INTUCH แม้ผลงานอ่อนแอ แต่ปันผลดึงดูด
คาดทั้งปี 67 ให้ผลตอบแทนกว่า 4.6%

.
หุ้นปันผลสัปดาห์นี้ Wealthy Thai ขอหยิบยก INTUCH หรือ บริษัท อินทัช โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) มานำเสนอ หลังจากบริษัทประกาศจ่ายปันผลงวดครึ่งหลังปี 2566 ในอัตราหุ้นละ 1.70 บาท หรือคิดเป็นอัตราผลตอบแทนจากเงินปันผล (Dividend Yield) ที่ระดับ 2.3% จึงอยากชวนนักลงทุนมาสำรวจว่าจะในปี 2567 บริษัทจะให้ผลตอบแทนในระดับเท่าไหร่
.
ล่าสุด INTUCH ประกาศกำไรสุทธิไตรมาส 4/66 ที่ 4.3 พันล้านบาท เติบโต 49% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน และ 32% จากไตรมาสก่อนหน้า ซึ่งรวมรายการพิเศษที่ส่วนใหญ่ราว 1.5 พันล้านบาท เป็นการกลับรายการที่เคยตั้งสํารองค่าใช้จ่ายจากคดีฟ้องร้องของ ITV กลับมาเป็นรายได้หลังคดีสิ้นสุด
.
สําหรับกําไรปกติอยู่ที่ 2.4 พันล้านบาท ลดลง 13% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน และ 26% จากไตรมาสก่อนหน้า ตามส่วนแบ่งกําไรจาก ADVANC ที่น้อยลง หลังเข้าซื้อ TTTBB และ JASIF ซึ่งทําให้มีค่าใช้จ่ายที่สูงขึ้น โดยทั้งปี 2566 บริษัทมีกำไรสุทธิอยู่ที่ 1.31 หมื่นล้านบาท เติบโต 24.74% จากปีก่อน
.
ในส่วนของการจ่ายปันผล ในงวดครึ่งหลังของปี 2566 บริษัทประกาศจ่ายปันผลในอัตราหุ้นละ 1.70 บาท คิดเป็น Dividend Yield ที่ระดับ 2.3% โดยจะขึ้นเครื่องหมาย XD ในวันที่ 20 ก.พ. 67 และจะจ่ายปันผลให้กับผู้ถือหุ้นในวันที่ 19 เม.ย. 67 ดังนั้นเมื่อรวมกับปันผลระหว่างกาล (ม.ค.-มิ.ย. 66) ที่บริษัทจ่ายไปแล้วในอัตราหุ้นละ 1.47 บาท ทั้งปี 2566 บริษัทจะจ่ายปันผลรวมในอัตราหุ้นละ 3.17 บาท
.
ขณะที่แนวโน้มการจ่ายเงินปันผลในปี 2567-2568 นักวิเคราะห์จากบริษัท หลักทรัพย์ เอเซีย พลัส จำกัด คาดการณ์ว่าบริษัทจะจ่ายปันผลในปีนี้ที่ 3.38 บาท คิดเป็น Dividend Yield ที่ระดับ 4.6% แลปี 2568 คาดจะอยู่ที่ 3.77 บาท คิดเป็น Dividend Yield ที่ระดับ 5.1%
.
ด้านทิศทางการเติบโตในปี 2567 ฝ่ายวิเคราะห์ต้องปรับประมาณการกําไรของ INTUCH ตามการปรับปรุงกําไรของ ADVANC ไปแล้วก่อนหน้านี้ จึงได้ปรับสมมติฐานส่วนแบ่งกําไรจาก ADVANC ที่ส่งต่อให้แก่ INTUCH สําหรับปี 2567–2568 ลดลงราว 3-4%
.
เนื่องจากเชื่อว่าในระยะ 1 –2 ปีนี้ การดําเนินงานของ TTTBB จะยังขาดทุน และจะเป็นตัวกดดันกําไรของ ADVANC ซึ่งจากการปรับสมมติฐานดังกล่าว ทําให้คาดการณ์กําไรสําหรับ INTUCH ในปี 2567-2568 ลดลงจากเดิมด้วยอัตรา 3-4% เช่นกันเหลือ 1.2 หมื่นล้านบาท –1.3 หมื่นล้านบาท ตามลําดับ
.
ภายใต้ประมาณการใหม่ ราคาเป้าหมายสําหรับปี 2567 ของ INTUCH ถูกปรับลดจากเดิมซึ่งอยู่ที่ 91 บาท เหลือ 86.50 บาท (ให้ส่วนลด 10% จาก NAV ที่อ้างอิงราคาเป้าหมายปี 2567 ของ ADVANC ที่ 252 บาท) เนื่องจากระยะสั้นราคาหุ้นอาจถูกกดดันจากกําไรปกติในงวดไตรมาส 4/66 ที่ออกมาอ่อนแอ ทําให้ฝ่ายวิเคราะห์ปรับลดคําแนะนําสําหรับการลงทุนในหุ้น INTUCH จาก Outperform ลงเป็นเพียง Neutral เพื่อรับปันผล
.
ทั้งนี้ ข้อมูลจากตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ระบุว่า ปัจจุบัน INTUCH มีมูลค่าตามราคาตลาด (Market Cap) อยู่ที่ 237,294.89 ล้านบาท และมี P/E อยู่ที่ระดับ 20.25 เท่า (ข้อมูล ณ วันที่ 7 ก.พ. 67) โดยราคาหุ้นวันที่ 7 ก.พ. 67 อยู่ที่ 74 บาท ปรับตัวเพิ่มขึ้น 6.09% ในช่วง 3 เดือน และมี Dividend Yield อยู่ที่ระดับ 6.38%