ห้องเม่าปีกเหล็ก

เปิดพอร์ต 15 เซียนหุ้น ถือลงทุน 111 บจ. มูลค่าเฉียดแสนลบ.

โดย Ozone Pinyo
เผยแพร่ :
67 views
เปิดพอร์ต 15 เซียนหุ้น ถือลงทุน 111 บจ. มูลค่าเฉียดแสนลบ.
 

       "สำนักข่าวอีไฟแนนซ์ไทย" สำรวจพอร์ต "นักลงทุนรายใหญ่" หรือ "เซียนหุ้นชื่อดัง" ของไทย พบว่ามูลค่ารวมปี 62 เพิ่มขึ้นเป็น 9.2 หมื่นล้านบาท จากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่ 8.6 หมื่นล้านบาท อย่างไรก็ตามจำนวนหุ้นลดลงเหลือ 111 บริษัท จาก 130 บริษัท ขณะที่พอร์ตของนักลงทุนส่วนใหญ่ปรับตัวลดลง โดยเรียงลำดับจากเซียนหุ้นที่มีมูลค่าพอร์ตรวมสูงสุดดังนี้

*** อันดับ 1. "นิติ โอสถานุเคราะห์" 
        "นิติ" นักลงทุนระดับตำนาน หนึ่งในนักลงทุนเน้นคุณค่า (VI) ยุคบุกเบิก เป็นเจ้าของพอร์ตที่มีมูลค่ามหึมา โดย ณ ราคาหุ้น 4 เม.ย.62  เขามีมูลค่าพอร์ตถึง 4.4 หมื่นล้านบาท จากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีมูลค่าพอร์ตประมาณ 3 หมื่นล้านบาท หรือเพิ่มขึ้นถึง 47% 
    สาเหตุสำคัญจากการที่ บมจ.โอสถสภา (OSP) เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ ซึ่ง "นิติ" ถือหุ้นสัดส่วน 16.28% คิดเป็นมูลค่า ณ ราคาหุ้นวันที่ 4 เม.ย.62 ถึง 1.4 หมื่นล้านบาท
    ส่วนบริษัทอื่นยังถืออยู่ในสัดส่วนใกล้เคียงกับปีก่อน ดังนี้

พอร์ตหุ้น “นิติ โอสถานุเคราะห์”

ชื่อย่อหุ้น

จำนวน (ล.หุ้น)

%ถือหุ้น

มูลค่า (ลบ.)

OSP

489.08

16.28

14,061

MINT

365.95

7.92

13,815

HMPRO

621.42

4.73

9,508

CPN

49.57

1.1

3,619

CENTEL

36.13

2.68

1,581

BKI

2.22

2.09

723

TFMAMA

3.33

1.01

537

SNP

4.8

0.98

92

IRC

3.84

1.92

73

OGC

0.35

1.63

12

SE-ED

4.42

1.13

12

รวม

44,031

 

*** อันดับ 2."ทวีฉัตร จุฬางกูร" 
    "ทวีฉัตร" เป็นอีกหนึ่งนักลงทุนรายใหญ่ที่ถือหุ้นหลายบริษัท ล่าสุดถือเกิน 0.5% ถึง 41 บริษัท มากกว่าช่วงเดียวกันของปีก่อนที่ถืออยู่ 38 บริษัท โดยมูลค่าพอร์ตรวม ณ ราคาหุ้น 4 เม.ย.62 อยู่ที่ 1.16 หมื่นล้านบาท เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อนเล็กน้อยซึ่งทำได้ 1.15 หมื่นล้านบาท 
    ทั้งนี้ หุ้นที่เพิ่มมาประกอบด้วย 1.บมจ.ซินเนอร์เจติค ออโต้ เพอร์ฟอร์มานซ์ (ASAP) 2.บมจ.ฟู้ดแอนด์ดริ๊งส์ (F&D) และ บมจ.มาลีกรุ๊ป (MALEE) ส่วนหุ้นบริษัทอื่นๆมีสัดส่วนการถือครองใกล้เคียงปีก่อน ดังนี้

พอร์ตหุ้น “ทวีฉัตร จุฬางกูร”

ชื่อย่อหุ้น

จำนวน (ล.หุ้น)

%ถือหุ้น

มูลค่า (ลบ.)

