ห้องเม่าปีกเหล็ก

คัมภีร์ลงทุนหุ้นต่างประเทศ By นายกสมาคม ThaiVI “วีระพงษ์ ธัม”

โดย คนเล่นหุ้น
เผยแพร่ :
63 views

คัมภีร์ลงทุนหุ้นต่างประเทศ
By นายกสมาคม ThaiVI “วีระพงษ์ ธัม”

สรุปโดยเพจ หุ้นพอร์ทระเบิด

 

คุณวีระพงษ์เริ่มเข้ามาลงทุนในตลาดหุ้นราวๆปี 2004 หลังจากที่ทำงานไปได้เพียงครึ่งปี ซึ่งความโชคดีคือเป็นช่วงที่ตลาดหุ้นไทยกำลังให้ผลตอบแทนดีมาก ทำให้ยังมีหุ้นบางตัวที่เขาถือมายาวนานกว่า 15-16 ปีจนมาขายไปเมื่อปีก่อน

ตลาดหุ้นไทยเริ่มมีความยากมากขึ้นมาเมื่อ 4-5 ปีก่อน และเป็นเวลาเดียวกับที่คุณวีระพงษ์เริ่มมีความสนใจหุ้นต่างประเทศหลังจากที่ได้ไป Trip ดูตลาดในหลายๆประเทศกับกลุ่มนักลงทุน VI รุ่นใหญ่มา

เหตุผลสามอย่างที่ควรไปลงทุนต่างประเทศคือ 1. ยุคทองของตลาดหุ้นไทยผ่านไปแล้ว ดังนั้นเราจึงต้องมองหาโอกาสที่ดีกว่า 2. เพื่อเป็นการกระจายความเสี่ยง และควรเปลี่ยนคำถามว่าทำไมต้องลงทุนแค่ตลาดหุ้นไทย ? 3. ตลาดต่างประเทศมี New economy(อุตสาหกรรมในอนาคต) ที่เยอะ & หลากหลายกว่า

 

ส่วนใหญ่แล้วการลงทุนในต่างประเทศหรืออุตสาหกรรมที่เป็น New economy เมื่อเราเลือกหุ้นผิดตัวแล้วโอกาสกลับมาจะมียากกว่าหุ้นไทยหรือ “ติดดอยถาวร”

แจ้งเหตุผลข้อแรกคือการแข่งขันที่สูงกว่า ข้อที่สองคือโมเดลธุรกิจแบบไทยมีสินทรัพย์ที่จับต้องได้ และข้อที่สามคือความไม่คุ้นเคยหรือรู้จักวิธีตรวจสอบข้อมูลให้ดีพอจึงอาจจะพบกับบริษัทที่หลอกลวงได้

เสน่ห์ของกลุ่มอุตสาหกรรมที่เป็น New economy และโมเดลธุรกิจประเภทแพลตฟอร์มก็คือขอบเขตที่ไร้ขีดจำกัด ทำให้ผู้ชนะสามารถเติบโตไปเรื่อยๆจากการกิน Market share ได้ทั่วโลก

การเติบโตคือสิ่งที่สำคัญที่สุดของโมเดลธุรกิจประเภทแพลตฟอร์ม ดังนั้นนักลงทุนจึงควรมองปัจจัยเชิงคุณภาพให้ลึกมากๆเพื่อคาดการณ์กำไรในอนาคต และอดทนรอได้

วิธีการลงทุนหุ้นต่างประเทศมีอยู่ 3 แบบง่ายๆเรียงจากเสี่ยงน้อยไปหาเสี่ยงมากคือ
1. ซื้อกองทุน (คาดหวังผลตอบแทนได้ราว 10%)
2. ซื้อหุ้นเองแต่ซื้อหุ้นใหญ่ๆ ที่ประสบความสำเร็จไปแล้ว (คาดหวังผลตอบแทนได้ราว15%)
3. ลงทุนหุ้นเล็กที่ยังไม่ชัดและคาดหวังการเติบโตครั้งใหญ่ (คาดหวังผลตอบแทนได้มากกว่า 20%) โดยขึ้นอยู่กับความพร้อมของนักลงทุนว่าจะเลือกโหมดไหน

 

คุณวีระพงษ์ไม่แนะนำให้แบ่งสัดส่วนทั้งหมดไปทุนหุ้นต่างประเทศเพราะนำเงินกลับมายากรวมไปถึงเงินปันผลด้วย ...

