ห้องเม่าปีกเหล็ก

หุ้นอสังหาฯ เฟ้นตัวท็อปดักเทิร์นอะราวด์ครึ่งปีหลัง

โดย stock-news
เผยแพร่ :
65 views

 

เข้าสู่สัปดาห์แรกของการซื้อขายตลาดหุ้นไทยในเดือน พ.ค. ด้วยความเชื่อว่าจะเห็นแรงขายออกมาจนฉุดตลาดหุ้นไทยเข้าสู่ภาวะปรับฐานอีกครั้ง ในปรากฎการณ์ "Sell in May" ตอกย้ำด้วยสถิติ 10 ปี (2550-60) ที่โบรกเกอร์ระบุว่าในเดือนพ.ค.-ก.ค. เป็นช่วงการปรับตัวลดลงของตลาดหุ้น ขณะที่นักลงทุนต่างชาติยังคงซื้อและขายสุทธิสลับในตลาดหุ้นไทยต่อเนื่อง สอดคล้องกับดัชนี SET ที่แกว่งตัวกรอบแคบมาตลอดหลายสัปดาห์ 
 
 
ท่ามกลางฤดูกาลประกาศผลประกอบการงวดไตรมาสแรกปี 2560 ของบริษัทจดทะเบียนที่ส่วนใหญ่อิงกับการบริโภคและเศรษฐกิจในประเทศเป็นหลัก รวมถึงหุ้นในกลุ่มพัฒนาที่อยู่อาศัย ที่เคยถูกนักวิเคราะห์ปรับลดน้ำหนักการลงทุนไปเมื่อปีที่แล้ว จากผลกระทบกำลังซื้อที่ซบเซาในกลุ่มลูกค้าระดับล่างและการแข่งขันสูง ซึ่งผลกระทบดังกล่าวยังคงสร้างแรงกดดันให้กับกำไรไตรมาส1/60 ที่นักวิเคราะห์บางรายคาดจะเป็นจุดต่ำสุดในรอบปี และความเชื่อว่ากำไรจะค่อยๆ ฟื้นตัว หรือแม้แต่ขึ้นทำจุดสูงสุดในปลายปีนี้ก็เป็นได้
 
 
นักวิเคราะห์ที่ดูแลกลุ่มอสังหาฯ ของโบรกเกอร์ “ซีไอเอ็มบี (ประเทศไทย)” ระบุว่าจากการศึกษา 8 บจ. ในกลุ่มผู้พัฒนาอสังหาฯ คาดจะทยอยประกาศงบตั้งแต่วันที่ 9 พ.ค. นี้เป็นต้นไป โดยเบื้องต้นประเมินกำไรปกติรวมไตรมาส 1/60 อยู่ที่ 5.74 พันล้านบาท ลดลง 40.9% Q/Q และลดลง 20.6% Y/Y ขณะที่รายได้จากธุรกิจอสังหาฯ ลดลง 28.9% Q/Q และลดลง 18% Y/Y มาอยู่ที่ 3.76 หมื่นล้านบาท อย่างไรก็ตาม มองว่ากำไรหุ้นกลุ่มนี้กำลังจะเข้าสู่ขาขึ้น จนแตะจุดสูงสุดในไตรมาส 4/60 โดยมีปัจจัยหนุนจากยอด Backlog จำนวนมากที่ส่วนใหญ่เป็นคอนโดมิเนียม ที่จะทยอยรับรู้เป็นรายได้ รวมทั้งการเปิดตัวโครงการที่อยู่อาศัยแนวราบเพิ่มขึ้น 
 
 
สำหรับการเลือกหุ้นกลุ่มพัฒนาที่อยู่อาศัย “ซีไอเอ็มบีฯ”  ให้น้ำหนัก“Overweight” เลือก ANAN, AP และ SPALI เป็นหุ้น Top Picks เพราะมองว่าบริษัทเหล่านี้มี Presales เติบโตโดดเด่น แนวโน้มกำไรสดใส และเป็นผู้นำในตลาดที่อยู่อาศัยระดับกลางถึงไฮเอนด์ 
 
 
*AP (ราคาเป้าหมาย 8.65 บาท) นักวิเคราะห์คาดว่าจะมีกำไรไตรมาส 1/60 เติบโตสูงสุดในกลุ่ม หรือ +32.3% Y/Y ด้วยส่วนแบ่งรายได้เพิ่มขึ้นจาก Mitsubishi Estate Group พร้อมกับเชื่อมั่นกำไรเติบโตต่อเนื่องในช่วงที่เหลือของปี 
 