AIRA

1,370.5

21.7

1,974

BEC

230.23

11.51

1,520

NOK

650.9

20.94

1,432

GRAMMY

133.1

16.23

1,105

NNCL

506.01

24.7

931

LANNA

66.49

12.66

745

OISHI

7.89

4.21

647

SAFARI

220

9.9

528

CI

247.85

23.24

322

TSC

21.2

8.16

274

SE-ED

97.95

24.99

261

SAMART

25.65

2.55

194

MM

57.53

5.45

193

SST

34.13

7.49

157

ALT

47.81

4.71

142

MODERN

28.18

3.76

104

SUSCO

30.31

2.76

88

AMATAV

15.8

1.69

82

SDC

222.54

1.97

76

FN

37.71

3.77

74

ITD

32.06

0.61

72

JCKH

68.4

10.94

68

ASAP

20.07

2.76

58

MALEE

6.74

2.41

49

APURE

36.9

3.85

48

AUCT

7.68

1.4

46

KASET

21.23

7.64

41

TVT

38.44

4.8

41

GSTEL

271.22

3.96

35

TNR

2.76

0.92

35

PE

196

24.5

33

AS

40

9.76

32

KOOL

21.54

4.49

30

KKC

24.8

2.07

30

ZMICO

27

1.63

29

AF

33.3

2.08

22

MPG

40.23

4.11

21

WAVE

7.81

1.67

16

GCAP

5.34

2.67

13

F&D

0.7

3.97

13

RICH

110

4.58

8

รวม

11,584

 

*** อันดับ 3."นพ.พงศ์ศักดิ์ ธรรมธัชอารี" 
        "นพ.พงศ์ศักดิ์" ยังคงมีมูลค่าพอร์ตรั้งอันดับ 3 เช่นเคย แต่ปีนี้เหลือถือหุ้นเกิน 0.5% เพียง 3 บริษัท จากปีก่อน 4 บริษัท โดยหุ้นตัวหลักยังเป็น บมจ.ซีพี ออลล์ (CPALL) และ บมจ.คอมเซเว่น (COM7) ส่วนหุ้นที่ไม่ปรากฏในพอร์ตแล้วคือ บมจ.พีทีจี เอ็นเนอยี(PTG) และ บมจ.เถ้าแก่น้อย ฟู๊ดแอนด์มาร์เก็ตติ้ง (TKN) แต่มีหุ้น บมจ.ทีซีเอ็ม คอร์ปอเรชั่น (TCMC) เพิ่มขึ้นมา
    ทั้งนี้มูลค่าพอร์ตรวมลดลงเหลือ 6,747 ล้านบาท จากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่ 8,085 ล้านบาท  ซึ่งหุ้น PTG-TKN ที่ขายออกไปมีมูลค่ารวมกว่า 1,500 ล้านบาท 

พอร์ตหุ้น “น.พ.พงศ์ศักดิ์ ธรรมธัชอารี”

ชื่อย่อหุ้น

จำนวน (ล.หุ้น)

%ถือหุ้น

มูลค่า (ลบ.)

CPALL

47.25

0.53

3,555

COM7

168.28

14.02

3,096

TCMC

29.86

3.91

95

รวม

6,747

 

*** อันดับ 4.ครอบครัว "เหมวชิรวรากร"
    ดร.นิเวศน์ เหมวชิรวรากร และครอบครัว ขยับจากอันดับที่ 5 ในปีก่อนขึ้นมาอยู่อันดับ 4 มูลค่าการถือหุ้นรวม 5,855 ล้านบาท ลดลงจากช่วงเดียวกันปีก่อนที่มีมูลค่ารวม 6,360 ล้านบาท เกิดจากราคาหุ้นที่ลดลงหลายบริษัท โดยยังถือหุ้นรวม 9 บริษัทสัดส่วนใกล้เคียงกับปีก่อน

พอร์ตหุ้น “ครอบครัวเหมวชิรวรากร”

ถือโดย “นิเวศน์ เหมวชิรวรากร”

ชื่อย่อหุ้น

จำนวน (ล.หุ้น)

%ถือหุ้น

มูลค่า (ลบ.)

