ห้องเม่าปีกเหล็ก

เจาะโมเดลธุรกิจ TMILL โรงโม่แป้งเสิร์ฟตลาดโลก

โดย SiTh LoRd PaCk
เผยแพร่ :
53 views

 

TMILL โรงโม่แป้งเสิร์ฟตลาดโลก กับ ดร.วิศิษฐ์ องค์พิพัฒนกุล และดร.นิเวศน์ เหมวชิรวรากร ในรายการ Business Model สรุปสาระสำคัญมาให้อ่านกันจากการฟังรายการย้อนหลัง

ลักษณะธุรกิจ
ผลิตและจำหน่ายแป้งสาลี ได้แก่ แป้งบะหมี่สด แป้งขนมปัง แป้งบะหมี่กึ่งสำเร็จรูป แป้งบิสกิต แป้งเอนกประสงค์ แป้งอาหารสัตว์ เป็นต้น ภายใต้ตราสินค้าของบริษัทเอง โดยเป็นการ spin off มาจาก TSTE

 รูปภาพที่เกี่ยวข้อง

ส่วนที ดร.วิศิษฐ์ องค์พิพัฒนกุล วิเคราะห์ไว้ในรายการ
- เป็นธุรกิจอาหารต้นน้ำ ที่ผู้ใช้แป้งเป็นส่วนประกอบต้องซื้อ

- ราคาวัตถุดิบเป็นเรื่องสำคัญมาก และเป็นสินค้าควบคุมของกระทรวงพาณิชย์

- ถ้าราคาข้าวสาลีลง แต่ราคาควบคุมไม่ลงตามมา กำไรของบริษัทก็จะดี

- กำลังการผลิตของบริษัทเพิ่มขึ้น จากปี 2560 ประมาณ 200 ตันต่อวัน เป็น 500 ตันต่อวัน ในขณะที่ Utilazation Rate ใช้ไปประมาณ 60%

- ถ้านักลงทุนที่สนใจ จำเป็นจะต้องเกาะราคาวัตถุดิบอย่างใกล้ชิด

- ลุกค้ารายย่อยประมาณ 80% และลูกค้าประจำที่มีสัญญาซื้อขายประมาณ 20%

- เป็นธุรกิจที่สำคัญของประเทศ แต่โดนควบคุมราคาโดยหน่วยงานภาครัฐ

- บริษัทยังไม่มีนโยบาย Hedging ราคาวัตถุดิบ

- ในเครือของ TMILL มีหลากปลายแบรนด์มาก

- แต่เราต้องเข้าใจว่าสินค้านี้เป็นคอมโมดิตี้ ปีที่ผ่านมาอาจจะเป็นปีที่ดีของบริษัท Gross Margin ที่สูงอาจจะยืนอยู่ได้ไม่นาน

- ค่าระวางเรือก็เป็นเรื่องสำคัญเพราะเป็นต้นทุนของบริษัท ถ้าค่าระวางเรือสูง บริษัทก็กำไรน้อยลง

- สินค้าของ TMILL อยู่ในตลาด Competitive Market คือแข่งขันอย่างสมบูรณ์ แข่งขันทางด้านราคา ผู้บริโภคมีทางเลือกมากมาย สามารถเปรียบเทียบราคาได้ไม่ยาก

- ค่า P/E บริษัทการเกษตรมักจะไม่สูงอยู่แล้ว ดังนั้น TMILL อยู่ระดับ เท่า ก็ถือว่าสมเหตุสมผล

- TMILL เป็นธุรกิจสินค้าเกษตรและอาหารที่อยู่ในตลาดการแข่งขันสมบูรณ์ นักลงทุนต้องมองว่าถ้าราคาสินค้าไม่ดี TMILL จะเป็นอย่างไร ราคานี้แพงไปหรือไม่

- แต่ถ้าให้มองในปัจจุบัน ก็ถือว่าเป็น Fairy Value ราคาสมเหตุสมผล

 

 ผลการค้นหารูปภาพสำหรับ เจาะโมเดลธุรกิจ

ส่วนที ดร.นิเวศน์ เหมวชิรวรากร วิเคราะห์ไว้ในรายการ
- ผมสงสัยว่ากำไรค่อนข้างดี คือเมื่อปี 2560 แต่กำไรปกติอยู่ที่ประมาณ 50-70 ล้าน อาจจะมีเรื่องอะไรหรือเปล่า กำไรพิเศษไหม ตรงนี้เราต้องกลับไปดู

