ห้องเม่าปีกเหล็ก

เงินบาทลำบากแล้ว

โดย คนเล่นหุ้น
เผยแพร่ :
62 views

เงินบาทลำบากแล้ว

ความเสี่ยงที่ไทยกำลังเข้าสู่ยุค Stagflation หรือข้าวยากหมากแพง กำลังเป็นจริงมากขึ้นเรื่อยๆและกลายเป็นแรงกดดันต่อค่าเงินบาท มีความเป็นไปได้สูงที่จะอ่อนค่าต่อเนื่องจนเกินกว่า 34.5 บาทต่อดอลลาร์

 

ปัจจุบันเงินบาทไทยอยู่ที่ระดับ 33.61 บาทต่อดอลลาร์ อ่อนค่ามา 5 สัปดาห์ติดต่อกันกว่า 4.6% ถือเป็นการอ่อนค่ามากที่สุดเมื่อเทียบกับสกุลหลักอื่นๆในเอเชีย โดยมีความเป็นไปได้สูงมากๆที่เงินบาทจะยังคงอ่อนค่าต่อไปอีก เมื่อมองจากปัจจัยต่างๆดังนี้

 

การขาดดุลแฝด (Twin Deficit) เริ่มจากการขาดดุลบัญชีสะพัด ด้วยสถานการณ์ การพุ่งขึ้นของเงินเฟ้อทั่วโลก โดยมีแรงหนุนจากการพุ่งขึ้นของราคาน้ำมัน และตัวเร่งอย่างสงครามรัสเซีย-ยูเครน ทำให้ประเทศที่นำเข้าเชื้อเพลิงสุทธิเป็นหลัก (นำเข้ามากกว่าส่งออก) อย่างเช่นไทย ต้องเผชิญกับแรงกดดันการขาดดุลการค้า ขณะที่ดุลบัญชีบริการยังแย่ต่อเนื่อง (จำนวนนักท่องเที่ยวโดยรวมยังอยู่ในระดับต่ำ) ส่งผลให้ไทยขาดดุลบัญชีเดินสะพัด 1.6 พันล้านดอลลาร์ใน ม.ค.65

 

ด้านดุลการคลัง มีแนวโน้มที่จะขาดดุลมากขึ้นหลังจากที่รัฐบาลยังคงจัดเก็บรายได้ไม่เข้าเป้า เนื่องจากสภาวะเศรษฐกิจในประเทศยังไม่ฟื้นตัว แต่ยังต้องมีรายจ่ายเพิ่มเติมในการอุดหนุนน้ำมันดีเซล แก๊สหุงต้ม และค่าสาธารณูปโภคต่างๆ เพื่อบรรเทาภาระค่าใช้จ่ายให้กับประชาชน

 

นอกจากภาพของการขาดดุลแฝด (การขาดดุลบัญชีเดินสะพัด และการขาดดุลการคลัง) ที่จะเป็นหนึ่งในปัจจัยฝันร้ายที่จะทำให้เงินบาทต้องอ่อนค่ายาวแล้ว ยังมีปัจจัยอื่นๆอีกเช่น

 

ส่วนต่างของอัตราดอกเบี้ยที่แท้จริงของไทยเมื่อเทียบกับประเทศอื่นๆ โดยเฉพาะสหรัฐ ธนาคารกลางสหรัฐกำลังเร่งขึ้นดอกเบี้ยเพื่อยับยั้งเงินเฟ้อ บีบให้ธนาคารกลางอื่นๆเช่น อังกฤษ และอีกหลายๆประเทศต้องขึ้นดอกเบี้ยตาม ด้วยส่วนต่างระหว่างอัตราดอกเบี้ยในและต่างประเทศที่กว้างมากขึ้น จะเป็นแรงดันให้กระแสเงินไหลออก กระทบต่อค่าเงินบาทเข้าไปอีก ซึ่งสุดท้ายแล้วธนาคารแห่งประเทศไทย หนีไม่พ้นต้องจำใจขึ้นอัตราดอกเบี้ยตาม (คาดว่า ธปท. อาจต้องขึ้นดอกเบี้ยในช่วงครึ่งหลังของปี 2565 ราว 1-2 ครั้ง เพื่อให้อัตราดอกเบี้ยนโยบายไปอยู่ที่ 1% ลดช่องว่างระหว่างอัตราดอกเบี้ยในและต่างประเทศ)

แต่การขึ้นอัตราดอกเบี้ยขณะที่สภาพเศรษฐกิจไทยที่เพิ่งจะเริ่มฟื้นตัว จะกลายเป็นอุปสรรคที่ทำให้การฟื้นตัวสะดุดลง ส่งผลให้เศรษฐกิจไทยมีแนวโน้มกลับไปสู่สภาวะหดตัวอีกครั้ง ภาพนี้ก็จะบีบให้กระแสเงินไหลออกอีกอยู่ดี

 

หากจะบอกว่านี่คือช่วงเวลาเลวร้ายของเงินบาทไทยก็คงไม่ผิดมากนัก เพราะไทยกำลังเผชิญกับสภาวะเงินเฟ้อสูงพร้อมๆกับการชะลอตัวทางเศรษฐกิจ (Stagflation) ซึ่งเป็นเรื่องยากในการดำเนินมาตรการหรือนโยบายการเงินเพื่อให้หลุดพ้นออกจากสภาวะดังกล่าว

 

ทั้งนี้ช่วงเวลาที่เงินบาทเกิดการเร่งตัวอ่อนค่า คาดว่าจะเกิดขึ้นในช่วง มี.ค.-พ.ค.65 นี้ ซึ่งจะเป็นช่วงที่บริษัทจดทะเบียนไทยมีการจ่ายเงินปันผลสำหรับงวดบัญชีปี 2564 รวมกันกว่า 2.74 แสนล้านบาท โดยคาดว่าจะเงินการไหลออกของเงินจ่ายปันผลให้นักลงทุนต่างประเทศราว 7.54 หมื่นล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีก่อนหน้าที่จ่ายให้นักลงทุนต่างประเทศราว 7.43 หมื่นล้านบาท

 

ที่มา : ทันหุ้น
https://www.thunhoon.com/article/253584

 


คนเล่นหุ้น