ส่องงบ 4 บจ. ตระกูลซีพี Q1/65 เป็นอย่างไรกันบ้าง?

ประกาศผลประกอบการงวดไตรมาส 1/65 ออกมาครบแล้ว สำหรับ 4 บริษัทจดทะเบียนของ "เครือเจริญโภคภัณฑ์" หรือ ซีพี ไม่ว่าจะเป็น

บริษัท เจริญโภคภัณฑ์อาหาร จำกัด (มหาชน) หรือ CPF บริษัท ซีพี ออลล์ จำกัด (มหาชน) หรือ CPALL บริษัท สยามแม็คโคร จำกัด (มหาชน) หรือ MAKRO รวมถึง บริษัท ทรู คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ TRUE ที่เพิ่งประกาศงบออกมาสดๆ ร้อนๆ วานนี้

.

สำนักข่าวอีไฟแนนซ์ไทย จึงได้รวบรวมผลประกอบการของทั้ง 4 บริษัทมาให้นักลงทุนได้ติดตามกัน ว่าในไตรมาสแรกของปีนี้ ผลงานของทั้ง 4 บริษัทเป็นอย่างไรกันบ้าง

.

* ราคาหมูตก ทำกำไร CPF สะดุด

บริษัท เจริญโภคภัณฑ์อาหาร จำกัด (มหาชน) หรือ CPF เปิดเผยว่า ผลประกอบการไตรมาส 1/65 มีกำไร 2842.04 ล้านบาท หรือ 0.34 บาท/หุ้น ลดลง 59% จากงวดเดียวกันปี 64 ที่มีกำไร 6,945.46 ล้านบาท หรือ 0.85 บาท/หุ้น

.

โดยสาเหตุหลักที่ทำให้กำไรลดลง มาจากราคาสุกรในประเทศเวียดนามและประเทศจีนอยู่ในระดับต่ำกว่าช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีระดับราคาสูงจากภาวะขาดแคลนสุกรจากโรคระบาด ประกอบกับราคาวัตถุดิบอาหารสัตว์เพิ่มสูงขึ้นจากปีก่อน

.

อย่างไรไตรมาสนี้ CPF มีรายได้จากการขายจำนวน 138,887 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 16% เมื่อเทียบจากไตรมาสเดียวกันของปีก่อน โดยเป็นรายได้จากการขายของกิจการประเทศไทยที่เพิ่มขึ้น 13% และรายได้จากการขายของกิจการต่างประเทศเพิ่มขึ้น 18%

.

* CPALL - MAKRO ควงคู่กำไรพุ่ง รับเปิดประเทศ

บริษัท ซีพี ออลล์ จำกัด (มหาชน) หรือ CPALL เปิดเผย ว่าผลประกอบการงวดไตรมาส 1/65 มีกำไรสุทธิ 3,453.02 ล้านบาท หรือ 0.36 บาท/หุ้น เพิ่มขึ้น 32.9% จากงวดเดียวกันปี 64 ที่มีกำไร 2,599.05 ล้านบาท หรือ 0.26 บาท/หุ้น

.

โดยไตรมาสนี้บริษัทฯมีรายได้รวม 199,731ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากไตรมาสเดียวกันของปีก่อน 49.7% โดยมีสาเหตุมาจากการปรับเพิ่มขึ้นของรายได้จากการขายและบริการของธุรกิจร้านสะดวกซื้อ และธุรกิจแม็คโครนั้นยังสามารถรักษาอัตราการเติบโตของรายได้จากการขายและบริการไว้ได้ประกอบกับมีการรับรู้รายได้ของธุรกิจโลตัสส์เข้ามาทั้งจำนวนในไตรมาสนี้ นอกจากนี้กลยุทธ์ O2O ของแต่ละหน่วยธุรกิจยังคงเป็นปัจจัยสนับสนุนอย่างต่อเนื่อง โดยการเติบโตของรายได้นั้นได้รับปัจจัยบวกจากการเริ่มเปิดประเทศ ซึ่งส่งผลให้กิจกรรมทางเศรษฐกิจ และการบริโภคภายในประเทศปรับตัวดีขึ้น

.

