จิม โรเจอร์ ได้ให้ความคิดเห็นเกี่ยวกับหลักการลงทุน ดังนี้คือ :
ผู้คนต่างถามผมอยู่เสมอว่าลงทุนในอะไรดี ซึ่งผมก็ตอบเหมือนเดิมทุกครั้ง ผมบอกว่า อย่าฟังผม อย่าฟังใครทั้งนั้น ทางเดียวที่คุณจะเป็นนักลงทุนที่ประสบผลสําเร็จ คือ การลงทุนในสิ่งที่คุณมีความรู้ดี ทุกคนมีสิ่งที่ตนรู้ดีทั้งนั้น มันอาจจะเป็นรถ แฟชั่น หรือ อะไรก็ตาม คุณรู้ดีในเรื่องอะไรสักเรื่อง ถ้าคุณไม่รู้ว่าคุณรู้เรืองอะไรดี ให้คุณถอยมามองดูชีวิตประจําวันของคุณ เมื่อคุณนั่งรอตรวจกับหมอคุณมักจะหยิบนิตยสารอะไรขึ้นมาอ่าน ถ้าคุณเปิดโทรทัศน์คุณมักจะดูรายการประเภทไหน และ คุณก็จะรู้ในไม่ช้าว่าคุณสนใจเรื่องอะไรกันแน่ และ ความรอบรู้ของคุณจะอยู่ในเรื่องใด
ตอนนี้คุณก็พร้อมที่จะเป็นนักลงทุนที่ประสบผลสําเร็จแล้ว ถ้าคุณมีความสนใจเรื่องรถยนต์ ให้คุณอ่านทุกอย่างที่คุณหาได้เกี่ยวกับอุตสาหกรรมรถยนต์ คุณจะรู้ว่าเมื่อไหร่บางสิ่งที่จะทําให้เกิดการเปลี่ยนแปลงในแง่ดีขนานใหญ่จะเกิดขึ้น จากนั้นให้ตามเรื่องต่อ อ่านเรื่องที่คุณค้นพบให้มากขึ้น มันอาจจะเป็นระบบฉีดเชื้อเพลิงแบบใหม่ที่กําลังพัฒนาอยู่ เป็นระบบที่เหนือกว่าและถูกกว่าระบบที่กําลังใช้อยู่ และคุณก็รู้ว่าเมื่อมันเข้าสายพานการผลิตเมื่อไหร่ มันจะกินส่วนแบ่งการตลาดขนานใหญ่อย่างแน่นอน หรือ มันอาจจะเป็นถนนเส้นใหม่ ผู้คนอาจจะขับรถไปในที่ที่ไม่เคยไปมาก่อน โรงแรมหรือศูนย์การค้าใหม่อาจจะเปิดที่นั่น กลยุทธพื้นฐานคืออยู่ในสิ่งที่คุณรู้แล้วขยายความรู้ออกไป ถ้ามีคนโทรหาคุณแล้วบอกว่า โอ้ พระเจ้า ตอนนี้มีข่าวใหม่เกี่ยวกับกระบวนการผลิตคอมพิวเตอร์แบบใหม่ คุณต้องไม่ใส่ใจมัน คุณไม่รู้เรื่องอะไรเลยเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ รถยนต์คือสิ่งที่คุณรู้ เพ่งพินิจในสิ่งที่คุณรู้และเมื่อคุณเห็นการเปลี่ยนแปลง คุณจะเห็นการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ที่กําลังจะมาก่อนที่ผมจะเห็นนานทีเดียว นานโขกว่าที่คนอื่นในวอลส์สตรีทจะเห็น เพราะรถยนต์เป็นความชื่นชอบของคุณ มันเป็นเรื่องที่คุณนั่งอ่านอยู่ตลอดเวลา
จิม โรเจอร์ ได้ให้ความเห็นเกี่ยวกับการลงทุนแบบมุ่งเน้น ดังนี้คือ :
