เจพี มอร์แกน" ลดน้ำหนักลงทุนหุ้นไทย หลังศก.-ท่องเที่ยว ฟื้นช้ากว่าคาด

สำนักข่าวรอยเตอร์ รายงานว่า เจพี มอร์แกน ได้ปรับลดน้ำหนักลงทุนในหุ้นไทย จากเดิมที่อยู่ในระดับเพิ่มน้ำหนักการลงทุน (Overweight) สู่ระดับคงน้ำหนักการลงทุน (Neutral) โดยให้เหตุผลว่าการฟื้นตัวของอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวภายในประเทศช้ากว่าที่คาดการณ์ไว้ เนื่องจากอัตราเงินเฟ้อภายในประเทศที่เพิ่มสูงขึ้นและรวมถึงสถานการณ์การระบาดของไวรัสโควิด-19 ที่ยังคงรุนแรง ซึ่งส่งผลกระทบโดยตรงกับอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวของไทย
.
เจพี มอร์แกน กล่าวว่า อุตสาหกรรมการท่องเที่ยวของไทยต้องเผชิญกับปัญหามากมาย ทั้งจากปัญหาเงินเฟ้อที่เกิดขึ้นทั่วโลก รวมถึงความเชื่อมั่นของผู้บริโภคภายในประเทศที่ลดลง และความผันผวนของค่าเงิน และการระบาดของไวรัสโควิด-19 ในประเทศจีนที่ยังคงอยู่ในภาวะวิกฤต โดยเฉพาะการใช้มาตรการควบคุมไวรัสโควิดให้เหลือศูนย์ (Zero Covid) ของรัฐบาลจีน ทำให้นักท่องเที่ยวจีนกลับมาท่องเที่ยวในประเทศไทยลดลงและทำให้ตัวเลขนักท่องเที่ยวที่เข้ามาท่องเที่ยวในประเทศไทยน้อยกว่าที่คาดการณ์ไว้
.
โดยเจพี มอร์แกน คาดการณ์ว่า ตัวเลขการจองที่พักและตั๋วเครื่องบินล่วงหน้าของประเทศไทยจะอยู่ที่ระดับ 25% เมื่อเทียบกับช่วงก่อนเกิดการระบาด ซึ่งน้อยกว่าสิงคโปร์ที่เพิ่มขึ้น 72% และฟิลิปปินส์ ที่เพิ่มขึ้น 65% โดยคาดว่าจะมีนักท่องเที่ยวจากประเทศในภูมิภาคอาเซียน เช่น มาเลเซีย และสิงคโปร์ เดินทางเข้ามายังประเทศไทยประมาณ 5 - 10 ล้านคนในปีนี้
.
ทั้งนี้ ประเทศไทยเป็นหนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมของโลกในช่วงก่อนเกิดการระบาดและเป็นประเทศแรกในทวีปเอเชียที่เปิดรับนักท่องเที่ยวเข้าประเทศในปีที่แล้ว โดยให้นักท่องเที่ยวกักตัวเพียง 1 วัน ก่อนที่จะเปิดให้นักท่องเที่ยวเดินทางเข้าประเทศโดยไม่ต้องกักตัวเมื่อวันที่ 1 พ.ค.ที่ผ่านมา โดยในช่วงก่อนเกิดการระบาดนั้นอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวของไทยมีสัดส่วนสูงถึง 12% ของ GDP เลยทีเดียว
