ห้องเม่าปีกเหล็ก

K Expert คุยเรื่องหุ้นจีน

โดย คนเล่นหุ้น
เผยแพร่ :
68 views

K Expert คุยเรื่องหุ้นจีน

สรุปโดย Seminar Knowledge Page

--------------------------

จีนได้ประโยชน์จากโควิด ภาคการส่งออก และ ภาคการผลิตโตขึ้นเยอะ
ดัชนีPMI ภาคการผลิตของฝั่งเอกชนโตขึ้นมาเยอะ แต่ภาคการบริการจะโตกลับมาช้ากว่าภาคการผลิต6เดือน
ประเทศที่เจอCovid wave 2,3 ภาคการผลิตก็ยังไม่กลับมา
PMI ของจีน จากรูป peak ปลายปี63 และ ลดลงมาสู่ปกติ ซึ่งจีนลดการอัดฉีดนั่นเอง
ส่งออกอุปกรณ์การแพทย์ ชุดPPE และหน้ากาก ได้เยอะสุดในช่วงที่ผ่านมา

 

ปีนี้ตัวเลขการลงทุนภาคเอกชนจีน บวกอย่างต่อเนื่อง หลังCovid ช่วงแรกอัดฉีดเงินเยอะ
ตอนนี้เอกชนจีนกลับมาลงทุนเพิ่ม 15.4% ส่วนภาครัฐโตน้อยกว่า 9.8% (Y-Y)
ส่วนการลงทุนหุ้นอสังหาริมทรัพย์ค่อนข้างร้อนแรง Y-Y 20% แต่รัฐพยายามควบคุมทำให้อสังหาจีน
โตลดลงมาที่ 10%

ก่อนหน้านี้จะมีตัวเลขการสร้างบ้าน มากกว่า ความต้องการ แต่ตอนนี้ไม่ใช่
คนอยากซื้อบ้าน เพราะดอกเบี้ยช่วงนี้ต่ำ
ประชาชนเข้าไปกู้เงินมากขึ้น มีการประมูลที่ดินของรัฐ โดยรัฐบาลท้องถิ่นมีการควบคุม
Demand & supply และตัวDeveloperด้วย

การเข้ามาควบคุมและตรวจสอบ เช่น
-Meituan
-TAL
-Tencent

 

ดังนั้นเพื่อรองรับเป้าหมายเศรษฐกิจในอีก5ปี
1.เราต้องกระจายความมั่งคั่งให้ทุกๆคน

2.อยากให้ประชากรเพิ่มขึ้น เลยมีการควบคุมค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวข้องที่ทำให้คนอยากมีลูกมากขึ้น
ตอนนี้ล่าสุดประกาศให้มีลูกได้ถึง 3 คนแล้ว นโยบายเหล่านี้ทำให้ตลาดผันผวน

--------------------------

4 กลุ่มหลักที่รัฐบาลจีนออกนโยบายควบคุม

1.Anti-trust
ถ้าบางบริษัทเก่งเกินไป จะได้ทุกอย่าง โดยการซื้อคู่แข่ง เช่น กลุ่มEV ซึ่งมีผู้ชนะน้อยราย แต่ระยะยาวไปแข่งEV ภาครัฐคิดว่าน่าจะมีผู้เล่นหลายๆคนจะดีกว่า เลยพยายามควบคุมรายใหญ่ไม่ให้ใหญ่เกินไป

2.Fintech/Capital Market

3.Data Security ที่USก็มีทำ แต่ที่จีนจะเรียกเข้าไปคุยทันที ดังนั้นจะเจอ surprise โดยไม่คาดฝัน

4.Social Equality

กลุ่มการศึกษาไม่อยากให้เป็นต้นทุนทางสังคม ก่อนหน้านี้5ปี ให้มีลูกได้2คน แต่ไม่ค่อยได้ผลเพราะต้นทุน
ในการมีลูก1คนค่อนข้างสูง รวมถึงบ้านมีราคาแพง การมีลูกต้องใช้เงินเยอะ เช่นค่าเรียนพิเศษ
อะไรที่ขัดแย้งกับนโยบาย ก็จะมีการแก้ไข