ถ้าคุณต้องการทําเงินได้มากๆ จงอย่ากระจายการลงทุน โบรกเกอร์สนับสนุนแนวความคิดที่ว่าทุกคนควรกระจายการลงทุน แต่ด้วยสาเหตุหลักคือพวกเขาต้องการปกป้องตัวเอง ถ้าคุณซื้อหุ้นที่ต่างกันสิบตัว สิ่งที่อาจจะเกิดขึ้นคือหุ้นบางตัวจะไปได้ดี คุณจะไม่หมดตัว แต่คุณก็ทําเงินได้ไม่มากเช่นกัน แม้ว่าคุณจะลงทุนได้ดี แม้ว่าจะมีหุ้นเจ็ดตัวที่ขึ้น และมีแค่สามตัวที่ลง มันก็ดีแต่มันก็ไม่ทําให้คุณรวยขึ้นมาได้ ทางเดียวที่คุณจะรวยก็คือค้นให้พบว่าหุ้นตัวไหนดี เน้นไปที่ตัวนั้น และลงทรัพยากรทั้งหมดของคุณไปที่นั่น แต่คุณต้องดูให้แน่ใจว่าคุณเลือกถูก เพราะมันเป็นทางที่ทําให้คุณหมดตัวเร็วที่สุดเช่นกัน นี่เป็นสาเหตุที่โบรกเกอร์บอกให้กระจายการลงทุน พวกเขาไม่ต้องการให้คุณเจ๊งแล้วไปฟ้องพวกเขา
ถ้าคุณต้องการรวย คุณจงหาสิ่งที่ไช่สักสองสามอย่างแล้วลงทุนในนั้น ถ้าคุณซื้อโภคภัณฑ์ในปี ค.ศ 1970 แล้วถือมันอยู่สิบปี พอถึงปี ค.ศ 1980 คุณขายโภคภัณฑ์ของคุณแล้วซื้อหุ้นญี่ปุ่น จากนั้นในปี ค.ศ 1990 คุณขายหุ้นญี่ปุ่นของคุณแล้วซื้อหุ้นเทคโนโลยีในสหรัฐอเมริกา แล้วขายมันออกไปในปี ค.ศ 2000 คุณจะรวยไม่รู้เรืองเลยตอนนี้ แต่ถ้าคุณกระจายการลงทุนในปี ค.ศ 1970 และซื้อหุ้นแบบเฉลี่ย คุณจะไม่ได้เงินเลยเมื่อสามสิบปีผ่านไป ไช่ คุณสามารถกระจายการลงทุนและคุณจะปลอดภัย แต่คุณจะไม่มีทางรวย สําหรับนักลงทุนที่ต้องการทําเงินให้ได้มากๆ คุณต้องอยู่ในสิ่งที่คุณรู้ อย่าเปลี่ยนไปเปลี่ยนมา และลงทุนแบบเน้นๆ นานๆ ครั้ง แน่นอนว่าข้อเสียของวิธีนี้คือถ้าคุณไม่ฉลาดอย่างที่คุณคิดคุณก็จะหมดตัว หมดไม่เหลือ ก็อย่างที่ผมบอกไว้ก่อนแล้วว่า อย่าเชื่อผม จงอยู่ในสิ่งที่คุณรู้
หมายเหตุ : จากหนังสือ " STREET SMATRS " เขียนโดย จิม โรเจอร์ แปลโดย คุณวิรัตน์ รัตนเวชสิทธ์
จากหลักการการลงทุนและการลงทุนแบบมุ่งเน้นของ จิมโรเจอร์ ดังกล่าวข้างต้น ผู้โพสต์จึงได้นํามาประยุกต์เป็น " หลักการลงทุนและการลงทุนแบบมุ่งเน้นของตัวผู้โพสต์เอง " ดังต่อไปนี้ คือ :
1) ทิศทางตลาดหุ้นในระยะสั้น ส่วนใหญ่ขึ้นอยู่กับแรงซื้อ/แรงขายของนักลงทุนต่างชาติเป็นหลัก
2) ทิศทางตลาดหุ้นในระยะยาว ว่าจะอยู่ใน " สภาวะตลาดกระทิง หรือ ตลาดหมี " ขึ้นอยู่กับแนวโน้มทิศทางดอกเบี้ย Fed Fund Rate ขาขึ้นหรือขาลงรอบใหญ่เป็นหลัก
3) ธุรกิจรับเหมาก่อสร้างในประเทศไทยขาขึ้นรอบใหญ่ ตั้งแต่ก่อนที่รัฐบาลจะประกาศวันเลือกตั้งทั่วไปที่ชัดเจนและแน่นอน ( โดยผู้โพสต์จะกําหนดจุดที่คาดว่าจะเป็นจุดตํ่าสุดของหุ้นกลุ่มรับเหมาก่อสร้าง และ CONS ในรอบใหญ่รอบที่แล้วเมื่อรัฐบาลประกาศวันเลือกตั้งที่ชัดเจนและแน่นอนแล้วอีกครั้งหนึ่ง ) จนถึงครึ่งหลังของปี พ.ศ 2563 เพราะ โครงการโครงสร้างพื้นฐาน 3 ล้านล้าน บาท และ การลงทุนจะกินระยะเวลา 2 ปีเศษ
