ผู้ถือหุ้น บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) หรือ PTT จำนวน 41,073 คน กำลังตกอยู่ในอาการ กินไม่ได้ นอนไม่หลับ เพราะหุ้นถูกถล่มขายอย่างหนัก ราคารูดลงต่อเนื่อง ทำท่าจะหลุด 50 บาท สร้างจุดต่ำสุดในรอบ 3 เดือน
PTT เพิ่งปรับราคาพาร์ใหม่ จาก 10 บาท เหลือ 1บาท และซื้อขายภายใต้พาร์ใหม่ครบ 1 เดือนพอดี เมื่อวันที่ 24 พฤษภาคมที่ผ่านมา แต่สถานการณ์การซื้อขายหุ้น กลับแตกต่างจากวันแรกที่แตกพาร์
เพราะวันแรกที่ซื้อขายด้วยพาร์ใหม่ 1 บาท เมื่อ 24 เมษายนที่ผ่านมา ราคาหุ้น PTT พุ่งขึ้นแรง เกือบทะลุ 60 บาท โดยระหว่างชั่วโมงซื้อขายดีดตัวขึ้นไปสูงสุดที่ 59.50 บาท ( จากราคา IPO 3.5 บาท เมื่อปรับราคาพาร์เป็น 1 บาทแล้ว และ ซื้อขายวันแรกคือ วันที่ 6 ธันวาคม ปี พ.ศ 2544 )
แต่ 24 พฤษภาคม ราคากลับทรุดหนัก เกือบหลุด 50 บาท
ผลดำเนินงานไตรมาสแรกปี 2561 ที่แจ้งตลาดหลักทรัพย์เย็นวันที่10 พฤษภาคม ออกมาไม่ดีนัก มีกำไรสุทธิรวมทั้งสิ้น 39,788ล้านบาท ลดลงจากระยะเดียวกันปีก่อน 4,424 ล้านบาทหรือลดลง13.80% แต่กำไรที่หดตัว ไม่ใช่ประเด็นหลักที่ทำให้เกิดการทุบPTT
แต่ประเด็นหลักเกิดจากต่างชาติลดน้ำหนักการลงทุน ในตลาดหุ้นไทย ปักหลักเทขายหุ้นออก และ PTT เป็นหุ้นในอันดับต้น ๆ ที่อยู่ในเป้าหมายการขายทิ้ง
PTT เป็นหุ้นขนาดใหญ่ มีมูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาด (มาร์เก็ตแคป) มากที่สุด จำนวน 1.52 ล้านล้านบาท หรือเกือบ 9% ของมาร์เก็ปแคปรวมตลาดหลักทรัพย์ที่มีจำนวน 17.47 ล้านล้านบาท การทรุดตัวลงของหุ้น PTT จึงฉุดดัชนี ฯ ให้ไหลลงตาม
ดัชนีราคาหุ้น ฯ ที่ทรุดลงเมื่อวันที่ 23-24 พฤษภาคม ส่วนหนึ่งเป็นผลพวงจากการรูดของหุ้น PTT
แม้นักลงทุนในประเทศจะเข้าไปลุยช้อนหุ้น PTT แต่ต้านแรงขายต่างชาติไม่ไหว ราคาจึงร่วงเหมือนตกบันได จนนักลงทุนที่รับหุ้นไว้เริ่มถอดใจ
สถานการณ์หุ้น PTT ถือว่าอยู่ในภาวะหน้าสิ่วหน้าขวาน เหมือนน้ำกำลังเชี่ยว ใครหาญกล้าเข้าไปขวาง บรรลัยกันไปหมด ต้องแบกต้นทุนอ่วม
ถ้าหุ้น PTT ยังยืนไม่ได้ ตลาดหุ้นจะตกอยู่ในภาวะแปรปรวนต่อไป ดัชนีฯมีสิทธิ์ไหลลงอีก และการปรับฐานรอบนี้ ดัชนี ฯ อาจถอยไปตั้งหลักแถวระดับ 1,700 จุด
ตั้งแต่ต้นปีจนสิ้นสุดวันที่ 24 พฤษภาคมที่ผ่านมา ต่างชาติมียอดขายสุทธิสะสมจำนวนทั้งสิ้น 113,638.35 ล้านบาท และเป็นการขายที่หนักหน่วงรุนแรงมากที่สุดในช่วงหนึ่ง โดยไม่อาจทำนายได้ว่า เมื่อไหร่ต่างชาติจึงหมดแรงขาย เมื่อใดจะผ่านพ้นช่วงเวลาวิกฤตจากการทุบขายไม่เลี้ยงของฝรั่ง
แต่ราคาหุ้นที่ลงมาระดับ 50 บาท ทำให้ปัจจัยพื้นฐานของ PTT แข็งขึ้น ค่า พี/อี เรโช เหลือระดับ 11 เท่า อัตราเงินปันผลตอบแทนขยับขึ้นมาระดับ 3.74 % ซึ่งนักลงทุนบางกลุ่มกำลังเฝ้ารอจังหวะเหมาะ ๆ เพื่อเข้าไปเก็บหุ้น
เพียงแต่อยู่ระหว่างรอคอยให้แรงขายของต่างชาติจางลงเสียก่อน เพื่อความมั่นใจว่า หุ้น PTT นิ่งแล้ว จึงลุยซื้อ PTT อยู่ในช่วงขาขึ้นเต็มตัวมาประมาณ1 ปีแล้ว ราคาน้ำมันที่ดีดตัวขึ้นมายืนเหนือระดับ 70 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ควรเป็นปัจจัยสนับสนุนการเก็งกำไร
ปัญหาของหุ้นตัวนี้อยู่ที่ การเจอมรสุมถล่มขายของต่างชาติเท่านั้น แต่ถ้าต่างชาติไม่เทขาย นักลงทุนอาจไม่มีโอกาสได้เห็น หุ้น PTT ถอยหลังลงมายืนแถวระดับ 50 บาท
ปัจจัยเสี่ยงระยะสั้นของหุ้น PTT มีเพียงการลดพอร์ตของต่างชาติ ถ้าต่างชาติหยุดขายเมื่อไหร่ PTT พร้อมจะเด้งกลับทันที
เฝ้ารอดูสัญญาณการพลิกฟื้นของหุ้น PTT ให้ดีแล้วกัน เพราะจะเป็นโอกาสทำเงินได้
หมายเหตุ : 1) ที่มาจาก คอลัมน์ " ชุมชนคนหุ้น " โดย สุนันท์ ศรีจันทรา ใน MGR ONLINE วันที่ 25 พฤษภาคม ปี พ.ศ 2561
2) โปรดติดตามรายละเอียดการลงทุนใน สภาวะตลาดกระทิง และ ธุรกิจรับเหมาก่อสร้างขาขึ้นรอบใหญ่ได้ใน longtunbysak.blogspot.com หรือ email ส่วนตัวของผู้โพสต์ที่ sschayamaneerat@gmail หรือ เบอร์มือถือส่วนตัวของผู้โพสต์ที่ ( 084-3612346 )