ปลายสัปดาห์ที่ผ่านมา บริษัทหลักทรัพย์ เอเชีย เวลท์ จำกัด โบรกเกอร์เบอร์ 43 ร่อนหนังสือชี้แจงสื่อมวลชน อ้างว่าไม่ได้รับความเป็นธรรม หลังจากถูกตลาดหลักทรัพย์ สั่งปรับเป็นเงิน จำนวน 5.85 ล้านบาท ในความผิดปล่อยให้ลูกค้าต่างประเทศ ทำชอร์ตเซลหรือ NAKED SHORT ขายหุ้นโดยไม่มีหุ้นในครอบครอง
คำชี้แจงระบุว่า ลูกค้าที่ถูกกล่าวหาว่า ทำชอร์ตเซลโดยไม่มีหุ้นในมือ เป็นนักลงทุนสถาบันต่างประเทศ และเป็นลูกค้าของโบรกเกอร์หลายแห่ง ซึ่งมีวิธีการส่งคำสั่งซื้อขาย ส่งมอบใบหุ้นและชำระราคาเหมือนกับ บล.เอเชีย เวลท์ แต่กลับมีเพียง บล.เอเชีย เวลท์ ที่ถูกเปรียบเทียบปรับ ทั้งที่ได้ปฏิบัติตามหลักเกณฑ์อย่างเคร่งครัดเช่นเดียวกับโบรกเกอร์อื่น
บล.เอเชีย เวลท์ ตั้งข้อสังเกตว่า คณะอนุกรรมการวินัยและคณะกรรมการพิจารณาอุทธรณ์ที่กล่าวโทษและลงโทษบริษัท มีกรรมการบางคน อาจเป็นผู้มีส่วนได้เสีย โดยเป็นคู่แข่งทางธุรกิจ หรือเป็นผู้บริหารบริษัทโบรกเกอร์ ที่เป็นคู่แข่งกัน จนไม่มั่นใจว่า จะพิจาณาลงโทษบริษัทอย่างเป็นกลาง
จนไม่สามารถร้องขอความเป็นธรรมจากตลาดหลักทรัพย์ได้
สุดท้าย บล.เอเชีย เวลท์ เรียกร้องให้ตลาดหลักทรัพย์ ชี้แนะการปฏิบัติงานในการส่งคำสั่งซื้อขายที่รอบคอบและรัดกุม หลังถูกลงโทษจากความผิดปล่อยให้ลูกค้าต่างประเทศ ทำชอร์ตเซล (Short Sale) แต่ยังไม่ได้รับคำชี้แนะใดกลับมา
บล.เอเชีย เวลท์ เพิ่งเปิดตัวประมาณ 5 ปี โดยกลุ่มนายพิชิต อัคราทิตย์ อดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม ในรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ได้ซื้อกิจการจาก บล.ซีไอเอ็มบี - จีเค จนปัจจุบันเป็นโบรกเกอร์ติด 1 ใน 5 ที่มีมูลค่าซื้อขายหุ้นสูงสุด
ก่อนหน้านี้เคยตกเป็นข่าวฉาวโฉ่ โดย 2 ผู้บริหารบริษัท ประกอบด้วย นางสาวชญานี โปขันเงิน และนายชยันต์ อัคราทิตย์ น้องชายนายพิชิต ถูกสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) กล่าวโทษ ฐานปกปิดหรือบิดเบือนข้อมูลที่แจ้ง ก.ล.ต. ช่วยเหลือผู้กระทำผิด การใช้ข้อมูลภายในซื้อขายหุ้น บริษัทหลักทรัพย์ บีฟิท จำกัด จนถูกพักใบอนุญาตการเป็นบุคคลากรในธุรกิจตลาดทุน 1 ปี
และผู้บริหาร บล.เอเชีย เวลท์ ทั้ง 2 คน ได้ยื่นฟ้อง นายระพี สุจริตกุล เลขาธิการ ก.ล.ต. ในความผิดตามมาตรา 157 คดีอยู่ระหว่างการพิจารณาของศาล
การถูกตลาดหลักทรัพย์สั่งปรับ 5.85 ล้านบาท ในความผิดปล่อยให้ลูกค่าทำชอร์ตเซลโดยไม่มีใบหุ้น จึงถือเป็นคดีฉาวโฉ่ล่าสุด และเช่นเดียวกับคดีแรก โดยบริษัทไม่ยอมรับบทลงโทษ ส่งเสียงอุทธรณ์ออกมา
ปัญหาคือ คำอุทธรณ์ของ เอเชีย เวลท์ ฟังขึ้นหรือไม่
