เปิด TOP 5 หุ้น DCA ประจำเดือน พ.ย.
ADVANC - BCH สร้างผลตอบแทนเด่นสุด
.
ผ่านมาเป็นระยะเวลากว่า 10 เดือน ตัวเลขผลตอบแทนในพอร์ตการลงทุนของใครหลายๆคนก็อาจจะมีทั้งสีเขียวและสีแดงปะปนกันไป โดยหากเลือกลงทุนในหุ้นที่แข็งแกร่งก็อาจจะช่วยให้พอร์ตลงทุนมีสีเขียวขจีฟุ้งไปทั่ว หรือหากในกรณีเลวร้ายพอร์ตลงทุนก็อาจจะแดงยกแผง จนต้องกุมขมับไม่เว้นในแต่ละวัน
.
ในวันนี้ทาง Wealthy Thai จึงอยากจะพานักลงทุนสาย DCA มาอัพเดทหุ้น 5 อันดับแรกที่น่าสนใจประจำเดือน พฤศจิกายน ประกอบไปด้วย CPALL, ADVANC, BCH, GPSC และ OSP ซึ่งอยู่ภายใต้มุมมองและการประเมินของนักวิเคราะห์บริษัทหลักทรัพย์ หยวนต้า (ประเทศไทย) จำกัด
.
โดยเกณฑ์คัดเลือกทั้ง 5 หุ้นนั้น จะต้องเป็นหุ้นพื้นฐานดี มีสภาพคล่อง ซึ่งจะให้คำแนะนำทุก 1 เดือน ยกเว้นมีเหตุการณ์สำคัญกระทบต่อพื้นฐานบริษัท พร้อมด้วยกลยุทธ์ที่กระจายความเสี่ยงในหลากหลายอุตสาหกรรมและจัดพอร์ตผสมผสานระหว่าง หุ้นปันผล (Dividend) กับหุ้นเติบโต (Growth) เหมาะกับนักลงทุนระยะยาวที่ต้องการออมในหุ้น
.
TOP 5 หุ้น DCA
CPALL แนวโน้มผลประกอบการไตรมาส 3/66 จะเติบโตจากช่วงเดียวกันปีก่อน และไตรมาส 4/66 คาดจะเติบโตทั้งไตรมาสก่อนหน้าและช่วงเดียวกันปีก่อน เนื่องจากเข้าสู่ช่วงไฮซีซั่นและเป็นหนึ่งในหุ้นที่ได้ประโยชน์จากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของภาครัฐ
.
ADVANC แนวโน้มผลประกอบการไตรมาส 3/66 เติบโตเด่นจากช่วงเดียวกันปีก่อน ด้วยการแข่งขันที่ลดลง ,ขณะที่การเข้าซื้อ TTTBB และ JASIF จะเป็นตัวเร่งประมาณการกำไรของ ADVANCในปี 2567 ให้เติบโตได้ราว 7-10% และเป็นหนึ่งในหุ้นที่ได้ประโยชน์จากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาลชุดใหม่
.
BCH คาดผลประกอบการครึ่งปีหลังปี 66 จะกลับมาโตจากช่วงเดียวกันปีก่อน ด้วยแรงหนุนจากการปรับขึ้นค่าหัวประกันสังคมอีก 10% ตั้งแต่ พ.ค. 2566 ขณะเดียวกันความเสี่ยงจากการลงทุนทั่วโลกที่เร่งตัวขึ้น มีโอกาสหนุนให้กระแสเงินไหลเข้าพักใน Defensive Stock อีกครั้ง
.
GPSC คาดผลประกอบการไตรมาส 3/66 จะเติบโตจากไตรมาสก่อนหน้าและช่วงเดียวกันปีก่อน รวมถึงได้แรงหนุนจากผลตอบแทนตราสารหนี้ที่เริ่มชะลอการปรับขึ้น นอกจากนี้ในระยะยาวหุ้นมีการเติบโตจากการขยายธุรกิจพลังงานหมุนเวียนในต่างประเทศ และการเป็น Flagship ด้านสาธารณูปโภคของเครือ PTT
.
OSP แนวโน้มกำไรไตรมาส 3/66 ที่เติบโตจากไตรมาสก่อนหน้าและช่วงเดียวกันปีก่อน โดยได้แรงหนุนจากต้นทุนการผลิตที่อ่อนตัวลงและมาตรการลดค่าครองชีพ รวมถึงมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาลที่จะทยอยออกมาต่อเนื่อง
.
ทั้งนี้ Wealthy Thai ได้ทดลอง DCA ในหุ้นทั้ง 5 ตัว โดยออมเดือนละ 2,000 บาท เป็นระยะเวลา 5 ปี (นับตั้งแต่ 30 ต.ค. 2561 ถึง 30 ต.ค 66) พบว่ามีหุ้น 2 ตัว ที่สามารถสร้างผลตอบแทนได้ดี คือ BCH ที่มีผลตอบแทนจากส่วนต่างของราคาหุ้นและเงินปันผลที่ 3.08 หมื่นบาท และเช่นเดียวกันกับ ADVANC ที่ให้ผลตอบแทนรวมที่ 2.52 หมื่นบาท
.
ขณะที่หุ้น 3 ตัวเหลือนั้น CPALL, GPSC และ OSP แม้ว่าจะมีการจ่ายเงินปันผลให้แก่ผู้ลงทุน แต่ด้วยราคาหุ้นที่ปรับตัวลดลงก็ได้ส่งผลนักลงทุนต้องแบกรับผลขาดทุนจากส่วนต่างราคาหุ้น โดยรายละเอียดต่างๆของหุ้น 5 ตัว สามารถรับชมได้ตามรูปด้านล่างนี้