4) ธุรกิจถ่านหินขาขึ้นรอบใหญ่ หลังจากฟองสบู่โลกแตกครั้งต่อไปในปี พ.ศ 2564 เพราะ ปัญหาหนี้สินท่วมโลก และ การลงทุนจะกินระยะเวลา 6 ปี เพราะ เศรษฐกิจจีนฟื้นตัวและเติบโตดี ( เกิน 7% ) ทําให้จีนซึ่งเป็นทั้งผู้ผลิต, ผู้ใช้และผู้นําเข้าถ่านหินรายใหญ่อันดับหนึ่งของโลกมีความต้องการใช้ถ่านหินมากขึ้น
5) การลงทุนทุกครั้งจะมุ่งเน้นไปที่ อนุพันธ์ หรือ Derivatives ของสินค้าอ้างอิงเป็นหลัก เช่น ITD-W1 ในกรณีลงทุนในธุรกิจรับเหมาก่อสร้างขาขึ้นรอบใหญ่, การชอร์ต Set 50 Index Futures หรือ Options ในตลาดขาลงรอบใหญ่ หรือ สภาวะตลาดหมี และ globalCOAL NEWC Futures หรือ Optionsในกรณีลงทุนในธุรกิจถ่านหินขาขึ้นรอบใหญ่ เป็นต้น ส่วนการลงทุนในสินค้าอ้าวอิงเช่น ITD, CK, STEC, UNIQ ในกรณีลงทุนในธุรกิจรับเหมาก่อสร้างขาขึ้นรอบใหญ่, หุ้นใน Set 50 รายตัว ในกรณีการเล่นชอร์ตหุ้นรายตัวขาลงรอบใหญ่ และ PT Adaro Indonesia และ PT Kaltim Prima Coal ในกรณีลงทุนในธุรกิจถ่านหินขาขึ้นรอบใหญ่ จะเป็นประเด็นรองๆลงไป ซึ่งก็คล้ายๆกับ จิม โรเจอร์ เพียงแต่ จิมโรเจอร์ จะมุ่งเน้นไปที่ อนุพันธ์ หรือ Derivatives ของ สินค้าโภคภัณฑ์ เป็นหลักเท่านั้น
นอกจากข้อมูลใน 5 หัวข้อดังกล่าวข้างต้น ผู้โพสต์ถือว่าเป็นข้อมูลประกอบเท่านั้น และ ไม่ได้ไส่ใจอะไรมาก เพราะ หุ้นตัวอื่นๆ หรือ ธุรกิจอื่นๆ ตัวผู้โพสต์เองคิดว่าตัวเองไม่มีความชํานาญ หรือ คิดว่าตัวผู้โพสต์เองไม่มีความรู้จริง !
หมายเหตุ : 1) โปรดติดตามรายละเอียดการลงทุนใน ธุรกิจรับเหมาก่อสร้างขาขึ้นรอบใหญ่ได้ใน longtunbysak.blogspot.com
2) หมายกําหนดการข้างต้นอาจจะมีการเปลี่ยนแปลงได้ ตามสถานะการณ์ที่เปลี่ยนแปลงไปในอนาคต
3) ผู้โพสต์ขอเรียนให้ทุกท่านทราบว่า ผู้โพสต์ไม่ได้มีวัตถุประสงค์หรือเจตนาที่จะชักชวน ชี้นํา หรือ ชี้เป้าให้ท่านนักลงทุนที่เข้ามาดู เข้ามาอ่าน หรือ เข้ามา View มาลงทุนหรือไม่ลงทุนตามแนวทางที่ผู้โพสต์ได้นําเสนอไป และ จะนําเสนอต่อไปในอนาคต และ จะไม่รับประกันผลตอบแทน ตลอดจนจะไม่รับผิดชอบใดๆทั้งสิ้นในกรณีที่มีการนําข้อมูล หรือ ความเห็นส่วนตัวของผู้โพสต์ไปใช้แล้วเกิดความเสียหายขึ้น ผู้โพสต์หวังแต่เพียงว่าข้อมูล และ ความคิดเห็นส่วนตัวดังกล่าวข้างต้นของผู้โพสต์ อาจจะเป็นประโยชน์ต่อท่านนักลงทุนที่เข้ามาดู และ เข้ามา View บ้างไม่มากก็น้อย ทั้งในปัจจุบัน และ อนาคต การลงทุนมีความเสี่ยง โปรดใช้วิจารณญาณในการตัดสินใจเข้าลงทุน หรือ ไม่ลงทุน