ห้องเม่าปีกเหล็ก

ประสบการณ์หุ้น 12 ข้อ จากนักลงทุนที่บัฟเฟตต์ยังยอมรับ Howard Marks (ตอนที่ 2)

โดย SiTh LoRd PaCk
เผยแพร่ :
91 views

ใครคือ Howard Marks อ่านได้จากนี้เลยครับ http://goo.gl/M7Gs26

ประสบการณ์หุ้น 12 ข้อ จากนักลงทุนที่บัฟเฟตต์ยังยอมรับ Howard Marks (ตอนที่ 1)  http://goo.gl/bhviDs

7.  “Prices are too high” is far from synonymous with “the next move will be downward.” Things can be overpriced and stay that way for a long time . . . or become far more so.”
"ราคาแพงเกินไป" ไม่ได้หมายความว่า "มันจะลง" สิ่งๆนั้นมันอาจจะแพงได้อย่างยาวนานก็เป็นได้

นักลงทุนโดยส่วนใหญ่เข้าใจว่า สิ่งที่ราคาแพงเกินไป ไม่ช้าก็เร็ว ราคามันก็จะลง นักลงทุนเหล่านั้นอาจจะคิดเพราะจากประสบการณ์ของผม ถ้าหุ้นตัวนั้นดีจริง มีการเติบโตอยู่ในระดับสูง หุ้นเหล่านั้นก็จะยังคงแพงอยู่จนกว่าจะเห็นได้ชัดว่ามันมีแนวโน้มการเติบโตที่ลดลง อย่างไรก็ตาม ผมก็ยังเลือกที่จะยึดมั่นในหุ้นที่ต่ำกว่ามูลค่า ดีกว่าไล่ซื้อหุ้นที่มีราคาแพงไปแล้ว การจะได้รับผลตอบแทนจากการลงทุนที่ดี คือ ซื้อในสิ่งที่คนอื่นยังไม่สนใจ ถ้าคนอื่นสนใจกันหมดแล้ว คุณไม่มีทางได้ผลตอบแทนที่ดี

8.  “In theory there’s no difference between theory and practice, but in practice there is.”
ในทางทฤษฏี มันไม่มีความแตกต่างระหว่างทฤษฏีและการปฏิบัติ แต่ในทางปฏิบัติ มันมีความแตกต่างกันพอสมควร

นักลงทุนที่ศึกษาการลงทุนเน้นคุณค่า อาจจะชอบหุ้นอัตราส่วนที่มี P/E ต่ำ  P/BV ต่ำ และหุ้นที่มีปันผลสูง ใช่แล้วครับ! ใครๆก็ต้องการแบบนั้น แต่ในทางปฏิบัติจริง มันก็ไม่ได้หากันง่ายๆขนาดนั้น แน่นอนว่าถ้าหากันง่ายทุกๆคนก็คงจะรวยกันหมดแล้ว .. นักลงทุนที่มีประสบการณ์จะรู้ว่าหุ้นที่มี P/E ต่ำ ไม่ได้หมายความว่ามันถูก แต่มันกำลังมีปัญหาที่นักลงทุนมองไม่เห็นต่างหาก เช่น บริษัทผู้ผลิตกล้องถ่ายรูปล้มละลายตอนที่มี P/E 5 เท่า บริษัทยักษ์ใหญ่ที่เคยเป็นหุ้นบลูชิพมีปัญหาเรื่องการคอรัปชั่นและประกาศล้มละลายตอนที่เขามี P/E 7 เท่า จำไว้ว่า ทุกสิ่งเริ่มจากการเข้าใจ

9. “You can’t predict.  You can prepare.”
คุณไม่สามารถทำนายตลาดหุ้นได้ แต่คุณเตรียมพร้อมได้