 
*SPALI (ราคาพื้นฐาน 28.50 บาท) แม้จะคาดกำไรไตรมาส 1/60 จะเป็นไตรมาสที่บริษัทฯ มีผลประกอบการต่ำที่สุดของปี เนื่องจากการโอนกรรมสิทธิชะลอตัว แต่ SPALI ถือเป็นตัวเลือกที่ดีที่สุดในช่วงที่รายได้เกษตรกรกลับมาเพิ่มขึ้น เนื่องจากฯ บริษัทมียอด backlog จำนวนมาก สามารถควบคุมค่าใช้จ่ายได้อย่างมีประสิทธิภาพและมีแนวโน้มเติบโตสดใส
 
 
*ANAN (ราคาพื้นฐาน 5.82 บาท) นักวิเคราะห์ซีไอเอ็มบีฯ คาดว่าจะทำกำไรสุทธิตํ่าสุดในไตรมาส 1/60 แต่มีจุดเด่นคือยอด presales เติบโตโดดเด่นเพราะเป็นผู้นำในตลาดคอนโดมิเนียมตามแนวรถไฟฟ้า และแนวโน้มกำไรสดใสและชัดเจนด้วยการจับมือเป็นพันธมิตรกับ Mitsui Fudosan 
 
 
ด้าน “เอเซีย พลัส” ประเมินว่ากำไรกลุ่มพัฒนาที่อยู่อาศัยไตรมาสแรกมีโอกาสเป็นจุดต่ำสุดของปี เนื่องจากงวดปีก่อนมีแรงหนุนจากมาตรการกระตุ้นอสังหาฯ เข้ามาช่วยเร่งยอดขาย และการโอนฯ อย่างไรก็ตาม นักวิเคราะห์คาดว่าผลประกอบการจะทยอยฟื้นตัวขึ้นรายไตรมาส และกลับมาถึงจุดสูงสุดในไตรมาส 4/60 ตามยอดโอนฯ ที่สูงขึ้น อิงจากกำหนดการสร้างเสร็จของคอนโดใหม่ที่จะเข้ามามากสุดในไตรมาสสุดท้ายของปี
 
 
สำหรับกลยุทธ์ค่ายเอเซียพลัส นักวิเคราะห์ได้เน้น “Selective Buy” ในหุ้นที่มีกำไรเติบโตดี มี Backlog ต่อรายได้สูง และเงินปันผลจูงใจ ซึ่งประกอบด้วย :
 
 
*LH (ราคาพื้นฐาน 12 บาท) นักวิเคราะห์มองเป็นหุ้นขนาดใหญ่สุดในกลุ่มที่มีความมั่นคง ทั้งฐานรายได้จากทั้งธุรกิจอสังหาฯ เพื่อขายและเพื่อเช่า ขณะที่การลงทุนในบริษัทร่วม ช่วยสร้างส่วนแบ่งกำไรเข้าปีละกว่า 3 พันล้านบาท ซึ่งยังไม่ได้รวมแผนขายโรงแรม 1 แห่งเข้ากองทุน REIT โดยคาดรับรู้กำไรพิเศษ 1 พันล้านบาทภายในครึ่งปีแรก ด้านเงินปันผลมีความโดดเด่นสุดในกลุ่ม สูงเกิน 7% ต่อปี 
 
 
*SPALI (ราคาพื้นฐาน 32.30 บาท) นักวิเคราะห์ระบุรายได้ปีนี้มี Backlog รองรับแล้ว 56% และคาดการณ์กำไรเติบโต 14% Y/Y ขณะที่ราคาหุ้นยังมี Upside 
 
 
*ANAN (ราคาพื้นฐาน 6.00 บาท) เอเซียพลัสมองเป็น Growth Stock ของกลุ่ม ด้วยคาดหมายกำไรปี 2560 เติบโตโดดเด่น 21% หรือ 1.8 พันล้านบาท แรงหนุนมาจากส่วนแบ่งกำไรบริษัทร่วมสูง เนื่องจากปีนี้มีการส่งมอบโครงการคอนโดใหม่มากถึง 10 โครงการ โดยในส่วนนี้เป็นโครงการ Joint Venture รวม 5 โครงการ
 
 
 
********************************
ที่มา Business&Finance, Money Channel

 


stock-news