ถือ ALL มา 6 เดือน ดูดเงินหาย 77%

ถือ ALL มา 6 เดือน ดูดเงินหาย 77%

นักวิเคราะห์ ให้ “หลีกเลี่ยงลงทุน”

ชี้การเบี้ยวหนี้ ทำต้นทุนการเงินแพงขึ้น

.

ถือเป็นประเด็นที่สร้างความตื่นตระหนกให้วงการตลาดทุนอีกครั้ง หลังจากที่บริษัท ออลล์ อินสไปร์ ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) หรือ ALL ออกแจงข่าวผิดนัดชำระดอกเบี้ยหุ้นกู้จำนวน 10,651,495 บาท เนื่องจากบริษัทขาดสภาพคล่อง กระแสเงินสดหมุนเวียนไม่เพียงพอ

.

ทั้งนี้ทำให้ราคาหุ้นปรับตัวลดลงอย่างรุนแรงนับตั้งแต่วันประกาศข่าวหรือวันที่ 4 มกราคม 2566 ซึ่งหากสำรวจราคาหุ้นย้อนหลัง 6 เดือน (ณ วันที่ 19 กรกฎาคม 2565 ถึง วันที่ 18 มกราคม 2566) ปรับตัวลดลงถึง 77.36% หรือมาอยู่ที่ระดับราคา 0.24 บาท

.

ดังนั้นจึงเกิดเป็นคำถาม และข้อสงสัยแก่วงสนทนาของนักลงทุนอย่างหนาหูว่า “การจะลงทุนในหุ้นดังกล่าวหรือ ถ้าถือครองอยู่” ควรจะรับมือเช่นไร ในวันนี้ทาง Wealthy Thai จึงขอใช้โอกาสนี้ในการหยิบยกคำแนะนำการลงทุนจากผู้เชี่ยวชาญมาแบ่งปันให้แก่ผู้อ่านและผู้ที่สนใจ

.

โดย นายกิจพณ ไพรไพศาลกิจ ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์และนักกลยุทธ์ บล. ยูโอบี เคย์เฮียน (ประเทศไทย) เปิดเผยกับ Wealthy Thai ว่า “ควรเลี่ยงการลงทุน” ส่วนนักลงทุนที่มีสัดส่วนการลงทุนอยู่อาจจะต้องถือ เพื่อรอให้บริษัทปรับโครงสร้างหนี้ภายในให้แล้วเสร็จ ซึ่งค่อนข้างจะใช้ระยะเวลานาน

.

สำหรับคาดการณ์แนวทางการแก้ไขปัญหาของบริษัท มีความเป็นไปได้ที่จะต้องขายสินทรัพย์ของบริษัทเพื่อใช้ในการชำระหนี้ซึ่งต้องติดตามว่ามูลค่าสินทรัพย์ที่ขายจะสามารถครอบคลุมหนี้สินที่ชำระได้หรือไม่ เนื่องจากการขายสินทรัพย์ที่ใช้ระยะเวลาที่จำกัดก็อาจทำให้มูลค่าลดลง

.

แต่อย่างไรก็ตาม การที่บริษัทผิดนัดชำระหนี้หุ้นกู้และเงินกู้ยืม ประเมินว่าจะส่งผลต่อต้นทุนทางการเงินของบริษัทในอนาคตให้มีการเปลี่ยนแปลงไปในเชิงลบ โดยจะทำให้หาแหล่งกู้ยืมได้ยากขึ้นและต้องเสียต้นทุนทางการเงินหรือดอกเบี้ยที่แพงขึ้น