ตลาดหุ้นไทยมีสเน่ห์คือส่วนใหญ่แล้วผู้บริหารจะถือหุ้นของบริษัทอยู่เยอะ รวมไปถึงถูกบริหารโดยผู้ก่อตั้งทำให้แรงจูงใจในการปลุกปั้นบริษัทมีสูงกว่า ต่างกับต่างประเทศที่ผู้บริหารจะถูกจ้างมาเพราะบริษัทก่อตั้งมานานแล้ว

เขาเชื่อว่าสักวันหนึ่งตลาดหุ้นไทยจะกลับเข้าสู่ยุคทองแต่ก็ต้องรอคนรุ่นใหม่ที่มีฝีมือเข้ามาพัฒนาก่อน และเวลานั้นคงเป็นเวลาที่เขาจะกลับเข้ามาเพิ่มน้ำหนักหุ้นในประเทศ

สำหรับนักลงทุนที่อยากลงทุนในตลาดหุ้นไทย คุณวีระพงษ์แนะนำให้มองหาธุรกิจที่สามารถเติบโตได้ไม่ว่าสภาวะเศรษฐกิจจะเติบโตหรือไม่ ส่วนเรื่องหุ้น Tech ภายในประเทศ เขาคาดหวังว่าไทยจะเป็นผู้ที่นำ Tech มาใช้ให้เกิดประโยชน์ก็พอแล้ว เพราะการจะประสบสำเร็จในสาย Tech ได้ธุรกิจนั้นๆจะต้องทุ่มสุดตัว

วิธีการเริ่มต้นลงทุนหุ้นต่างประเทศที่ง่ายที่สุดโดยเขาเคยใช้มาเช่นกันนั่นก็คือการลอกการบ้านกองทุนก่อนซึ่งจะช่วยลดความเสี่ยงลงได้มาก หลังจากนั้นจึงค่อยๆแกะหาหุ้นกลาง หุ้นเล็กที่มีโอกาสจะเข้าไปอยู่ในกองทุนเป็นลำดับต่อไป

ปัจจุบันคุณวีรพงษ์มีสัดส่วนหุ้นต่างประเทศอยู่เราราว 30% และ จึงค่อยเพิ่มขึ้นไปเรื่อยๆ
หุ้นต่างประเทศสองชนิดที่คุณวีระพงษ์มองว่ามีความน่าสนใจคือหุ้น Growth stock และหุ้นวัฎจักรที่กำลังอยู่ในช่วงราคาตกต่ำ หรือเกิดวิกฤติชั่วคราว

เทคนิคในการเลือกหุ้นง่ายๆของคุณวีระพงษ์คือ T.I.M.E = Technology (บริษัทที่นำเทคโนโลยีมาใช้ได้ดี), Industry (อยู่ในอุตสาหกรรมที่ดี), Business Model (มีโมเดลธุรกิจดี) และ Executive (มีผู้บริหารที่ดี)
การเป็นนักลงทุน VI ไม่จำเป็นจะต้องใช้แค่ศาสตร์ด้าน VI เพียงอย่างเดียว เพราะการลงทุนคือการผสมศาสตร์หลายๆอย่างเข่าด้วยกันไม่ว่าจะเป็นการดูพื้นฐาน ดูจิตวิทยามวลชน และดูราคาซึ่งใช้กราฟเทคนิคเป็นตัวช่วย

 

สิ่งที่สำคัญของนักลงทุนคือการสร้างนิสัยที่ถูกต้องคือการเปิดใจ มีวินัย และการอดทนรอคอย
ขอขอบคุณการสัมภาษณ์ดีๆจากช่อง Money Chat Thailand กับคลิปที่มีชื่อว่า “คัมภีร์ลงทุนหุ้นต่างประเทศ” มา ณ ที่นี้ด้วยนะครับ

ส่วนใครที่อยากฟังเต็มๆก็สามารถตามเข้าไปฟังได้ที่ช่อง Youtube กันได้เลยนะครับ สำหรับวันนี้พวกเราหุ้นพอร์ทระเบิด ขอตัวลาไปก่อน

สวัสดีครับ...


คนเล่นหุ้น