จับตาแรงขายหุ้นพลังงาน ฉุด SET ไหลลงแตะ 1,710 จุด
นายวิวัฒน์ เตชะพูลผล รองกรรมการผู้จัดการและหัวหน้าฝ่ายวิเคราะห์ทางเทคนิค บล.ทิสโก้ บอกถึงภาพรวมตลาดหุ้นไทยในเดือนที่ผ่านมา ดัชนีปรับตัวลดลงผิดไปจากที่คาดไว้ เนื่องจากมีความกังวลหลายประการเข้ามากระทบ เช่น สงครามการค้าของสหรัฐฯ การเลือกตั้งของไทยที่อาจจะถูกเลื่อนออกไป รวมถึงการช่วยเหลือผู้ประกอบการทีวีดิจิทัลไม่เป็นไปตามคาด เป็นต้น
แต่อย่างไรก็ดี บล.ทิสโก้ ประเมินว่าหลังจากนี้ สถานการณ์ตลาดหุ้นไทยโดยรวมจะไม่น่ากังวลนัก เพราะที่ผ่านมาราคาหุ้นหลายบริษัทปรับตัวลดลงไปมากแล้ว
โดยคาดว่าหุ้นไทยในช่วงเดือน เม.ย. - พ.ค. จะแกว่งตัวออกข้าง (Side Way) ในกรอบ 1,750-1,800 จุด และยังมีโอกาสหลุดแนวรับ 1,750 จุดไปถึงแนวรับถัดไปที่ 1,710 จุดได้ หากนักลงทุนขายเพื่อทำกำไรล่วงหน้า ก่อนการประกาศข่าวผลประกอบการไตรมาส 1/2561 ในหุ้นกลุ่มพลังงานและหุ้นขนาดใหญ่ คือ PTT, PTTEP, PTTGC, IRPC และIVL ที่คาดว่าจะออกมาดี
ดังนั้น ในทางเทคนิค หากนักลงทุนมีหุ้น PTT, PTTEP, PTTGC, IRPC และ IVL แนะนำให้เล่นสั้นและขายออกก่อนที่จะมีการประกาศผลประกอบการไตรมาส 1 ในช่วงต้นเดือนพ.ค. เพราะประเมินว่าราคาหุ้นดังกล่าว จะปรับตัวลงหลังผลประกอบการออกมาดี จากอานิสงส์ของราคาน้ำมันที่ปรับเพิ่มขึ้น ซึ่งหากเกิดขึ้นจริง แรงขายกลุ่มนี้จะนำโดย PTT ที่จะฉุดดัชนีหุ้นไทยปรับลงได้ประมาณ 40 จุด ทำให้บล.ทิสโก้ มองแนวรับต่อไปที่ 1,710 จุด แต่ในระยะยาวหุ้นไทยยังคงเป็นขาขึ้นหากดัชนีไม่หลุด 1,700 จุด
หัวหน้าฝ่ายวิเคราะห์ทางเทคนิค บล.ทิสโก้ ยังย้ำภาพรวมหุ้นไทยตลอดทั้งไตรมาส 2 ว่า โดยปกติแล้วในเดือน เม.ย.จะเป็นช่วงที่นักลงทุนซื้อหุ้นเพื่อรับปันผล และเริ่มขายออกในเดือนพ.ค.-มิ.ย. หลังบริษัทขึ้นเครื่องหมาย XD ทำให้หุ้นไทยและหุ้นทั่วโลกปรับลดลง
บวกกับคาดการณ์ด้วยว่า ทิศทางราคาน้ำมัน WTI น่าจะจบรอบขาขึ้นครั้งนี้ที่ 67 ดอลลาร์สหรัฐฯ ต่อบาร์เรล และจะเริ่มปรับตัวลดลงสู่แนวรับ 55 ดอลลาร์สหรัฐฯ ต่อบาร์เรล จากปัจจัยลบเรื่องอุปทานน้ำมันเพิ่มขึ้น ตามจำนวนแหล่งผลิตเชลล์ออยล์ของสหรัฐฯ ที่เพิ่มขึ้นสวนทางกับตัวเลขเศรษฐกิจเดือนมี.ค.61 ที่ออกมาไม่ดีนัก
สำนักข่าวอีไฟแนนซ์ไทย