"สมโภชน์ อาหุนัย" ฝันไกล ปักธงไทย สู่แผนที่ผู้นำแบตเตอร์รี่โลก

#scoop "สมโภชน์ อาหุนัย"

 

.

.

ในแวดวงยานยนต์ไฟฟ้าของไทยเวลานี้ ไม่มีใครโดดเด่นเท่า "สมโภชน์ อาหุนัย" ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท พลังงานบริสุทธิ์ จำกัด (มหาชน) หรือ EA ผู้ประกอบธุรกิจด้านพลังงานหมุนเวียนทั้งโรงไฟฟ้าโซลาร์และลม น้ำมันไบโอดีเซล ยานยนต์ไฟฟ้า โรงงานผลิตแบตเตอรี่ลิเทียมไอออน และธุรกิจที่เกี่ยวเนื่อง

.

.

เขาคนนี้ ได้ชื่อว่า อีลอน มัสท์ เมืองไทย ด้วยแนวคิดที่พุ่งไปข้างหน้า และเฉียบคม กับยุทธ์ศาสตร์ที่เขาได้วางไว้อย่างชัดเจนเป็นขั้นเป็นตอน

.

.

"สมโภชน์" ชวนให้คนไทยผู้มีศักยภาพมาร่วมคิดและฝันไปด้วยกัน กับการปักธงเมืองไทยในแผนที่โลก กับบทบาทของผู้นำการผลิตแบตเตอรี่สำหรับยานยนต์ไฟฟ้า รถแห่งอนาคตและปัจจุบันที่ทั่วโลกกำลังพัฒนากันอย่างเต็มที่ เพื่อลดปัญหาโลกร้อน ก๊าซเรือนกระจกที่กำลังจะทำให้ชาวโลกเดือดร้อนหนักมากขึ้นเรื่อยๆ จากการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศ

.

.

"จากสถานการณ์โลกที่กำลังเกิดขึ้น ไม่ว่าจะเป็นสงครามรัสเซีย-ยูเครน หรือปัญหาโลกร้อน รถอีวี บล็อกเชน ทำให้เกิดการแบ่งฝักแบ่งฝ่าย ต่อไปนี้การค้าเสรีไม่เกิดขึ้นแล้ว"

.

.

สิ่งเหล่านี้ ทำให้ต้นทุนทุกอย่างเพิ่มขึ้น Perfect Storm จากปัจจัยที่รุมเร้า โดยไม่สามารถควบคุมได้ เพราะฉะนั้น การจะทำให้ GDP ประเทศขยับขึ้น 3-4% จะไม่ง่ายเหมือนก่อน แม้รัฐบาลจะพยายามส่งเสริมการลงทุน ทั้งการสนับสนุนจาก BOI หรือการพัฒนาพื้นที่โครงการพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก หรืออีอีซี ก็ยังไม่เห็นตัวเลขการลงทุนจำนวนมากนัก ขณะที่โลกไดนามิกทุกวัน โอกาสที่ประเทศเพื่อนบ้านอย่างเวียดนาม อินโดนีเซีย หรือประเทศอื่นๆ จะก้าวแซงหน้าไทย มีโอกาสเกิดขึ้นได้ตลอดเวลา

.

.

การจะทำให้ประเทศอยู่รอด และธุรกิจก้าวไปข้างหน้า "สมโภชน์" บอกว่า วันนี้เราจำเป็นต้องขายของที่แพงขึ้น ต้องผลักสินค้าไทยให้ยืนอยู่ข้างหน้าให้ได้ ไม่ว่าจะเป็น รถยนต์ไฟฟ้า อาหาร หรือท่องเที่ยว แต่...ทุกอย่าง ต้องทำอย่างมียุทธศาสตร์

.

.

ในอุตสาหกรรมยานยนต์ ที่ EA ถนัด "สมโภชน์" ได้พูดถึงไทย ที่ปีๆ หนึ่งผลิตรถยนต์ได้มากกว่า 2 ล้านคัน ผลิตใช้ในประเทศ 8 แสนคัน ส่งออกอีกกว่า 1 ล้านคัน แต่ตอนนี้รถยนต์ไฟฟ้ากำลังมา ทุกคนแย่งชิงตำแหน่งใหม่ อินโดนีเซียมีแหล่งแร่นิกเกิลเยอะ เขาสามารถดึงดูดนักลงทุนได้ จีนก็กำลังบุกหนัก มีแบรนด์ดังๆ เกิดขึ้นมากมาย เวียดนามก็สร้างรถแห่งชาติของเขาขึ้นมา และกำลังจะไปตั้งโรงงานพร้อมนำบริษัทเข้าตลาดหลักทรัพย์ที่สหรัฐอเมริกา

.

.

หนทางที่ไทยเราจะยังครองความเป็นผู้นำได้ คือ การผลักดันให้ไทยเป็นผู้ผลิต "รถไฟฟ้าเชิงพาณิชย์"

.

.

กลับมาที่...สิ่งที่ EA ต้องทำคือ

.

.

