ห้องเม่าปีกเหล็ก

BCP สร้างโรงงานผลิตเชื้อเพลิงอากาศยาน

โดย หมาฝัน
เผยแพร่ :
140 views

BCP ทุ่ม 1 หมื่นลบ. สร้างโรงงานผลิตเชื้อเพลิงอากาศยาน เริ่มขายปี 67

 

นายชัยวัฒน์ โควาวิสารัช ประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่มบริษัทบางจากและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท บางจาก คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ BCP เปิดเผยในงานแถลงข่าว การร่วมทุนจัดตั้ง BSGF ว่า บริษัทฯ ได้ร่วมทุนจัดตั้งบริษัท บีเอสจีเอฟ จำกัด (BSGF) โดยใช้งบลงทุน 8,000-10,000 ล้านบาท เพื่อการก่อสร้างโรงงานเพื่อดำเนินธุรกิจผลิตและจำหน่าย เชื้อเพลิงอากาศยานยั่งยืน หรือ SAF (Sustainable Aviation Fuel) จากน้ำมันใช้แล้วจากการทำอาหาร(Used Cooking Oil) เป็นรายแรกและรายเดียวในประเทศไทย

.

โดยบริษัท BSGF มีผู้ร่วมทุน ได้แก่ BCP สัดส่วนถือหุ้น 51% , บริษัท ธนโชค ออยล์ ไลห์ จำกัด สัดส่วน 29% และ บริษัท บีบีจีไอ จำกัด (มหาชน) หรือ BBGI สัดส่วน 20%

.

สำหรับการจัดจำหน่าย คาดว่าจะพร้อมให้บริการอุตสาหกรรมการบินทั้งในและต่างประเทศอีก 18 เดือน หรือในปี 2567 โดยมีบริษัท BCP Trading (BCPT) บริษัทในกลุ่ม BCP ซึ่งปัจจุบันเป็นผู้ค้าน้ำมันอิสระอันดับหนึ่งในตลาดสิงคโปร์ เป็นผู้จัดจำหน่าย โดยบริษัทฯ คาดว่าจะจำหน่ายน้ำมันเชื่อเพลิงจากน้ำมันพืชได้ 365 ล้านลิตร/ปี

.

ซึ่งบริษัท BSGF จะเริ่มดำเนินธุรกิจด้วยการก่อสร้างหน่วยผลิต SAF จากน้ำมันใช้แล้วจากการทำอาหาร (Used Cooking Oil) ภายในบริเวณโรงกลั่นน้ำมันบางจาก ด้วยกำลังการผลิตเริ่มดัน 1,000,000 ลิตรต่อวัน เป็นน้ำมันเชื้อเพลิงอากาศยานแบบยั่งยืนที่อุดสาหกรรมการบินทั่วโลกสามารถนำมาใช้ทดแทนได้ทันทีโดยไม่ส่งผลต่อเครื่องยนต์ ซึ่งจะช่วยลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกจากอุตสาหกรรมการบินลงได้ประมาณ 80,000 ตันคาร์บอนไดออกไซด์เทียบเท่าต่อปี (เทียบกับการปล่อยก๊าซเรือนกระจกของเชื้อเพลิงการบินในปัจจุบัน)

.

"เราคงใช้งบ 8,000-10,000 ล้านบาท เพื่อก่อสร้างโรงงานผลิตน้ำมันจากน้ำมันใช้แล้วเพื่อเป็นน้ำมันเติมในอุตสาหกรรมการบิน ซึ่งคาดว่าจะให้บริการได้อีก 18 เดือนจากนี้ เฉลี่ยปริมาณการเติม 365 ล้านลิตร/ปี "นายชัยวัฒน์กล่าว

.

โดย BSGF พร้อมขยายเพิ่มกำลังการผลิตรองรับความต้องการใช้ SAF ในอนาคด ตามแนวโน้มความต้องการใช้ SAF ทั่วโลก สอดคล้องกับข้อกำหนดในสหภาพยุโรปที่กำหนดสัดส่วนการผสม SAF ในน้ำมันอากาศยานที่จะบินเข้าสู่สนามบินในสหภาพยุโรปเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง (จากการลงมติของสมาชิกสภายุโรป เมื่อต้นเดือนกรกฏาคมที่ผ่านมา กำหนดไว้ที่ 2% ในปี 2568 และเพิ่มขึ้นเป็น 6%, 37% และ 85% ในปีพ.ศ. 2573 , 2583 และ 2593 ตามลำดับ) และสอดคล้องกับมาตรการขององค์การการบินพลเรือนระหว่างประเทศ (International Civil Aviation Organization: ICAO) และสมาคมการบินระหว่างประเทศ(International Air Transport Association: IA TA) ที่ให้การสนับสนุน เพื่อให้อุดสาหกรรมการบินทั่วโลกมุ่งสู่เป้าหมาย Net Zero ในปี 2593

.

โดยนายชัยวัฒน์ ยังกล่าวอีกว่า การร่วมทุนก่อตั้งบริษัท BSGF และหน่วยผลิด SAF จากน้ำมันใช้ แล้วจากการทำอาหารรายแรกและรายเดียวในประเทศไทยนี้ ถือว่าเป็นบทใหม่สำหรับวงการพลังงานของประเทศไทยที่กำลังเปลี่ยนผ่านสู่ผลังงานสะอาดด้วยนวัตกรรมพลังงานสีเขียว และเป็นอีกหนึ่งก้าวสำคัญ ตามแผน BCP 316 NET ของกลุ่มบางจาก เพื่อมุ่งสู่เป้าหมายการปล่อยก๊ซเรือนกระจกเป็นศูนย์(Net Zero) ภายในปีค.ศ. 2050 และร่วมขับเคลื่อนประเทศไทยสู่เป้า Net Zero ในปีค.ศ. 2065

.

ทั้งนี้ ธนโชค ออยล์ ไลท์ เป็นผู้ดำเนินธุรกิจอุตสาหกรรมที่มีความเชี่ยวชาญในการผลิตไบโอดีเซลจากน้ำมันใช้แล้ว โดยมีการลงพื้นที่จัดเก็บในชุมชน ป้องกันการนำกลับไปใช้ซ้ำหรือระบายทิ้งลงในพื้นที่สาธารณะหรือแหล่งน้ำต่าง ๆโดยปัจจุบัน กลุ่มธนโชคฯ มีเครือข่ายการเก็บรวบรวมน้ำมันใช้แล้วครอบคลุม 77 จังหวัดทั่วประเทศด้วยศักยภาพการจัดเก็บและรวบรวมน้ำมันใช้แล้วประมาณ 17 ล้านลิตรต่อเดือน

***********************************

 


หมาฝัน