มีนักลงทุนจำนวนมากพยายามคาดการณ์ถึงอนาคตเกี่ยวกับตลาดหุ้นว่ามันกำลังจะเกิดอะไรขึ้น และเราจะ"พนัน"กับมันได้อย่างไร ผมแนะนำว่านักลงทุนควรทำตัวเป็นนักลงทุนโดยการซื้อในสิ่งที่มี "ส่วนเผื่อเพื่อความปลอดภับ" (Margin of Safety) และควรถามตัวเองอยู่เสมอว่า ถ้าเราซื้อมันแล้ว เราจะยังมีความสุขกับมันอยู่หรือไม่ ถ้าคุณคิดว่าไม่ ก็ไม่ควรถือมันตั้งแต่แรกอยู่แล้ว

10. “There's only one way to describe most investors: trend followers.”
นักลงทุนโดยส่วนใหญ่เป็นพวกชอบทำตามกระแส  (Trend followers อาจจะแปลว่าชอบใช้กราฟเทคนิเคิล แต่มาร์คเล่นคำให้คล้ายกับศัพท์เทคนิเคิล แต่จริงๆแล้วแปลว่า ชอบทำตามกระแส- ผู้แปล)

นักลงทุนจะสร้างผลตอบแทนที่ดีได้นั้นมาจากการคิดต่าง มองต่างจากคนส่วนใหญ่ ไม่ใช่การทำเหมือนๆกับคนส่วนใหญ่

11. “The great investors are the people who have made a lot of investments over a long period of time and made a lot of money, and their results show that it wasn’t a fluke — that they did it consistently.”
นักลงทุนผู้ยิ่งใหญ่มีการกระจายการลงทุนไปยังรูปแบบอื่นด้วยระยะเวลาที่งยาวนาน และพวกเขาก็ทำเงินได้อย่างมหาศาล คนรุ่นใหม่ที่มาศึกษานั้นอาจจะคิดว่าพวกเขาโชคดี แต่จริงๆแล้วพวกเขาทำมันอย่างสม่ำเสมอต่างหาก

12.  “I keep going back to what Charlie Munger said to me, which is none of this is easy, and anybody who thinks it is easy is stupid. It is just not easy. There are many layers to this, and you just have to think well.”
ชาลี มังเกอร์ สหายรักวอเร็น บัฟเฟตต์ เคยพูดเอาไว้ว่า ไม่มีอะไรได้มาแบบง่าบๆ ถ้าเขาคิดว่าสิ่งที่ได้มานั้นเป็นเรื่องง่าย แสดงว่าเขาคนนั้นยังโง่เขลาอยู่มาก การลงทุนไม่ใช่เรื่องง่าย มันมีรายละเอียดซับซ้อนมากกว่าสิ่งที่เราเห็นนัก ดังนั้นแล้วก่อนที่จะลงทุนอะไรต้องคิดให้รอบคอบเสมอ

ผมรู้สึกเห็นด้วยกับประโยคที่ชาลี มังเกอร์ กล่าวเอาไว้อย่างที่สุด การลงทุนเป็นเรื่องของศิลป์ ที่ว่าคุณเข้าใจมันมากน้อยขนาดไหน การใช้อัตราส่วนทางการเงินเป็นแค่จุดเล็กๆจุดหนึ่งในการวิเคราะห์ หุ้น P/E ต่ำไม่ได้หมายความว่ามันถูก คุณจะต้องใช้ศิลปะในการมองมันว่ามันถูกแบบไหน สิ่งเหล่านี้เกิดจากประสบการณ์ที่เกิดจากการทุ่มเท ถ้าคุณไม่ได้ทุ่มเทอย่างสม่ำเสมอ คุณก็จะยังไม่เข้าใจมันอยู่ดีและคิดว่าการลงทุนเป็นเรื่องง่าย ถ้าคุณคิดว่าการลงทุนเป็นเรื่องง่ายแสดงว่าคุณยังไม่เข้าใจมันดีพอ ..

แปลโดย SiTh LoRd PaCk
ขอบคุณข้อมูลจาก 25iq


SiTh LoRd PaCk