1) ตลาดหมีในอดีต :
1.1) ดาวโจนส์ปรับตัวลดลงจาก 14,167 จุด เมื่อเดือนมิถุนายน ปี ค.ศ 2006 มาทําจุดตํ่าสุดในรอบนี้ที่ 6,547 จุด เมื่อวันที่ 9 มีนาคม ปี ค.ศ 2009
1.2) Set Index ปรับตัวลดลงจาก 915 จุด เมื่อวันที่ 29 ตุลาคม ปี ค.ศ 2006 มาทําจุดตํ่าสุดในรอบนี้ที่ 380 จุด เมื่อวันที่ 26 พฤศจิกายน ปี ค.ศ 2008
สาเหตุ : เพราะวิกฤติแฮมเบอร์เกอร์
2) ตลาดกระทิงในอดีต :
2.1) ดาวโจนส์ปรับตัวเพิ่มขึ้นจาก 6,547 จุด เมื่อวันที่ 9 มีนาคม ปี ค.ศ 2009 มาทําจุดสูงสุดในรอบนี้ที่ 26,951 จุด เมื่อวันที่ 3 ตุลาคม ปี ค.ศ 2018
2.1) Set Index ปรับตัวเพิ่มขึ้นจาก 380 จุด เมื่อ 26 พฤศจิกายน ปี ค.ศ 2008 มาทําจุดตํ่าสุดในรอบนี้ืั้ 1,852 จุด เมื่อวันที่ 27 กุมภาพันธ์ ปี ค.ศ 2018
สาเหตุ : เพราะนโยบายการทํา QE ของเฟด
3) ตลาดปรับฐานใหญ่ในอดีต :
3.1) ดาวโจนส์ปรับตัวลดลงจาก 26,951 จุด เมื่อวันที่ 3 ตุลาคม ปี ค.ศ 2018 มาทําจุดตํ่าสุดในรอบนี้ที่ 21,712 จุด เมื่อวันที่ 26 ธันวาคม ปี ค.ศ 2018
3.2) Set Index ปรับตัวลดลงจาก 1,852 จุด เมื่อ 27 กุมภาพันธ์ ปี ค.ศ 2018 มาทําจุดตํ่าสุดในรอบนี้ที่ 1,546 จุด เมื่อวันที่ 27 ธันวาคม ปี ค.ศ 2018
สาเหตุ : เพราะเฟดปรับดอกเบี้ย Fed Fund Rate บ่อยและถี่เกินไปถึง 4 ครั้งในปี ค.ศ 2018
4) คาดการณ์ตลาดกระทิงในอนาคต :
4.1) ดาวโจนส์ปรับตัวเพิ่มขึ้นจาก 21,712 จุด เมื่อวันที่ 26 ธันวาคม ปี ค.ศ 2018 มาทําจุดสูงสุดในรอบนี้ที่ 50,000 จุด ในวันอังคารแรกของเดือนพฤศจิกายน ปี พ.ศ 2563 ซึ่งเป็นวันเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกาครั้งต่อไป
4.2) Set Index ปรับตัวเพิ้มขึ้นจาก 1,546 จุด เมื่อ 27 ธันวาคม ปี ค.ศ 2018 ( Long Set 50 Index Futures ที่ Set Index ที่ 1,634 จุด เมื่อวันที่ 21 มีนาคม ปี พ.ศ 2562 และ Set Index ปรับตัวขึ้นมาปิดที่ 1,679 จุด เมื่อวันที่ 3 พฤษภาคม ปี พ.ศ 2562 ) มาทําจุดสูงสุดในรอบนี้ที่ 5,000 จุดในวันอังคารแรกของเดือนพฤศจิกายน ปี พ.ศ 2563 ซึ่งเป็นวันเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกาครั้งต่อไป
สาเหตุ : เพราะ Fed Fund Rate ยังเป็นขาขึ้นรอบใหญ่ แต่นโยบายของเฟดมีการผ่อนคลายลง
5) คาดการณ์ตลาดหมีในอนาคต :
5.1) ดาวโจนส์ปรับตัวลดลงจาก 50,000 จุด ในวันอังคารแรกของเดือนพฤศจิกายน ปี พ.ศ 2563 ซึ่งเป็นวันเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกาครั้งต่อไป มาทําจุดตํ่าสุดในรอบนี้ที่ 16,340 จุด ในวันที่ 30 ธันวาคม ปี พ.ศ 2564
5.2) Set Index ปรับตัวลดลงจาก 5,000 จุด ในวันอังคารแรกของเดือนพฤศจิกายน ปี พ.ศ 2563 ซึ่งเป็นวันเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกาครั้งต่อไป มาทําจุดตํ่าสุดในรอบนี้ที่ 1,634 จุด ในวันที่ 30 ธันวาคม ปี พ.ศ 2564
สาเหตุ : เพราะหนี้สินท่วมโลก
หมายเหตุ : 1) ตัวเลขคาดการณ์ในอนาคตนั้น เป็นตัวเลขที่ผู้โพสต์กําหนดขึ้นมาเองเพื่อให้เห็นภาพแนวโน้มที่ชัดเจนตามแนวความคิดเห็นของผู้โพสต์เท่านั้น เพราะตัวเลขจริงๆ ไม่มีใครสามารถคาดการณ์ได้อย่างถูกต้องแม่นยํา
2) โปรดติดตามการ Long และ Short Set 50 Index Futuresในระยะยาวได้ใน longtunbysak.blogspot.com