โดย ศักดิ์
เผยแพร่ : 
65 viewsทรัมป์ผู้งี่เง่า VS เม่าผู้ฉลาดเฉลียว!
ตามปรกติแล้ว เม่ามักจะถือว่าตัวเองเป็นผู้ฉลาดเฉลียว เพราะมีความรู้เรื่องการเล่นหุ้นเป็นอย่างดี และถือว่าทรัมป์เป็นคน " โง่ อีเดียด ไอคิวตํ่า ไม่สุภาพ หยาบคาย มารยาทตํ่าทราม กักขฬะ อยู่ไม่สุขเพราะต้องทวีตส่งข้อความอยู่ตลอดเวลา และไม่มีศีลธรรม เป็นต้น " :
ในส่วนที่ว่าเม่าเป็นผู้ฉลาดเฉลียว เพราะมีความรู้เรื่องการเล่นหุ้นเป็นอย่างดีนั้น ผู้โพสต์จะไม่ขอแสดงความคิดเห็น แต่จะขอแสดงความคิดเห็นคัดค้านกรณีของทรัมป์ ซึ่งตามความคิดเห็นของผู้โพสต์แล้วผู้โพสต์คิดว่าทรัมป์เป็นคนฉลาดเฉลียว เป็นวีรบุรุษของชาวอเมริกัน และชาวโลกที่ปกป้องสหรัฐอเมริกา และประเทศอื่นๆทั่วโลกไม่ให้ตกเป็นอาณานิคมของจีน
ในส่วนของการปั่นและทุบหุ้นนั้น ทรัมป์ก็ได้แสดงฝีมือจนได้กําไร +1,428.66% ในขณะที่เม่าโดยเฉลี่ยจะขาดทุน -21.24% หรือทรัมป์ได้กําไรมากกว่าเม่า +1,428.66% - ( -21.24% ) = +1,449.90% ตามรายละเอียดดังนี้ คือ :
กําไรจากการเล่นหุ้นตามการปั่นและทุบของทรัมป์ :
1) รอบที่ 1 : ทรัมป์ปั่นหุ้นโดยการทวีตผ่าน @realDonaldTrump ด้วยข้อความว่า " ทรัมป์ใช้ Supply Side Economics ในการบริหารประเทศ ซึ่งมีผลทําให้เศรษฐกิจสหรัฐอเมริกาเติบโตดี ชาวอเมริกันว่างงานตํ่า และตลาดหุ้นสหรัฐอเมริกาปรับตัวขึ้นไปทําจุดสูงสุดตลอดกาลนับครั้งไม่ถ้วน ในขณะเดียวกันก็ให้คําแนะนําเฟดให้ลดดอกเบี้ย และให้คําแนะนําโอเปคไม่ให้ลดกําลังการผลิต ซึ่งจะทําให้ราคานํ้ามันไม่สูงเกินไปจนเป็นอุปสรรคต่อการเจริญเติบโตของสหรัฐอเมริกา และโลกโดยรวม " การทวีตของทรัมป์เกิดขึ้นหลายครั้งหลายหนต่างกรรมต่างวาระ แล้วมีผลทําให้ Down Jones ปรับตัวเพิ่มขึ้นเป็นรอบๆไป แล้วทําให้ตลาดหุ้นไทย ปรับตัวเพิ่มขึ้นเป็นรอบๆไปตามไปในที่สุด
1.1) : กลยุทธการลงทุนคือ Long Set 50 Index Futures
1.1.1) ตั้งแต่ 1,546 จุด เมื่อวันที่ 27 ธันวาคม ปี พ.ศ 2561 ถึง 1,679 จุด เมื่อวันที่ 2 พฤษภาคม ปี พ.ศ 2562
1.1.2) กําไรจากการ Long Set 50 Index Futures ในรอบนี้ = ( 1,679 - 1,546 - 0.93 ) x 200 / 10,830 x 100 = +243.90%
2) รอบที่ 2 : ทรัมป์ทุบหุ้นโดยการทวีตผ่าน @realDonaldTrump ด้วยข้อความว่า " สหรัฐอเมริกาจะขึ้นภาษีนําเข้าจากจีนจาก 10% เป็น 25% จากสินค้า 200,000 ล้าน USD เดิม " และมีผลทําให้ Down Jones ปรับตัวลดลงเป็นรอบๆไป แล้วทําให้ตลาดหุ้นไทย ปรับตัวลดลงเป็นรอบๆตามไปในที่สุด
2.1) : กลยุทธการลงทุนคือ Short Set 50 Index Futures