- ผมว่าธุรกิจแบบนี้เป็นธุรกิจเก่าแก่

- เป็นการขายสินค้าโภคภัณฑ์ ซึ่งธรรมชาติแล้วกำไรดีๆมักจะไม่ยืนยาว อย่างบริษัทนี้ที่ผ่านมาอัตรากำไรสุทธิเขาอยู่ประมาณ 5% อยู่ดีๆกระโดดขึ้นมา 8-9% แบบนี้ แสดงว่ามีอะไรแปลกๆแล้ว

- เท่าที่ผมสังเกต ไม่มีประเทศไหนที่ปลูกข้าวสาลีแบบเป็นเรื่องเป็นราว ชาวเอเชียอาจจะไม่บริโภคข้าวสาลีไหม บริโภคแต่ข้าวเจ้าอะไรแบบนั้น

- ธุรกิจประเภทนี้เป็นธุรกิจแบบเก่าๆ ไม่ค่อยมีคนอยากจะทำเพราะกำไรน้อย คู่แข่งหน้าใหม่ๆเข้ามา ก็แทบจะไม่มี

- ผมมองว่าธุรกิจประเภทนี้ค่อนข้างทรงตัว และแข่งขันกันอย่างสมบูรณ์แบบแล้ว เติบโตไม่ได้มาก คนอาจจะบริโภคแป้งมากขึ้น ขนมมากขึ้น แต่ก็ไม่ได้มากจนทำให้ขายแป้งได้มากอย่างมีนัยยะสำคัญ

- ผมว่า 5% นี้คือเกณฑ์ปกติแล้ว เติบโตยาก

- ถ้าสมมุติว่า ข้าวสาลีราคาถูก บริษัทสั่งมาทำแป้งเพื่อขาย ก็ได้กำไรเยอะ แต่เพราะกำไรเยอะมันก็จะเป็นคู่แข่งหน้าใหม่เข้ามา กำไรบริษัทก็จะไม่เยอะแล้ว
เหมือนกับว่าดีได้ไม่นาน

- ธุรกิจแป้งมันเป็นเรื่องในประเทศมากกว่าจะขยายไปต่างประเทศ หมายถึงผมไม่ค่อยเห็นว่า เราจะสั่งแป้งจากต่างประเทศเพื่อบริโภค เช่นเดียวกันเราส่งไปขายต่างประเทศ เขาก็มีแบรนด์ท้องถิ่นอยู่แล้ว แป้งเหมือนกัน ราคาถูกกว่า

- ผมว่าเราไม่ควรหวัง Growth อะไรมากมาย

- เรื่องค่าเงินที่ขึ้นๆลงๆ ผมมองว่ามันไม่ได้มีนัยยะสำคัญอะไรขนาดนั้น เราไม่ควรเอามาเป็นประเด็น

- เราต้องเข้าใจว่าสังคมไทยกำลังเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุ การบริโภคข้าวหรือแป้ง นี้จะน้อยลงอย่างเห็นได้ชัด อย่างผมอายุมากแล้ว จะมากินข้าวเยอะก็ไม่ได้ ตรงนี้มันจะเป็นอย่างไรในอนาคต เราต้องลองคิดดู

- ปันผล 2-3% ก็ถือว่ารับได้ เหมือนฝากเงินฝาก พันธบัตร

- แต่ยังไงภาพใหญ่ ผมว่าบริษัทนี้ก็ใหญ่ดี คู่แข่งก็ไม่น่าจะมีหน้าใหม่ๆเข้ามา ก็แข่งกันอยู่เท่านี้เท่าที่มี สินค้าก็ขายได้เรื่อยๆ ลงทุนมีปันผลแน่นอน แต่จะหวังเติบโตคงจะไม่ใช่

 

-------------------------------------------------

ขอบคุณแหล่งข้อมูล : รายการ Business Model TMILL โรงโม่แป้งเสิร์ฟตลาดโลก ช่อง Money Channel

ดูฉบับเต็มได้ที่นี้เลยครับ


SiTh LoRd PaCk