TCAP

14

1.2

746

QH

100

0.93

302

BAFS

5

0.78

178

EASTW

10

0.6

113

METCO

0.12

0.57

14

ถือโดย “พิสชา เหมวชิรวรากร”

TCAP

7

0.6

373

BCP

8

0.58

262

BCPG

12

0.6

198

QH

60

0.56

181

IRC

5.4

2.7

103

ถือโดย “เพาพิลาส เหมวชิรวรากร”

CPALL

45

0.5

3,386

รวม

5,855

 

*** อันดับ 5."นเรศ งามอภิชน" 
        ปีนี้ "นเรศ" อันดับหล่นมาอยู่ที่ 5 จากมูลค่าพอร์ต 7,250 ล้านบาท เหลือ 5,554 ลดลงราว 23% เกิดจากราคาหุ้นหลายบริษัทปรับตัวลดลง โดยยังถือหุ้น 11 บริษัทสัดส่วนใกล้เคียงกับปีก่อน 

พอร์ตหุ้น “นเรศ งามอภิชน”

ชื่อย่อหุ้น

จำนวน (ล.หุ้น)

%ถือหุ้น

มูลค่า (ลบ.)

TPIPL

1,272

6.3

2,544

MACO

711

17.23

1,038

ORI

122

5

839

TPIPP

83.2

0.99

503

ROJNA

42.97

2.13

214

ITEL

41.6

4.16

139

JMT

8.33

0.94

116

TTA

10

0.55

53

SAMART

6

0.6

45

PORT

8.3

1.8

38

MM

7.5

0.71

25

รวม

5,554

 

*** อันดับ 6."สถาพร งามเรืองพงศ์"
    "สถาพร" ถือหุ้น 2 บริษัทเช่นเดิม มูลค่าพอร์ตใกล้เคียงกับปีก่อน แต่มีการเปลี่ยนหุ้นที่ถือ 1 บริษัท คือ ไม่ปรากฎการถือหุ้น บมจ.อาร์เอส (RS) ซึ่งเคยถือ 3.33% มูลค่าราว 800 ล้านบาท ล่าสุดมีหุ้น บมจ.อิออน ธนสินทรัพย์ (ไทยแลนด์) หรือ AEONTS เข้ามาแทน

พอร์ตหุ้น “สถาพร งามเรืองพงศ์”

ชื่อย่อหุ้น

จำนวน (ล.หุ้น)

%ถือหุ้น

มูลค่า (ลบ.)

KTC

128.51

4.98

4,594

AEONTS

4.91

1.96

876

รวม

5,470

 

*** อันดับ 7."วิชัย วชิรพงศ์"
    "เสี่ยยักษ์" เลื่อนขึ้นมาจากอันดับ 8 มูลค่าพอร์ตเพิ่มขึ้นเป็น 4,267 ล้านบาท จากช่วงเดียวกันปีก่อนที่ 3,664 ล้านบาท โดยถือหุ้น 6 บริษัทในสัดส่วนใกล้เคียงกับปีก่อน แต่ราคาหุ้นหลายบริษัทปรับตัวเพิ่มขึ้น

พอร์ตหุ้น “วิชัย วชิรพงศ์”

ชื่อย่อหุ้น

จำนวน (ล.หุ้น)

%ถือหุ้น

มูลค่า (ลบ.)

BEM

402.66

2.63

3,946

ITD

68.61

1.3

154

QTC

14.4

4.22

74

PACE

284.97

2.37

63

META

17.43

1.37

30

รวม

4,267

 