--------------------------

ทำไมจีนยังน่าเข้าไปลงทุน
เศรษฐกิจระยะยาว ยังโตอีกมาก

ตลาดหุ้นผันผวนทั้งที่ผลประกอบการไม่ได้ย่า นักลงทุนไม่สามารถคำนวณผลจากนโยบายได้ บางคนจะถอยออก
มาก่อน แต่เทียบกับผลตอบแทนก็น่าสนใจ
ประเทศจีนเติบโตเร็วตั้งแต่ปี2008ก็ฟื้นอย่างรวดเร็วและต่อเนื่อง
(อินเดียก็เติบโตสูง แต่มีปัจจัยในเรื่องความไม่แน่นอน)
เศรษฐกิจโดยรวมเติบโตขึ้น 10ปีที่ผ่านมา สะสมเงินได้เยอะ

จีนเปลี่ยนแปลงจากผู้ผลิตของโลกมาเป็น ผู้ให้บริการ กระตุ้นการจับจ่ายใช้สอยในประเทศมากขึ้น

มีคนจีนไปท่องเที่ยวต่างประเทศมากขึ้น เช่นมาเที่ยวในไทย ทำให้สัดส่วนการส่งออกลดลงจาก30%เป็น 20%GDP
และพึ่งพาการบริโภคภายในประเทศมากขึ้น

Alibaba ทำ E-commerce , Alipay , Ant Financial

เราไม่เคยคิดจะซื้ออุปกรณ์การแพทย์จากจีน ตอนนี้จีนไปตั้งโรงงานผลิตที่EU

--------------------------

เราเห็นการเปลี่ยนแปลงของจีน เช่น

1.เซิ่นเจิ้น เปลี่ยนแปลงจากทำเรื่องcopy มาทำเป็นSilicon Valley

2.ฐานประเทศมีความ Developอีกขั้น จีนจะผันตัวไปทำ sector service เหมือน Develop Market

3.คนจีนมีรายได้เพิ่มขึ้น เกิดจากการขยายตัวของชนชั้นกลาง มีโอกาสในการทำธุรกิจใหม่ๆมากขึ้นสำหรับบริษัทใหม่ๆ

4.ต่อไปจีนจะพึ่งพาตัวเองมากขึ้น เช่น USเคยขู่ไม่ขายchipsetให้
จีนก็เลยมีคำพูดว่า จีนทำ จีนใช้ จีนเติบโต จะพึ่งพาตัวเองมากขึ้น

มีหลายธุรกิจยังทำไม่ค่อยดี แต่อนาคตจะทำได้ดีขึ้น เช่น EV จีนpush Demand&supply
โดยจีนยอมให้ตลาดเติบโตลดลง2ปีในปี2018,2019 โดยออกป้ายทะเบียนรถยนต์สันดาปยากขึ้น
รถNEOเคยเกิดปัญหา เกือบปิดกิจกาจในช่วงCovid ทางการก็เข้าไปช่วยเหลือจะสามารถดำเนินธุรกิจตามปกติได้แล้ว

--------------------------

ธุรกิจที่น่าสนใจ
1.
EV Car + Battery + ชิ้นส่วนของรถEV บางเมืองโตขึ้น20% จะpushได้อีก ซึ่งเมืองเล็กสามารถผลักดันได้ง่ายกว่า
ยิ่งมีการแข่งขันรุนแรง Productใหม่ก็ออกมามาก ราคาก็จะถูกลง

 

2.
พลังงานสะอาด

--------------------------

5. โอกาสในการลงทุนในจีนยังมีอีกมากจากปัจจัยพื้นฐานที่ดี
GDP ของจีนคิดเป็น 17%ของโลก แต่ Market cap ของหุ้นจีนคิดเป็น 5%ของโลกเอง
มีโอกาสเติบโตเพิ่มportionอีกเยอะ ตลาดเซิ่นเจิ้นคิดเป็นไม่ถึงหนึ่งในสามของตลาดหุ้นNasdaqเลย

6. A-share Inclusion การเพิ่มสัดส่วนA-shareเข้าไปใน Emerging market มากขึ้น
ลงทุนผ่านนักลงทุนสถาบันที่อยู่ในจีน
แผนพัฒนาประเทศ5ปีเปลี่ยนแปลงไปเรื่อยๆ

