ห้องเม่าปีกเหล็ก

SGF คืนชีพกลับมาเทรดวันแรก P/E ทะลุ 100 เท่า

โดย Fin-trading
เผยแพร่ :
71 views

SGF คืนชีพกลับเข้าเทรด mai วันแรก หลังหยุดซื้อขายไป 9 ปี ราคาเปิดเช้านี้ 0.69 บาท จากราคาปิดครั้งสุดท้ายที่ 0.26 บาทก่อนปิดภาคเช้า 0.71 บาท P/E พุ่ง 200% สูงกว่ากลุ่ม และยังสูงกว่าบุ๊คถึงกว่า 6 เท่าการเก็งกำไรต้องมีสติ ขณะที่ "กลุ่มทองแตง" ติดไซเลนต์พีเรยด 1 ปี หลุดล็อตแรก 25% ส.ค.นี้

 

   ราคาหุ้น บมจ.สยามเจเนอรัลแฟคตอริ่ง (SGF) กลับมาซื้อขายในตลาด mai วันนี้เป็นวันแรก หลังหยุดเทรดไป 9 ปีกว่า โดยเปิดตลาดที่ 0.69 บาท จากราคาปิดครั้งสุดท้ายเมื่อ 16 ส.ค.50 ที่หุ้นละ 0.26 บาท โดยราคาปิดภาคเช้าที่ 0.71 บาท มูลค่าการซื้อขาย 2.19 พันล้านบาท 


  "สยามเจเนอรัลแฟคตอริ่ง" เป็นผู้ให้บริการสินเชื่อระยะสั้น แบ่งเป็นสินเชื่อเงินให้กู้ยืมมากสุดราว 70-80% ที่เหลือ เป็นสินเชื่อแฟคตอริ่ง และสินเชื่อส่วนบุคคล โดยในปี 60 บริษัทจะขยายตลาดไปยังสินเชื่อ Re-finance , สินเชื่อลิสซิ่งรถจักรยานยนต์ และสินเชื่อนาโนไฟแนนซ์ ณ วันที่ 9 มิ.ย.59 มีผู้ถือหุ้นรายย่อย 1,876 ราย คิดเป็น 70% ของทุนชำระแล้ว 


  เมื่อเดือน ส.ค.50 SGF เข้าข่ายอาจถูกเพิกถอนจากการเป็นบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ mai เพราะส่วนทุนติดลบ 202 ล้านบาทในงวด Q1/50 สืบเนื่องจากการตั้งสำรองหนี้สงสัยจะสูญ ทำให้ ตลท.สั่งห้ามซื้อขายตั้งแต่วันที่ 17 ส.ค.50 เป็นต้นมา SGF จึงยื่นคำขอพ้นเหตุถูกเพิกถอน และเร่งปรับสถานะให้เข้าเกณฑ์กลับมาซื้อขายได้ปกติ 


  ตลท.ได้อนุมัติให้ SGF กลับมาซื้อขายได้ตามปกติ โดยได้ปลดเครื่องหมาย SP และ NC และให้เริ่มทำการซื้อขายในตลาด mai กลุ่มอุตสาหกรรมธุรกิจการเงินนับตั้งแต่ 1 ก.พ.60 เป็นต้นไป


 การกลับมาลงสนาม mai อีกครั้ง ผลจาก SGF ได้แก้ไขสถานะทางการเงินให้ดีขึ้นจนเริ่มกลับมามีกำไรสุทธิตามเกณฑ์ โดยล่าสุดงวด 9 เดือนปี 59 มีกำไรสุทธิ 45.80 ล้านบาท กำไรต่อหุ้น 0.0035 บาท พาร์ 0.50 บาท (ปรับพาร์จาก 0.25 บาทเป็น 0.50 บาทเมื่อ 12 ก.ค.59) 


   ปัจจุบัน SGF มีหุ้นทั้งหมด 13,100 ล้านหุ้น และมีทุนจดทะเบียนชำระแล้ว 6,550 ล้านบาท ราคาพาร์ 0.50 บาท มูลค่าหุ้นทางบัญชี (BV) 0.11 บาท สัดส่วนหนี้สินต่อส่วนทุน (D/E) ต่ำเพียง 0.03 เท่า อัตรากำไรขั้นต้น 98.43% อัตรากำไรสุทธิ 59.63% ROE 3.40% และ ROA 3.31% 

