โดย SiTh LoRd PaCk
เผยแพร่ : 
101 views
ดร.วิศิษฐ์ องค์พิพัฒนกุล วิเคราะห์ไว้ว่า:
- วิเคราะห์ไทยออย ต้องวิเคราะห์ธุรกิจการกลั่นเป็นหลัก
- การกลั่นเป็นเรื่องของ วัฐจักร นักลงทุนต้องระมัดระวังรอบของวัฐจักรให้ดี
- ค่าการกลั่นช่วง 7-8 ปีที่ผ่านมา ค่อนข้างคงตัวเพราะไม่มีการทำโรงกลั่นขนาดใหญ่
- จุดเด่นของ TOP นอกจากเป็นโรงกลั่นครบวงจรแล้ว ยังมีการทำโรงไฟฟ้าเพื่อปรับอัตรากำไรที่ได้ไม่เป็นวัฐจักรจนเกินไป
- ราคาน้ำมัน มีผลกับ stock gain / stock loss ของ TOP ดังนั้นนักลงทุนจำเป็นต้องติดตามราคาน้ำมันอย่างใกล้ชิด
- ในอีกหลายปีข้างหน้า ยังไม่เห็นการเติบโตแบบรุนแรงของ TOP
- ค่าการกลั่น โอกาสขึ้นมีสูง โอกาสที่จะตกต่ำหรือติดลบแทบจะไม่มี
ดร.นิเวศน์ เหมวชิรวรากร วิเคราะห์ไว้ว่า:
- ธุรกิจมีความเป็นคอมโมดิตี้สูงมาก ไม่สามารถควบคุมชะตากรรมของบริษัท กำไร/ขาดทุนขึ้นอยู่กับน้ำมันอย่างเดียว
- น้ำมัน ปิโตรเคมี ไม่มีตราสินค้าเพราะน้ำมันทั่วโลกก็เหมือนๆกันหมด เอาจากไหนก็ได้ แทนกันได้หมด
- รถยนต์ไฟฟ้าเริ่มเข้ามา จะทำให้พื้นฐานของ TOP เปลี่ยนไหม ตรงนี้เป็นคำถามสำคัญที่นักลงต้องหาคำตอบ **
- น้ำมันถูกใช้ในรถยนต์เยอะมาก ถ้ารถยนต์ใช้น้ำมันน้อยลงหรือว่าไม่ถูกใช้เลย ราคาน้ำมันก็จะอยู่แถวๆนี้ หรืออาจจะแพงไปด้วยซ้ำเพราะมันขึ้นอยู่กับตามหลักดีมานต์ ซัพลลาย ข้อนี้เป็นโจทย์สำคัญที่ต้องวิเคราะห์อนาคตของ TOP
- อย่างไรก็ดี ต้องชื่นชมทีมผู้บริหาร 5 ปีที่ผ่านมา บริษัททำกำไรได้แม้ว่าราคาน้ำมันโลกจะผันผวน แสดงว่าทีมผู้บริหารมีความสามารถสามารถนำพาบริษัทฝ่ามรสุมได้
- ปันผลของ TOP อยู่ในเกณฑ์ดี อยู่ในมาตราฐานของหุ้น VI
- ช่วง 3-4 ปีที่ผ่านมา ราคาหุ้น สินทรัพย์บริษัท การเติบโต MarketCap.ทุกอย่างแทบจะเท่าเดิมหมด ไม่ไปไหนเลย โจทย์ถัดไปคือ บริษัทจะไปทำธุรกิจอะไรที่จะทำให้บริษัทกลับมาเติบโตได้อีกครั้ง จะหวังพึ่งธุรกิจน้ำมัน ธุรกิจการกลั่นอย่างเดียวคงไม่ได้แล้ว
- ธุรกิจลงทุนสูงมาก จะเปลี่ยนไปธุรกิจใหม่ น่าจะยาก อีกนัยหนึ่งการเข้ามาของคู่แข่งก็ยากด้วยเช่นกันเพราะต้องมีเงินทุนและความรู้เฉพาะทางจริงๆ
- จุดสำคัญของหุ้น TOP อยู่ที่การปันผล นักลงทุนที่จะเข้าลงทุนต้องดูการปันผลเป็นหลัก เท่าที่ผ่านมา TOP ก็อยู่ในเกณฑ์ปันผลที่ดี
