ความล่มสลายของ บริษัท อินเตอร์ ฟาร์อีสท์ เอ็นเนอร์ยี่ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ IFEC เป็นมหากาพย์ที่ควรบันทึกในประวัติศาสตร์ของตลาดหลักทรัพย์ เพื่อเป็นบทเรียนให้นักลงทุนศึกษา และป้องกันตัวเองจากความเสียหายจากหุ้นที่มีพฤติกรรมลักษณะเดียวกับบริษัทจดทะเบียนแห่งนี้
วิกฤตการณ์ของ IFEC มีบทสรุปแล้วว่าไม่ได้เกิดขึ้นจากความผิดพลาดในการบริหารงานอย่างสุจริต แต่เกิดจากการทุจริต โดยอดีตกรรมการและผู้บริหารบริษัท ซึ่งพฤติกรรมถูกเปิดโปงอย่างต่อเนื่อง และน่าจะยังมีความผิดอีกมากมายที่จะถูกตรวจสอบ หลังจากการแต่งตั้งกรรมการบริษัทชุดใหม่ที่จะเข้าไปกู้ซาก IFEC
การบริหารงานภายใน IFEC มีความลึกลับซับซ้อน และเป็นองค์กรที่พยายามตั้งตัวเป็นรัฐอิสระ โดยไม่ยอมรับกฎเกณฑ์ใดจากหน่วยงานที่กำกับดูแล ฝ่าฝืนกฎหมายโดยไม่เกรงกลัวความผิด
ขณะที่อดีตกรรมการและผู้บริหารบริษัท ไม่มีความละอายต่อการสร้างความเสียหายให้ผู้ถือหุ้นจำนวนกว่า 3 หมื่นราย
พฤติกรรมการสร้างความเสียหายที่ถูกเปิดโปงล่าสุดคือ การสั่งพนักงาน IFEC ทั้งหมด ย้ายจากที่ทำการของบริษัท ไปทำงานในบริษัทที่อดีตกรรมการและผู้บริหารบริษัทเป็นผู้บริหารอยู่
และการย้ายที่ทำการครั้งนี้ เหมือนการ “ยกเค้า IFEC” เพราะเอกสารและทรัพย์สินถูกโยกย้ายตามไปด้วย เพื่อขัดขวางบริหารคณะกรรมการบริษัทชุดใหม่ไม่ให้เข้าไปแก้ปัญหาได้
การย้ายที่ทำการบริษัทจดทะเบียน จะทำโดยพละการไม่ได้ บอกกล่าวล่วงหน้าผู้ถือหุ้น ต้องแจ้งหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ไม่ว่าสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย หรือแม้แต่กรมสรรพากร
แต่อดีตกรรมการและผู้บริหาร IFEC ซึ่งหลายคนมีคดีติดตัวมากมาย โดยละเมิดกฎหมาย แหกกฎระเบียบ ยกเค้าบริษัทจดทะเบียนแห่งนี้ เพื่อตีรวนผู้บริหารชุดใหม่ ถ่วงเวลาการกอบกู้วิกฤตของบริษัท
อดีตกรรมการและผู้บริหาร IFEC แสดงเจตนาชัดว่า ไม่ต้องการให้มีการเปลี่ยนแปลงใด ๆ ในบริษัทจดทะเบียนแห่งนี้ ส่วนหนึ่งเพื่อคุมอำนาจการบริหารให้ยาวนานที่สุด ตักตวงผลประโยชน์ออกไปให้ได้มากที่สุด ทั้งที่บริษัท ฯ กำลังจะเหลือแต่ซาก
และอาจจะกลัวการตรวจสอบทุจริตย้อนหลัง เพราะกระทำความผิดไว้ จึงไม่อยากให้ใครเข้ามารื้อขยะที่ซุกไว้ใต้พรม
แต่อดีตกรรมการและผู้บริหาร IFEC จะต้านการเปลี่ยนแปลงได้อีกสักเท่าไหร่ เพราะสถานการณ์งวดเข้ามาแล้ว การตีรวนทางกฎหมาย อาจประวิงเวลาการแต่งตั้งกรรมการบริษัทชุดใหม่เพียงชั่วคราวเท่านั้น
อดีตกรรมการและผู้บริหาร ถือว่าสิ้นอำนาจการบริหารงานใน IFEC ตามกฎหมายไปแล้ว
และไม่เหลือความชอบธรรมใด ๆ ในการเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับการบริหารงานใด ๆ ในบริษัทจดทะเบียนแห่งนี้
พฤติกรรมที่อดีตกรรมการและผู้บริหาร IFEC ปรากฏสู่สาธารณชนคือ พฤติกรรมเกเร หัวหมอและหัวดื้อ โดยไม่ตระหนักต่อเสียงประณามใด ๆ
แต่การสู้อย่างถูลู่ถูกกังกำลังทำให้อดีตกรรมการและผู้บริหาร IFEC เดินไปสู่จุดจบที่น่าอนาถ เพราะจะมีคดีตามมายาวเหยียด
อย่างน้อยการ “ยกเค้า IFEC” จะเป็นอีก 1 คดีที่เพิ่มเติมจากหลายคดีก่อนหน้า
วิกฤตของบริษัทจดทะเบียนแห่งนี้ น่าจะมีความที่รวบรวมเป็นบันทึก ตีแผ่ให้สาธารณชนรับรู้ถึงเบื้องหลังความล่มสลายในทุกแง่มุม พฤติกรรมด้านมืดของกรรมการและผู้บริหารบริษัท ซึ่งเป็นผู้ยัดเยียดความสูญเสียให้ผู้ถือหุ้นกว่า 3 หมื่นคน
IFEC เป็นแบบอย่างของบริษัทจดทะเบียนที่ไร้ธรรมาภิบาลอย่างเต็มรูปแบบ และควรเป็นกรณีศึกษาของหน่วยงานที่กำกับดูแลตลาดหุ้น เพื่อวางมาตรการป้องกันไม่ให้เกิดขึ้นกับบริษัทจดทะเบียนใดอีก
เพราะความเสียหายที่อดีตกรรมการและผู้บริหาร IFEC ก่อไว้ เลวร้ายเกินพอสำหรับประชาชนผู้ลงทุนในตลาดหุ้นแล้ว
หมายเหตุ : 1) ที่มาจาก คอลัมน์ " ชุมชนคนหุ้น " โดย สุนันท์ ศรีจันทรา ใน MGR Online เมื่อวันที่ 27 กันยายน ปี พ.ศ 2561
2) โปรดติดตามรายละเอียดการลงทุนใน สภาวะตลาดกระทิง และ ธุรกิจรับเหมาก่อสร้างขาขึ้นรอบใหญ่ได้ใน longtunbysak.blogspot.com