*** อันดับ 8.“ดร.ไพบูลย์ เสรีวิวัฒนา”
    เลื่อนขึ้นมาจากอันดับ 11 แม้มูลค่าพอร์ตลดลงเหลือ 1,370 ล้านบาท จากช่วงเดียวกันปีก่อนที่ 1,616 ล้านบาท จากราคาหุ้นหลายบริษัทที่ปรับตัวลดลง โดยมีการปรับพอร์ตหลายบริษัท ขายหุ้น บมจ.น้ำตาลบุรีรัมย์ (BRR), กองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐานโรงไฟฟ้ากลุ่มน้ำตาลบุรีรัมย์ (BRRGIF) และ บมจ.โรงพยาบาลวัฒนแพทย์ ตรัง (WPH) ที่เคยถือมูลค่ารวมราว 80 ล้านบาทออก เพิ่ม บมจ.ชโย กรุ๊ป (CHAYO), บมจ.โรงพยาบาลราชพฤกษ์ (RPH), บมจ.เอกชัยการแพทย์ (EKH) และ บมจ.เอเอสเอ็น โบรกเกอร์ (ASN) มูลค่ารวมประมาณ 149 ล้านบาท

พอร์ตหุ้น “ดร.ไพบูลย์ เสรีวิวัฒนา”

ชื่อย่อหุ้น

จำนวน (ล.หุ้น)

%ถือหุ้น

มูลค่า (ลบ.)

TPIPP

82.09

0.98

497

JMT

31.71

3.57

441

BCH

13.04

0.52

224

CHAYO

21.15

3.78

90

D

7.21

3.6

52

RPH

6.87

1.26

33

EKH

3.89

0.65

22

HYDRO

9.98

1.69

7

ASN

1.2

0.93

4

รวม

1,370

 

*** อันดับ 9. "ประชา ดำรงค์สุทธิพงศ์"
    หล่นจากอันดับ 7 มูลค่าพอร์ตเหลือเพียง 2,422 ล้านบาท จากช่วงเดียวกันของปีก่อนที 4,871 ล้านบาท ลดลง 49% เหลือหุ้นในพอร์ต 5 บริษัท จากช่วงเดียวกันปีก่อนที่ 7 บริษัท โดยหุ้นที่ขายออกคือ บมจ.บิวตี้ คอมมูนิตี้ (BEAUTY) และ บมจ.ดู เดย์ ดรีม (DDD) ซึ่งราคาปรับตัวลดลงอย่างรุนแรงปีก่อน

พอร์ตหุ้น “ประชา ดำรงค์สุทธิพงศ์”

ชื่อย่อหุ้น

จำนวน (ล.หุ้น)

%ถือหุ้น

มูลค่า (ลบ.)

CBG

41.1

4.11

2,148

COM7

8.47

0.71

156

AUCT

8.1

1.47

49

SPA

3

0.53

41

FSMART

4.1

0.51

29

รวม

2,422

 

*** อันดับ 10. "โสรัตน์ วณิชวรากิจ"
    "เสี่ยเคน" นายกสมาคม VI คนปัจจุบัน ยังคงถือเพียง บมจ.อาร์เอส (RS) โดยเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่อันดับ 2 ถือหุ้นสัดส่วน 11.19% แต่มูลค่าลดลงเหลือ 2,113 ล้านบาท จากช่วงเดียวกันปีก่อนที่ 2,710 ล้านบาท

*** อันดับ 11. "สมพงษ์ ชลคดีดำรงกุล"
    "เสี่ยปู่" หล่นจากอันดับ 9 มูลค่าพอร์ตเหลือ 2,100 ล้านบาท จากช่วงเดียวกันปีก่อนที่ 3,224 ล้านบาท ลดลง 35% โดยถือหุ้น 14 บริษัท สัดส่วนใกล้เคียงกับปีก่อน แต่หุ้นหลายบริษัทราคาปรับตัวลดลงแรง โดยเฉพาะ บมจ.เวิร์คพอยท์ เอ็นเทอร์เทนเมนท์ (WORK) จากช่วงเดียวกันของปีก่อนราคากว่า 60 บาท ล่าสุดเหลือเพียง 22 บาท ซึ่งได้ตัดขายไปกว่า 2% จากเดิมถือ 2.66% ล่าสุดเหลือเพียง 0.66% 
    เช่นเดียวกับ บมจ.ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ (ORI) จากราคาหุ้น 19 บาท เหลือเพียง 6.90 บาท ซึ่ง "เสี่ยปู่" ซื้อเพิ่มด้วยปัจจุบันถือ 5.53% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่ 4.76% แต่มูลค่ากลับลดลง จากราว 1,471 ล้านบาท เหลือเพียง 928 ล้านบาท ส่วนหุ้นบริษัทอื่นประกอบด้วย

พอร์ตหุ้น “สมพงษ์ ชลคดีดำรงกุล”

ชื่อย่อหุ้น

จำนวน (ล.หุ้น)

%ถือหุ้น

มูลค่า (ลบ.)