2.1.1) ตั้งแต่ 1,679 จุด เมื่อวันที่ 2 พฤษภาคม ปี พ.ศ 2562 ถึง 1,599 จุด เมื่อวันที่ 24 พฤษภาคม ปี พ.ศ 2562
2.1.2) กําไรจากการ Short Set 50 Index Futures ในรอบนี้ = ( 1,679 - 1,599 - 0.93 ) x 200 / 10,830 x 100 = +146.02%
3) รอบที่ 3 : ทรัมป์ปั่นหุ้นโดยการทวีตผ่าน @realDonaldTrump ด้วยข้อความเหมือนกับในรอบที่ 1
3.1) : กลยุทธการลงทุนคือ Long Set 50 Index Futures
3.1.1) ตั้งแต่ 1,599 จุด เมื่อวันที่ 24 พฤษภาคม ปี พ.ศ 2562 ถึง 1,748 จุด เมื่อวันที่ 11 กรกฎาคม ปี พ.ศ 2562
3.1.2) กําไรจากการ Long Set 50 Index Futures ในรอบนี้ = ( 1,748 - 1,599 - 0.93 ) x 200 / 10,830 x 100 = +273.44%
4) รอบที่ 4 : ทรัมป์ทุบหุ้นโดยการทวีตผ่าน @realDonaldTrump ด้วยข้อความว่า " สหรัฐอเมริกาจะขึ้นภาษีนําเข้าจากจีนจาก 0% เป็น 10% จากสินค้าที่เหลืออีก 300,000 ล้าน USD "
4.1) : กลยุทธการลงทุนคือ Short Set 50 Index Futures
4.1.1) ตั้งแต่ 1,748 จุด เมื่อวันที่ 11 กรกฎาคม ปี พ.ศ 2562 ถึง 1,590 จุด เมื่อวันที่ 15 สิงหาคม ปี พ.ศ 2562
4.1.2) กําไรจากการ Short Set 50 Index Futures ในรอบนี้ = ( 1,748 - 1,590 - 0.93 ) x 200 / 10,830 x 100 = +290.06%
5) รอบที่ 5 : ทรัมป์ปั่นหุ้นโดยการทวีตผ่าน @realDonaldTrump ด้วยข้อความเหมือนกับในรอบที่ 1
5.1) : กลยุทธการลงทุนคือ Long Set 50 Index Futures
5.1.1) ตั้งแต่ 1,590 จุด เมื่อวันที่ 15 สิงหาคม ปี พ.ศ 2562 ถึง 1,646 จุด เมื่อวันที่ 23 สิงหาคม ปี พ.ศ 2562
5.1.2) กําไรจากการ Long Set 50 Index Futures ในรอบนี้ = ( 1,646 - 1,590 - 0.93 ) x 200 / 10,830 x 100 = +101.70%
6) รอบที่ 6 : ทรัมป์ทุบหุ้นโดยการทวีตผ่าน @realDonaldTrump ด้วยข้อความว่า "สหรัฐอเมริกาจะขึ้นภาษี สินค้านําเข้าจากจีน จำนวน 300,000 ล้าน USD เดิม จาก 10% เป็น 15% และให้มีผลวันที่ 1 กันยายน ปี พ.ศ 2562 ครึ่งหนึ่ง และวันที่ 15 ธันวาคม ปี พ.ศ 2562 อีกจํานวนครึ่งหนึ่ง และจำนวน 250,000 ล้าน USD เดิม จาก 25% ที่เก็บอยู่แล้วเป็น 30% เริ่มวันที่ 1 ตุลาคม ปี พ.ศ 2562 "
6.1) : กลยุทธการลงทุนคือ Short Set 50 Index Futures
6.1.1) ตั้งแต่ 1,646 จุด เมื่อวันที่ 23 สิงหาคม ปี พ.ศ 2562 ถึง 1,609 จุด เมื่อวันที่ 26 สิงหาคม ปี พ.ศ 2562
6.1.2) กําไรจากการ Short Set 50 Index Futures ในรอบนี้ = ( 1,646 - 1,609 - 0.93 ) x 200 / 10,830 x 100 = +66.61%
7) รอบที่ 7 : ทรัมป์ปั่นหุ้นโดยการทวีตผ่าน @realDonaldTrump ด้วยข้อความเหมือนกับในรอบที่ 1
