ห้องเม่าปีกเหล็ก

เปิดรายชื่อ 10 หุ้นร้อน! P/E สูงสุดในตลาดหุ้นไทย พบ 1 บริษัท “พีอี” พุ่งทะลุ 2 พันเท่า

โดย ELEVEN7
เผยแพร่ :
531 views

เปิดรายชื่อ 10 หุ้นร้อน! P/E สูงสุดในตลาดหุ้นไทย พบ 1 บริษัท “พีอี” พุ่งทะลุ 2 พันเท่า

 

 

วันนี้ Wealthy Thai ได้รวบรวมหุ้นที่มี่ค่า P/E สูงสุด 5 อันดับแรก ทั้งในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET) และ ตลาดหลักทรัพย์เอ็ม เอ ไอ (mai) มาฝากนักลงทุน โดย P/E เป็นอัตราส่วนทางการเงินยอดนิยมของสาย VI ที่นำข้อมูลทางการเงินมาใช้วิเคราะห์พื้นฐานของบริษัท ซึ่งคำนวณมาจากราคาตลาดของหุ้นหารด้วยกำไรต่อหุ้น (Price/Earnings Per Share) กล่าวคือ การนำราคาหุ้นมาเทียบกับความสามารถในการสร้างกำไรของบริษัท


ทั้งนี้ P/E สามารถประมาณจุดคุ้มทุนได้ แต่ถือเป็นแนวทางเบื้องต้นสำหรับการเข้าลงทุนเท่านั้น เพราะบางกรณี หุ้น P/E สูงก็ยังน่าลงทุน เช่น หุ้น Growth Stock ซึ่งหุ้นเหล่านี้จะมี P/E สูง แต่ก็ไม่ควรเกินระดับการเติบโตของกำไร อย่างไรก็ตาม บางครั้งหุ้นที่มี P/E ต่ำ ก็เกิดจากราคาที่ต่ำ และกำไรก็ไม่ได้เติบโต ดังนั้นแม้ P/E จะต่ำแค่ไหน ก็ไม่มีแรงจูงใจที่จะลงทุนเช่นกัน


สำหรับหุ้นที่มีค่า P/E สูงสุด 5 อันดับแรกในฝั่ง SET คือ VRANDA, SHR, LRH, BSBM, SSC ขณะที่ฝั่ง mai คือ STC, K, JAK, SWC และ WINNER

 

หากเข้าไปสำรวจปัจจัยพื้นฐาน VRANDA ล่าสุดยังไม่มีการประเมินจากนักวิเคราะห์ แต่ก่อนหน้านี้นายวีรวัฒน์ องค์วาสิฏฐ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร VRANDA กล่าวว่า แผนธุรกิจปี 2566-2567 “วีรันดา รีสอร์ท” เตรียมขยายลงทุน โดยมุ่งขยายพอร์ตธุรกิจอย่างครบครัน ทั้ง โรงแรมและรีสอร์ท ธุรกิจอสังหาฯ ตลอดจนการสร้างแบรนด์ธุรกิจร้านอาหาร เพื่อตอกย้ำผู้นำธุรกิจไลฟ์สไตล์ครอบคลุมรับกับภาพรวมสถานการณ์ท่องเที่ยวฟื้นตัวอย่างโดดเด่น


ทั้งนี้เนื่องจากประเทศไทยถือเป็นเดสติเนชั่นที่สำคัญสำหรับนักท่องเที่ยวทั่วโลก ประกอบกับการที่จีนเปิดประเทศยิ่งเพิ่มจำนวนนักท่องเที่ยวเติบโตอย่างรวดเร็ว รวมทั้งนโยบายภาครัฐที่ส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงคุณภาพมากกว่าปริมาณ การมีโครงการกระตุ้นการท่องเที่ยวภายในประเทศ สนับสนุนให้คนไทยร่วมเที่ยวไทยไปพร้อมกับนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติจากทั่วโลก  มั่นใจว่าปี 2566-2567 จะเป็นจังหวะแห่งการเติบโตก้าวกระโดดอย่างแน่นอน


ขณะที่ SHR นักวิเคราะห์บล.กรุงศรี พัฒนสิน จำกัด (มหาชน) แนะนำ Trading Buy แต่แนะนำ “ซื้อเมื่ออ่อนตัว” ให้ราคาเป้าหมาย 5 บาท เนื่องจากระยะสั้นอาจมีแรงกดดันจากการฟื้นตัวของกำไรสุทธิไตรมาส 1/66 อาจต่ำกว่าที่ตลาดคาด โดยมองสถานการณ์ในไตรมาส 3/66 ที่มีสัญญาณของกำไรสุทธิดีขึ้นเด่นชัด ค่อยเป็นโอกาสซื้ออีกครั้ง

 

 


ELEVEN7