--------------------------

หุ้นไทยขนาดใหญ่ในปี 2010 กับตอนนี้ไม่เปลี่ยนแปลงเลย
แต่หุ้นจีน Consumer Discrete เพิ่มจาก 5.5% เป็น 37.7%

Finance ปรับลดจาก 32.9% เหลือ 13.1%
Energy ปรับลดจาก 17.2% เหลือ 1.6%

จะเห็นว่าอุตสาหกรรมของจีนมีการเปลี่ยนแปลงไป ความdynamicเป็นโอกาสในการลงทุน
10 ปีที่แล้ว ใครจะคิดว่า E-commerce จะเติบโตขนาดนี้

--------------------------

โอกาสการลงทุน
บลจ กสิกรไทย แนะนำสองกองทุน

1.K-China ลงในจีนทุกตลาด All China
Yield to date ถึง 12/8 - 7.68% เทียบกับBenchmark -10.21% ลบน้อยกว่าตลาด
ซึ่งผู้จัดการกองทุน บางส่วน Buy and Hold , บางส่วนจะtrading

2.K-CCTV ผันผวนต่ำ และลงใน A-share 100% ซึ่งลดMax DDได้
เป็น Active Fund ลงใน UBS China A Opportunity Fund ประมาณ 75%ของทั้งหมด
และลง Schroder china A อีก 25%

YTD ติดลบน้อยกว่าคู่แข่ง

ดังนั้นคำแนะนำ ถ้าต้องการลงกองเดียว แนะนำ Kchina (เหมือนกับที่ Finnomina แนะนำ)
แต่แนะนำให้ลงทั้งสองกอง เพื่อกระจายความเสี่ยง

--------------------------

กลยุทธ์
ช่วงปี 2018 ดัชนีก็เคยลดลง และพอดีกับการออกกอง KCCTVพอดี ดัชนีเกือบ Bottom
ในเชิงของvaluation เคยถึง +2SD ตลาดอื่นเทรดเหนือ 2SD แล้ว
ตอนนี้ราคาค่อนข้าง Fair Value แต่ตลาดหุ้นค่อนข้างจะผันผวนสูง

--------------------------

ทำไมชอบตลาดหุ้นจีน
ผลตอบแทนย้อนหลัง 21 ปี (1999-2021) Return Annual 12.59% มากกว่า ACW 6.34%
จากตารางในรูป พบว่า การลงทุนในระยะเวลาที่ยาวนานพอ เช่น 10ปี ผลตอบแทน
ของหุ้นจีนอยู่ในช่วง 0.45%-21.92% Average 11.77%
แต่ถ้าลงระยะแค่ 3 ปี จะเจอบางปีติดลบ ซึ่งผลตอบแทนอยู่ในช่วง -10.41% จนถึง 64% average 13.02%
การจัดพอร์ตหุ้นจีนในportfolio พบว่าช่วยให้ผลตอบแทนดี

เช่น ถ้าลงหุ้นจีน 100% จะได้ 12.59 % sharp ratio 0.38 ถ้าลงหุ้นโลก จะได้ 6.34% sharp ratio 0.25
แต่ถ้าเราจัดสัดส่วน หุ้น จีน: หุ้นโลก แต่ละแบบ

1. 10/90 return 7.25% sharp ratio 0.31
2. 20/80 return 8.1% sharp ratio 0.36
3. 50/50 return 10.28 sharp ratio 0.43 ซึ่งดีกว่า ลงหุ้นจีนอย่างเดียวเสียอีก
แนะนำลงทุนในหุ้นจีนระยะยาว และ กระจายความเสี่ยง

MSCI China 10/40 return 12.59% , Max DD -74%
ACWI return 6.34% , Max DD -58%
China 10% return 7.25% Max DD -58.59%
China 20% return 8.1% , Max DD -58.92%
China 50% return 10.28% , Max DD -63.35%

ระยะเวลาในการลงทุนเป็นสิ่งสำคัญ แนะนำให้ถืออย่างน้อย 3Yearขึ้นไป

คนที่เกษียณ แนะนำให้ลงทุนหุ้นจีน 5-10% ก็พอ

สิ้นปีน่าจะมีนโยบายสนับสนุน แต่การควบคุมก็ยังมีอยู่ ความรุนแรงก็น่าจะน้อยลง


คนเล่นหุ้น