TLI : TLI โดดเด่นกว่าภายใต้มาตรฐาน TFRS17

การนำเสนอกำไร/ขาดทุนแบบใหม่จะสะท้อนกำไรทางธุรกิจที่ดีขึ้น เมื่อวันที่ 4 พ.ค. TLI รายงานงบการเงินปี 2567 ตามมาตรฐานการบัญชีใหม่ TFRS 17 และ TFRS 9 โดย TFRS 17 แนะนำวิธีใหม่ในการรับรู้รายได้และต้นทุน ซึ่งจะแก้ไขปัญหาความตึงเครียดทางธุรกิจใหม่จากค่าใช้จ่ายล่วงหน้าที่สูง (ค่าคอมมิชชันและต้นทุนการรับประกันภัย) ซึ่งเคยทำให้บริษัทประกันภัยรายงานผลประกอบการระยะสั้นที่อ่อนแอ แม้ว่ายอดขายกรมธรรม์จะแข็งแกร่งก็ตาม ซึ่งจะสะท้อนผลการดำเนินงานที่แท้จริงของธุรกิจประกันภัยได้ดีขึ้น โดย TFRS 17 จะแนะนำกำไรจากการให้บริการตามสัญญา (CSM) ซึ่งกระจายกำไรจากสัญญาประกันภัยไปตามระยะเวลาความคุ้มครอง ส่งผลให้งบการเงินกับผลการดำเนินธุรกิจสอดคล้องและแม่นยำยิ่งขึ้นเกี่ยวกับความสามารถในการทำกำไรในช่วงเวลาดังกล่าว
กำไรปกติเพิ่มขึ้น 17.4% จาก TFRS 17 และ TFRS 9 TLI รายงานกำไรสุทธิตามมาตรฐานการบัญชีใหม่ที่ 1.34 หมื่นลบ. (เพิ่มขึ้น 14.4% จากมาตรฐานการบัญชีเดิม) โดยกำไรสุทธิจากการรับประกันภัยเพิ่มขึ้น 12% จากการไม่มีภาระผูกพันทางธุรกิจใหม่ ขณะที่กำไรจากการลงทุนสุทธิเพิ่มขึ้น 19% จากต้นทุนดอกเบี้ยหนี้สินจากสัญญาประกันภัยที่ลดลงตามมาตรฐาน TFRS 17 หากไม่รวมรายการพิเศษ กำไรปกติอยู่ที่ 1.03 หมื่นลบ. (เพิ่มขึ้น 17.4%)
TLI โดดเด่นกว่าคู่แข่ง TFRS 17 ทำให้เห็นว่า TLI มีความโดดเด่นกว่าคู่แข่งด้านอัตราส่วน CSM ต่อ ICL (สัญญาประกันภัย) และอัตราส่วนการปล่อย CSM ที่แข็งแกร่งในปี 2567 ซึ่งสะท้อนว่าอัตรากำไร VONB ที่สูงของ TLI ถูกแสดงให้เห็นได้ดีกว่าภายใต้มาตรฐานบัญชีใหม่นี้
คาดมูลค่าส่วนเพิ่มที่ 1.5 บาท/หุ้น จาก ROE ที่สูงขึ้น หลังจากนำมาตรฐานบัญชีใหม่มาใช้ เรามองเห็นกำไรสุทธิ กำไรสะสม ส่วนของผู้ถือหุ้น และ ROE ของ TLI ปรับตัวดีขึ้น ดังที่แสดงในแผนภาพ 6 หากอิงจากการคำนวณของเรา ROE ปรับตัวดีขึ้น 97bps น่าจะมีการปรับเพิ่มตัวคูณ P/BV ขึ้น 0.15 เท่า คิดเป็น 1.5 บาท/หุ้น (10.9% ของราคาเป้าหมายของเราที่ 13.8 บาท)
คาดกำไรปี 2568 จะลดลงจากกำไรจากการลงทุนที่เปลี่ยนไปเป็นกำไรสุทธิของ TLI บริษัทฯ คาดว่ากำไรสุทธิปี 2568 จะลดลง YoY ตามมาตรฐาน TFRS 9 เนื่องจากจัดประเภทกำไร/ขาดทุนจากการลงทุนที่ยังไม่เกิดขึ้นใหม่เป็นกำไรสุทธิอื่น (OCI)
คำแนะนำ “ซื้อ” TP 13.80 บาท