 


        สำรวจรายชื่อผู้ถือหุ้น มีนักลงทุนชื่อดังตระกูล "ทองแตง" ถือหุ้นใหญ่รวม 15.85% ได้แก่ นายอัฐ ทองแตง (2.82%) นายอิทธิ ทองแตง (2.82%) น.ส.วิอร ทองแตง (2.82%) นายอติคุณ ทองแตง (2.82%) และ น.ส.กนกวรรณ เล็กวิจิตร (4.57%) นอกจากนี้ ยังมีนักลงทุนชื่อดังอย่าง "เสี่ยปู่" นายสมพงษ์ ชลคดีดำรงกุล ร่วมถือหุ้นในสัดส่วน 7.50% 


   กลุ่มผู้ถือหุ้นดังกล่าว รวมแล้วทั้งหมด 36 คน ถือหุ้นรวมกันราว 7,205 ล้านหุ้นจะติดไซเลนต์พีเรียด 1 ปี นับจากวันที่หุ้น SGF กลับเข้าเทรด แต่ ตลท.ผ่อนผันให้หลังเข้าเทรดครบ 6 เดือน สามารถทยอยขายได้ 25% ของจำนวนหุ้นที่ถูกห้ามขาย และครบ 1 ปีถึงจะขายส่วนที่เหลือได้ทั้งหมด 


        ดังนั้น จึงเป็นประเด็นที่จะต้องระมัดระวังในระยะกลาง เพราะนับจากวันนี้ไปเหลือเวลาอีก 6 เดือน หุ้นจะหลุดไซเลนต์พีเรียดรอบแรก


  ส่องแผนงานปี 60 SGF จะขยายฐานลูกค้าแฟคตอริ่งเพิ่มเติมอีก 100 ล้านบาท ลูกค้าสินเชื่อวงเงินกู้ยืมอีก 350 ล้านบาท สินเชื่อส่วนบุคคลและสินเชื่อนาโนไฟแนนซ์อีก 50 ล้านบาท นอกจากนี้ มีแผนขยายไปยังตลาดสินเชื่อลิสซิ่งรถจักรยานยนต์และตลาดสินเชื่อ Re-finance อีก 450 ล้านบาท 


 หลังการเข้าซื้อขายได้ตามปกติ บอร์ด SGF วางแผนลดทุนเพื่อล้างส่วนต่ำมูลค่าหุ้นและขาดทุนสะสมราว 500 ล้านบาท ให้หมดภายใน 6 เดือน นับจากวันที่คดีความและข้อพิพาทระหว่างบริษัทกับเจ้าหนี้บริษัทจดทะเบียนสิ้นสุดลง ซึ่งขณะนี้มีเวลาอีก 2 เดือนให้เจ้าหนี้คัดค้านแผนดังกล่าว หลังจากที่บอร์ดอนุมัติแผนนี้ไปเมื่อเดือน ธ.ค.59 

 

 


   อนาคตของ SGF ยังต้องดูกันต่อไปว่าจะสามารถรักษาระดับของกำไรได้ดีเพียงใด เพราะอย่าลืมคู่แข่งในตลาดสินเชื่อรายย่อยมีมากราย ส่วนราคาหุ้นที่ปรับขึ้นในระดับ 0.71 บาท คิดเป็นกว่า 6 เท่าของ BV ที่ 0.11 บาท และ ณ ราคาปัจจุบันคิดเป็น P/E 200 เท่า ในขณะที่บริษัทที่ทำธุรกิจใกล้เคียงกันอย่าง SAWAD-MTLS อยู่ที่ 24 และ 49 เท่า ส่วนกลุ่มสินเชื่อเช่าซื้อรถจักรยานยนต์อย่าง GL-TK อยู่ที่ 96.99 และ 13 เท่า เท่านั้น!!!
 

 

เครดิต : efinancethai, Set

 


Fin-trading