่อาจเป็น
เดือนต่อเดือน : คือ ได้เงินเดือนนี้ สำหรับใช้จ่ายในเดือนต่อไป ซึ่งหากเป็นระบบการมีรายได้หรือกระแสเงินสดรับเช่นนี้ หากเกิดกรณีที่เดือนไหนขาดกระแสเงินรับเข้ามา จะส่งผลกระทบทันทีต่อค้าใช้จ่ายในเดือนต่อไป เพราะปกติแล้วเงินที่ได้มาในเดือนนี้จะถูกนำมาใช้จ่ายในเดือนต่อไปแบบแทบจะพอดี
จากภาพที่ 2 ในตำแหน่งที่ 4
เมื่อได้เงินมาจากตำแหน่งที่ 1 แล้วก็นำมาลงทุนในตำแหน่งที่ 4 ในตลาดหุ้น


:: ภาพที่ 3 ::

จากภาพที่ 3 ในตำแหน่งที่ 1 ,2
หากเกิดเหตุการณ์ขาดกระแสเงินสดรับเข้ามาต่อเนื่องกันเกิน 1 เดือนขึ้นไปกลุ่มนี้จะเริ่มมีผลกระทบมากยิ่งขึ้นไปเรื่อยๆ
จากภาพที่ 3 ในตำแหน่งที่ 3 ,4
แต่รายจ่ายยังคงมีเข้ามาต่อเนื่องทุกๆเดือน จึงทำให้ต้องยอมขายหุ้นออกมาระหว่างการลงทุน แม้จะขาดทุนอยู่ก็ตาม
 
 
ดังนั้นวิธีแก้ไขปัญหา คือ เราต้องเปลี่ยนตัวเองมาให้เป็นนักลงทุนเสียก่อน ทำอย่างไรนะ...มาดูกันที่ภาพที่ 4 กันครับ
:: ภาพที่ 4 ::

จากภาพที่ 4 ในตำแหน่งที่ 5 ,6
นักลงทุนจะมีการสะสมเงินทุนมาไว้ก่อนแล้ว ซึ่งแบ่งไว้สำหรับการลงทุนเฉพาะที่เราๆอาจเคยได้ยินว่า "เงินเย็น" คือเงินที่เตรียมพร้อมไว้สำหรับการลงทุน เพื่อที่จะได้ไม่มีผลกระทบต่อสภาวะขาดกระแสเงินสด หรือขาดสภาพคล่อง
จากภาพที่ 4 ในตำแหน่งที่ 2 ,6
โดยเพื่อนๆที่อยู่ในกลุ่มตำแหน่งที่ 2 ก็สามารถทำได้เช่นกัน เพียงแบ่งเงินที่ได้จากรายรับต่อเดือน แบ่งมาไว้ส่วนหนึ่งเป็นเงินออมสำหรับการลงทุน
จากภาพที่ 4 ในตำแหน่งที่ 6 ,7
เมื่อเพื่อนๆในกลุ่มตำแหน่งที่ 2 สะสมเงินออมแล้วกลายสภาพมาเป็นเงินในตำแหน่งที่ 6 ได้ เงินของเพื่อนๆก็จะสามารถมีความสามารถเท่ากับเงินของนักลงทุนได้เช่นกัน ดังนั้นเมื่อนำไปลงทุนในตำแหน่งที่ 7 ก็จะสามารถทนต่อสภาวะต่างๆของตลาดหุ้นได้ และเมื่อเลือกหุ้นที่แข็งแกร่ง มีผลกำไร มีการเติบโต เพื่อนๆก็จะสามารถถือหุ้นนั้นจนถึงวันที่ราคาหุ้นมีจุดสูงสุดใหม่ได้
 
 
เพียงเท่านี้การลงทุนของเพื่อนๆก็จะหลีกหนี "สภาวะขาดกระแสเงินสด...จนทำให้หุ้นที่ลงทุนจากกำไรเป็นขาดทุน" ได้ครับ


สาระพันเทรดดิ้ง