7.1) : กลยุทธการลงทุนคือ Long Set 50 Index Futures
7.1.1) ตั้งแต่ 1,609 จุด เมื่อวันที่ 26 สิงหาคม ปี พ.ศ 2562 ถึง 1,679 จุด เมื่อวันที่ 6 กันยายน ปี พ.ศ 2562
7.1.2) กําไรจากการ Long Set 50 Index Futures ในรอบนี้ = ( 1,679 - 1,609 - 0.93 ) x 200 / 10,830 x 100 = +127.55%
8) รอบที่ 8 : ทรัมป์ทุบหุ้น เพราะตลาดคาดว่าการเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐอเมริกากับจีนในระหว่างวันที่ 10 - 11 ตุลาคม ปี พ.ศ 2562 จะประสบความล้มเหลว
8.1) : กลยุทธการลงทุนคือ Short Set 50 Index Futures
8.1.1) ตั้งแต่ 1,679 จุด เมื่อวันที่ 6 กันยายน ปี พ.ศ 2562 ถึง 1,603 จุด เมื่อวันที่ 3 ตุลาคม ปี พ.ศ 2562
8.1.2) กําไรจากการ Short Set 50 Index Futures ในรอบนี้ = ( 1,679 - 1,603 - 0.93 ) x 200 / 10,830 x 100 = +138.63%
9) รอบที่ 9 : ทรัมป์ปั่นหุ้น เพราะการเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐอเมริกากับจีนในระหว่างวันที่ 10 - 11 ตุลาคม ปี พ.ศ 2562 จะประสบความสําเร็จด้วยดี
9.1) : กลยุทธการลงทุนคือ Long Set 50 Index Futures
9.1.1) ตั้งแต่ 1,603 จุด เมื่อวันที่ 3 ตุลาคม ปี พ.ศ 2562 ถึง 1,626 จุด เมื่อวันที่ 11 ตุลาคม ปี พ.ศ 2562
9.1.2) กําไรจากการ Long Set 50 Index Futures ในรอบนี้ = ( 1,626 - 1,603 - 0.93 ) x 200 / 10,830 x 100 = +40.75%
กําไรรวม 9 รอบ = 243.90% + 146.02% + 273.44% + 290.06% + 101.70% + 66.61% +127.55% + 138.63% + 40.75% = +1,428.66%
ส่วนเม่านั้นมักจะลงทุนตามตลาดหุ้นไทยและหุ้น 10 อันดับแรก ซึ่งตลาดหุ้นไทยและหุ้น 10 อันดับแรกได้ปรับตัวลดลงตั้งแต่ที่ทําจุดสูงสุดในช่วงครึ่งแรกของปี พ.ศ 2561 ถึง ณ. วันที่ 11 ตุลาคม ปี พ.ศ 2562 ดังนี้ คือ :
1) Set Index = -13.34%
2) PTT = -23.95%
3) AOT = -3.54%
4) CPALL = -10.00%
5) ADVANC = +6.51%
6) SCC = -29.55%
7) PTTEP = -19.14%
8) KBANK = -39.78%
9) SCB = -29.23%
10) BBL = -21.89%
11) PTTGC = -49.76%
12) ค่าเฉลี่ย = -21.24% ( เม่าขาดทุนโดยเฉลี่ย = -21.24% )
เพราะฉะนั้น กําไรจากการเล่นหุ้นตามทรัมป์ปั่นและทุบหุ้น มากกว่าการเล่นหุ้นของเม่า ในปี พ.ศ 2561 - 2562 = 1,428.66% - ( -21.24% ) = +1,449.90%
หมายเหตุ : 1) ที่มาจาก ( www.settrade.com )
2) โปรดติดตามการ Long และ Short Set 50 Derivatives ตามการปั่นและทุบหุ้นของทรัมป์ได้ใน longtunbysak.blogspot.com และ Group Facebook