ยุทธศาสตร์ที่มีประสิทธิภาพ ชัดเจน และตรงประเด็น และ...ยุทธศาสตร์ที่ดี คือ ลงทุนน้อยๆ ได้เงินเยอะๆ...ถ้าเราไม่ทำ แรงงานในอุตสาหกรรมรถยนต์มากกว่า 9 แสนคน คิดเป็น 11% ของ GDP ประเทศจะตกงาน

.

.

ไทยมีอินฟราสตรัคเจอร์ที่ดี มีไฟฟ้าเหลือใช้ มีโครงข่ายระบบไฟฟ้าที่แข็งแรง และมีซัพพลายเชนของรถยนต์ที่พร้อม สามารถสร้างรถยนต์ได้ทั้งคัน เพราะฉะนั้น ถ้าเราสามาถต่อภาพอันนี้ แล้วขับเคลื่อนให้เป็น New S-Curve ขยับไปสู่รถยนต์ไฟฟ้าได้เร็วกว่าคนอื่น เราจะนำและกลับมาเป็น “ดีทรอยต์แห่งเอเชีย” (Detroit of Asia) อีกครั้ง ด้วยการพัฒนารถยนต์ไฟฟ้าเชิงพาณิชย์

.

.

ทำไมต้องไปรถไฟฟ้าเชิงพาณิชย์ เพราะรถยนต์ไฟฟ้าเชิงพาณิชย์สามารถสร้าง Economies of Scale และจะทำให้เมืองไทยได้เปรียบในการทำอุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้าในอนาคต

.

.

ไทยมีรถเชิงพาณิชย์ 1.3 ล้านคัน ถ้าเปลี่ยนเป็นรถไฟฟ้า ต้องใช้แบตเตอร์รี่ 200 KWh/คัน เท่ากับต้องใช้ไฟฟ้า 260 - 455 GWh Minimum และที่สำคัญรถพวกนี้ แต่ละปีมีการเปลี่นน 80,000 คัน ต้องใช้แบตเตอร์รี่อีก 16 GWh Minimum

.

.

มาดูที่การลงทุน ประเทศไทยจากเหนือจรดใต้ ความยาว 2,000 กิโลเมตร หากเราทำสถานีชาร์จทุกๆ 50 กิโลเมตร ลงทุนสถานีละ 100 ล้านบาท สร้างทั้งขาไป-กลับ รวมประมาณ 80 สถานี ใช้งบลงทุนเต็มที่ประมาณ 8,000 ล้านบาท

.

.

หากเราลงทุนสร้างโรงงานแบตเตอรี่ เพื่อใช้ในประเทศด้วยงบเพียงไม่กี่หมื่นล้านบาท รองรับการใช้งานในประเทศ ถ้าเราทำได้ 16-455 GWh Minimum ไทยจะกลายเป็นผู้ผลิตอันดับต้นๆ ไม่เกิน 1 ใน 5 ของโลก จากที่ปัจจุบัน จีน เป็นประเทศผู้ผลิตรายใหญ่ที่สุด และถ้าเราใหญ่ได้ขนาดนั้น เราจะผลิตแบตเตอรี่ได้ราคาถูก มี Economies of Scale ซึ่งจะส่งผลไปถึงรถยนต์ส่วนบุคคล ซึ่งเป็นเมเจอร์โปรดักส์ของไทย ที่รัฐกำลังให้การสนับสนุนเต็มที่ เช่น การในอินเซนทีฟ 1.5 แสนบาทต่อคัน

.

.

วันนี้ EA เริ่มยุทธศาสตร์ ที่ว่านี้แล้ว ด้วยการเริ่มทำโรงงานแบตเตอรี่ 1 GWh และจะขยายเป็น 4 GWh ซึ่งจะทำให้ EA กลายเป็นหนึ่งในผู้เล่นหลักในตลาดโลกทันที และ EA ยังลงทุนในสถานีชาร์จรถยนต์ไฟฟ้า ด้วยงบลงทุนไม่มาก ด้วยเทคโนโลยี อัลตร้า ฟาสต์ชาร์จ ที่จะทำให้สามารถชาร์จไฟฟ้าทั้งในรถใหญ่ หรือเรือพาณิชย์ได้เร็ว...นั่นคือ อีกหนึ่งแนวทางในการสร้าง Economies of Scale ของ EA

.

.

"สมโภชน์" ยังสรุปอีกว่า อุตสาหกรรมยานยนต์ต้องมียุทธศาสตร์ที่ชัดเจน และต้องทำถูกที่ถูกเวลา ทำสิ่งที่มีอิมแพ็คสูง ประเทศถึงจะเดินต่อไปได้ ถ้าเราไม่ทำสิ่งที่มีราคามากขึ้น และไม่มีโปรดักส์ของเราเอง คนรากหญ้าของเราก็ไม่เกิด เศรษฐกิจไทยก็ไม่โต

.

.

เพราะฉะนั้น ภาพใหญ่ต้องมาก่อน ต้องทำให้รากหญ้ารวยขึ้น ต้องขึ้นค่าแรงขั้นต่ำเยอะๆ แล้วนำไฮท์เทคโนโลยีมาใช้เยอะๆ การเดินหน้าเศรษฐกิจไทย หรือธุรกิจ ต้องเดินหน้ามีระบบด้วยแผนยุทธศาสตร์ที่ชัดเจน และทุกอย่างต้องเริ่มทำเดี๋ยวนี้