กำไรขั้นต้นจากการขายและบริการเท่ากับ 41,822 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 52.8% จากไตรมาสเดียวกันของปีก่อน โดยมีสาเหตุหลักมาจากรายได้จากการขายและบริการของทุกกลุ่มธุรกิจเพิ่มขึ้น รวมถึงการบันทึกกำไรขั้นต้นจากธุรกิจโลตัสส์เข้ามาทั้งไตรมาส อัตรากำไรขั้นต้นในงบการเงินรวม คิดเป็น 21.5% เพิ่มขึ้นจาก 21.3% จากไตรมาสเดียวกันของปีก่อน สืบเนื่องจากธุรกิจค้าร้านสะดวกซื้อ ซึ่งเป็นธุรกิจที่มีอัตรากำไรขั้นต้นสูง มีอัตราการเติบโตของกำไรขั้นต้นที่ดีกว่า เมื่อเปรียบเทียบกับธุรกิจอื่น

.

ส่วนบริษัท สยามแม็คโคร จำกัด (มหาชน) หรือ MAKRO เปิดเผยว่า ผลประกอบการไตรมาส 1/65 มีกำไร 2,050.30 ล้านบาท หรือ 0.19 บาท/หุ้น เพิ่มขึ้น 18.3% จากงวดเดียวกันปี 64 ที่มีกำไร 1,733.74 ล้านบาท หรือ 0.36 บาท/หุ้น

.

ทั้งนี้ หากแยกกำไรจากกลุ่มธุรกิจค้าส่ง จะอยู่ที่ 1,741 ล้านบาท เติบโตเล็กน้อย 0.5% จากปีก่อน ส่วนกำไรจากธุรกิจค้าปลีกอยู่ที่ 309 ล้านบาท ในไตรมาสนี้มีรายได้รวม 106,268 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 93.7% จากช่วงเดียวกันปีก่อน จากการรวมธุรกิจค้าปลีกช่วงเดือนต.ค.64 และรายได้ธุรกิจค้าส่งที่เติบโตต่อเนื่อง รวมถึงธุรกิจในต่างประเทศ และฟูดเซอร์วิสที่ฟื้นตัวจากโควิด-19 ของกลุ่มโรงแรมและร้านอาหาร

.

* TRUE ขาดทุนอ่วม 1,617 ลบ.

บริษัท ทรู คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ TRUE เปิดเผยว่า ผลประกอบการไตรมาส 1/65 ขาดทุน 1,617.08 ล้านบาท หรือ -0.05 บาท/หุ้น ขาดทุนเพิ่มขึ้น 178% จากช่วงเดียวกันปี 64 ที่ขาดทุน 581.41 ล้านบาท หรือ -0.02 บาท/หุ้น

.

ไตรมาสนี้ มีผลขาดทุนสุทธิส่วนที่เป็นของบริษัทฯเพิ่มขึ้นจาก 581 ล้านบาทในงวดเดียวกันของปีก่อนเป็น 1,617 ล้านบาท จากขาดทุนทางบัญชีจากอัตราแลกเปลี่ยนจำนวน 452 ล้านบาท รวมถึงการเพิ่มขึ้นของค่าเสื่อมราคา ค่าตัดจำหน่าย และดอกเบี้ยจ่ายเพื่อสนับสนุนการขยายโครงข่าย 5G และการชำระค่าใบอนุญาตการใช้งานคลื่นความถี่

.

ส่วนรายได้รวม 35,138 ล้านบาท ลดลง 0.8% เทียบช่วงเดียวกันปี 64 และรายได้จากการให้บริการ 25,903 ล้านบาท ลดลง 2.4%โดยการแพร่ระบาดของโควิด-19 สายพันธุ์โอมิครอนที่สูงขึ้นประกอบกับความกังวลจากสงครามระหว่างรัสเซียและยูเครน รวมถึงค่าเงินเฟ้อ ส่งผลกระทบต่อการฟื้นตัวของเศรษฐกิจและกำลังซื้อของผู้บริโภคในไตรมาส 1 ปี 65