นายสุรชัย เชษฐโชติศักดิ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท อาร์เอส จำกัด (มหาชน) หรือ RS กล่าวว่า บริษัทได้ประกาศเข้าซื้อกิจการทั้งหมดของ ยูนิลีเวอร์ ไลฟ์ หรือ ยูไลฟ์ (ULife) ซึ่งเป็นหน่วยธุรกิจขายตรงของ ยูนิลีเวอร์ ด้วยมูลค่าราว 880 ล้านบาท ซึ่งการเข้าซื้อหรือลงทุนในธุรกิจหรือสินทรัพย์ที่มีศักยภาพในการเติบโต (M&A) เป็นหนึ่งในกลยุทธ์หลักของ อาร์เอส กรุ๊ป จะส่งผลให้ Ecosystem ของบริษัทขยายใหญ่ขึ้นอย่างชัดเจน นอกจากจะทำให้โมเดลธุรกิจคอมเมิร์ซของ อาร์เอส กรุ๊ป แข็งแกร่ง สามารถเข้าถึงกลุ่มลูกค้าที่หลากหลายยิ่งขึ้น มีช่องทางการจัดจำหน่ายใหม่ๆ รวมถึงเพิ่มโอกาสทางธุรกิจ และสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับบริษัทยังตอกย้ำให้เห็นถึงพันธกิจของ อาร์เอส กรุ๊ป ที่ต้องการเติมเต็มชีวิตผู้คนด้วยสินค้าและบริการที่มีคุณภาพ รวมทั้งสร้างแพชชันเพื่อผลักดันให้คนไทยมีอาชีพและรายได้ที่มั่นคงอีกด้วย
ทั้งนี้ธุรกิจขายตรง เป็นธุรกิจที่บริษัทให้ความสนใจ ประกอบกับภาพรวมของอุตสาหกรรมนี้ที่คาดการณ์การเติบโตเฉลี่ยในระดับอย่างน้อย 6-7% ต่อปี จึงทำให้ ยูไลฟ์ มีโอกาสเติบโตอีกมาก ซึ่งหากมารวมกับโมเดลธุรกิจ Entertainmerce ของ อาร์เอส กรุ๊ป และธุรกิจในเครือ จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานและเป็นจุดแข็งที่แตกต่างให้แก่การทำการตลาดและการขายสินค้าของ ยูไลฟ์ จึงนำไปสู่โอกาสทั้งในด้านการเพิ่มยอดขาย การสร้าง Business Partner ปัจจุบันให้แข็งแรงยิ่งขึ้น และดึงดูด Business Partner รายใหม่ๆ เข้ามา ที่สำคัญ ยูไลฟ์ สามารถนำ Popcoin สมาร์ท มาร์เก็ตติ้ง แพลตฟอร์ม ของ อาร์เอส กรุ๊ป มาใช้เป็นเครื่องมือในการสร้างมูลค่าเพิ่มให้แก่ธุรกิจในทุกมิติ
สำหรับการลงทุนซื้อธุรกิจขายตรง “ยูไลฟ์” บริษัทจะได้รับ ทรัพย์สินต่างๆ ประกอบด้วย 3 แบรนด์ระดับพรีเมียม ได้แก่ ผลิตภัณฑ์เสริมอาหารและสุขภาพ “Beyonde”, ผลิตภัณฑ์สุขภาพความงาม “Aviance” และผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพภายในช่องปาก “I-Fresh” ซึ่งมีสินค้าที่หลากหลายรวมถึง 43 ผลิตภัณฑ์ 76SKU ช่องทางการจัดจำหน่ายทั้งออนไลน์ และร้านค้า ระบบบริหารจัดการ และ Software ที่ใช้ในการดำเนินธุรกิจ ทีมผู้บริหารซึ่งมีประสบการณ์สูงในธุรกิจขายตรง พร้อมทั้งพนักงานทั้งหมด
“ด้วยประสบการณ์และความเชี่ยวชาญของผู้บริหาร และจำนวนสมาชิกภายใต้เครือข่ายธุรกิจกว่า 150,000 ราย ของ ยูไลฟ์ ประกอบกับการ Synergy กับ Ecosystem ของ อาร์เอส กรุ๊ป คาดว่าจะเสริมให้รายได้ของ ยูไลฟ์ หลังสถานการณ์โควิด-19 เติบโตอยู่ในระดับทะลุ 1,000 ล้านบาท และมีเป้าหมายที่จะผลักดันและสร้างการเติบโตอย่างเต็มที่เพื่อให้ ยูไลฟ์ ก้าวขึ้นเป็นบริษัทขายตรงอันดับ 1 ใน 5 ของประเทศภายในปี 2567” นายสุรชัย กล่าว
@อีโคซิสเต็มดีอนาคตดีลอื้อ
ด้านนายนภนต์ ใจแสน รองผู้จัดการสายงานวิจัย บริษัทหลักทรัพย์ บัวหลวง จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า กำลังรอข้อมูลด้านการเงินของยูไลฟ์ เพื่อที่จะประเมินมูลค่า หลัง RS เข้าซื้อธุรกิจในราคา 880 ล้านบาท แต่เบื้องต้นนับเป็นปัจจัยบวกกับการได้ธุรกิจขายตรงเข้ามาเสริมช่องทางการจัดจำหน่าย ซึ่งในส่วนของ RS ได้พยายามที่จะเดินหน้าธุรกิจขายตรงมาตลอด มีการตั้งหน่วยธุรกิจเองแต่ยังเงียบ
ดังนั้นการซื้อบริษัทที่มีฐานลูกค้าและสมาชิกอยู่แล้ว จะต่อยอดจากช่องทางขายผ่านโทรทัศน์ ให้มาสู่ช่องทางขายตรงได้ และจากการที่ธุรกิจขายตรงมีลักษณะการให้ผลตอบแทน การสะสมพอยท์คะแนน เพื่อแลกรางวัล ดังนั้นบริษัทสามารถที่จะนำ POP COIN มาใช้ได้ รวมไปถึงการนำสินค้าของบริษัทมาขายได้ ตลอดจนการที่เป็นอีโคซิสเต็มของช่องทางขายกับธุรกิจอื่นๆ เชื่อว่าดึงดูดดีลใหญ่ๆ หลายดีลในอนาคต ปัจจุบันตลาดตอบรับเชิงบวกจากนี้ต่อไปก็จะต้องดูผลกำไรที่แท้จริง อย่างไรก็ตามบริษัทจะมีการประชุมนักวิเคราะห์ในวันนี้ เบื้องต้นยังคงเป้าหมายที่ 21 บาท
ที่ผ่านมา RS มีการลงทุนขยายธุรกิจอย่างรวดเร็วทั้งธุรกิจบริหารหนี้ ธุรกิจสารสกัดสมุนไพร รวมถึงการเพิ่มช่องทางการจัดจำหน่ายระดับแมส เช่น 7-11 รวมถึงการเปิดตัวเหรียญ POP COIN เป้ารายได้ 5.1 พันล้านบาท จากธุรกิจค้าปลีก 2.75 พันล้านบาท และธุรกิจสื่อ-บันเทิง 2.35 พันล้านบาท อัตรากำไรขั้นต้น 48-0% อัตรากำไรสุทธิ 12-14% โดยเป้าหมายดังกล่าวคิดเป็นอัพไซด์ต่อประมาณกำไรของฝ่ายวิจัย 17-37%