ORI

135.43

5.53

928

CKP

0.97

0.97

359

BROCK

12.23

12.23

253

GL

1.22

1.22

125

SGF

70

0.53

91

AJ

2.46

2.46

86

WORK

2.89

0.65

63

SAPPE

2.94

0.97

56

MM

12.07

1.15

41

RSP

10.25

1.33

36

SST

5.21

1.14

24

ICN

2.76

2.76

24

APEX

1

1

8

GREEN

0.65

0.65

6

รวม

2,100

 

*** อันดับ 12."พีรนาถ โชควัฒนา" 
        "พีรนาถ" รั้งอันดับ 12 เช่นเดิม ถือหุ้น 5 บริษัทในสัดส่วนใกล้เคียงกับปีก่อน มูลค่าลดลงเล็กน้อยอยู่ที่ 520 ล้านบาท จากช่วงเดียวกันปีก่อนที 537 ล้านบาท

พอร์ตหุ้น “พีรนาถ โชควัฒนา”

ชื่อย่อหุ้น

จำนวน (ล.หุ้น)

%ถือหุ้น

มูลค่า (ลบ.)

ANAN

83.21

2.5

305

JMART

17.40

2.37

137

PREB

5.16

1.67

55

JUBILE

1.32

0.75

19

J

2.93

0.61

3

รวม

520

 

*** อันดับ 13."อนุรักษ์ บุญแสวง" 
    "โจ ลูกอีสาน" อดีตนายกสมาคม VI มูลค่าพอร์ตลดลงเหลือ 112 ล้านบาท จากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่ 283 ล้านบาท ลดลงถึง 60% จากการสอบถามพบว่าได้มีการปรับพอร์ตหลายบริษัท เน้นกระจายการลงทุน ไม่กระจุกอยู่ที่หุ้นใดมากเกินไป เพราะมีความเสี่ยงสูง โดยปัจจุบันถือหุ้นอยู่มากกว่า 50 บริษัท ส่วนใหญ่ถือสัดส่วนไม่ถึง 0.5% ทำให้ข้อมูลที่ปรากฏปัจจุบันมูลค่าจึงลดลงค่อนข้างมาก แต่พอร์ตรวมผลตอบแทนยังใกล้เคียงกับตลาดฯ

พอร์ตหุ้น “อนุรักษ์ บุญแสวง”

ชื่อย่อหุ้น

จำนวน (ล.หุ้น)

%ถือหุ้น

มูลค่า (ลบ.)

TPOLY

13.19

2.3

38

TCMC

5.34

0.7

17

D

2.02

1.01

15

WIIK

6.47

1.72

13

TCJ

1.96

1.86

10

SKE

4.85

0.52

5

SVOA

4.26

0.6

5

MVP

1.97

0.99

4

ABM

3.77

1.26

4

SE

1.33

0.55

3

รวม

112

 

หมายเหตุ : ข้อมูลข้างต้นสำรวจจากการถือครองหุ้นในบริษัทจดทะเบียน (บจ.) ที่มีสัดส่วนตั้งแต่ 0.5% ขึ้นไป ซึ่งจะเปิดเผยโดยตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) โดยเป็นข้อมูล ณ ช่วงปิดสมุดทะเบียนงวด ม.ค.-มี.ค.62 ซึ่งบางบริษัทอาจจะถูกขายออกไปแล้ว หรืออาจจะถือหุ้นบริษัทอื่นอีก แต่มีสัดส่วนการถือครองไม่ถึง 0.5% ขณะที่มูลค่าการถือครองคิดจากราคาหุ้น ณ วันที่ 4 เม.ย.62

Refer : Efinancethai

 


Ozone Pinyo