ข้ออ้างว่า นักลงทุนสถาบันต่างประเทศที่ทำชอร์ตเซลโดยไม่มีหุ้นในมือ เป็นลูกค้าหลายโบรกเกอร์ ส่งคำสั่งซื้อขาย ส่งมอบหุ้นและชำระราคาในวิธีเดียวกันกับโบรกเกอร์อื่น แต่ทำไมโบรกเกอร์อื่นไม่ถูกปรับ ฟังดูแล้ว น่าเห็นใจ เอเชีย เวลท์ อยู่เหมือนกัน เพราะดูเหมือนถูกเลือกปฏิบัติ
แต่คำถามคือ บล.เอเชีย เวลท์ ได้ปฏิบัติในมาตรฐานเดียวกันกับโบรกเกอร์อื่นหรือไม่
ถ้าปฏิบัติในมาตรฐานเดียวกัน มีเหตุผลใดที่คณะกรรมการวินัยและคณะกรรมการพิจารณากล่าวโทษและลงโทษ จึงจงใจเล่นงาน บล.เอเชีย เวลท์
เพราะแม้คณะกรรมการทั้ง 2 ชุด จะมีตัวแทนจากผู้บริหารโบรกเกอร์ที่เป็นคู่แข่งธุรกิจร่วมเป็นกรรมการด้วย แต่คณะกรรมการส่วนใหญ่ไม่ได้มาจากตัวแทนโบรกเกอร์
คณะกรรมการทั้ง 2 ชุด จะร่วมหัวเล่นงาน บล.เอเชีย เวลท์ หรือ มีเหตุโกรธเคืองอันใดกันหรือ
ส่วนคำแก้ต่างที่ระบุว่า บล.เอเชีย เวลท์ ไม่ได้กระทำผิดตามที่ถูกกล่าวโทษ แต่เหตุใดจึงยอมจ่ายค่าปรับ ทำไมไม่ออกมาโวยวายก่อน
ก่อนที่จะดำเนินมาตรการลงโทษ ตลาดหลักทรัพย์ได้ขอให้ บล.เอเชีย เวลท์ ชี้แจงข้อกล่าวหาและนำหลักฐานมาหักล้างความผิดแล้ว ซึ่งหากหลักฐานมีน้ำหนักเพียงพอ คงไม่ถูกลงโทษ
สำหรับข้อเรียกร้องให้ตลาดหลักทรัพย์ชี้แนะ แนวทางการให้บริการรับคำสั่งซื้อขายจากลูกค้าต่างประเทศ โดยเฉพาะกรณีชอร์ตเซลโดยไม่มีหุ้นในมือนั้น ตลาดหลักทรัพย์ไม่มีความจำเป็นต้องตอบ เพราะระเบียบ กติกาและกฎเกณฑ์การทำชอร์ตเซล กำหนดไว้ชัดเจน ซึ่งโบรกเกอร์ทั้ง 39 รายต้องปฏิบัติในมาตรฐานเดียวกัน
ถ้าบล.เอเชียเวลท์ สับสน ไม่เข้าใจ ปฏิบัติไม่ถูก สามารถสอบถามหรือขอคำแนะนำจากโบรกเกอร์รุ่นพี่ ๆ ได้ ไม่มีความจำเป็นใดต้องรบกวนการทำงานของตลาดหลักทรัพย์
ผู้บริหาร บล.เอเชีย เวลท์ ถ้ามีความเป็นมืออาชีพ สามารถแยกแยะผิดถูกได้อยู่แล้วว่า จะต้องปฏิบัติงานอย่างไร เพื่อไม่ให้เกิดปัญหาแหกกฎตลาดหลักทรัพย์
เสียงร้องขอความเป็นธรรม โดยตั้งข้อสังเกตประเด็นการถูกลงโทษไว้มากมายนั้น เป็นสิทธิโดยชอบธรรมของ บล.เอเชีย เวลท์
แต่สังคมมีสิทธิ ตั้งข้อสังเกต บล.เอเชีย เวลท์ เหมือนกัน ถ้ามั่นใจว่าไม่ได้กระทำความผิด จะจ่ายค่าปรับ 5.85 ล้านบาท ไปทำไม?
เมื่อยอมจ่าย จึงเหมือนกับการยอมรับความผิดไปแล้ว
การออกมาโวยวาย วอนขอความเป็นธรรม อ้างโน่นอ้างนี่ข้าง ๆ คู ๆ จึงเป็นการตอกย้ำภาพลักษณ์ด้านลบโบรกเกอร์รายนี้
หมายเหตุ : 1) ที่มาจาก คอลัมน์ " ชุมชนคนหุ้น " โดย สุนันท์ ศรีจันทรา ใน MGR Online เมื่อวันที่ 10 กันยายน ปี พ.ศ 2561
2) โปรดติดตามรายละเอียดการลงทุนใน สภาวะตลาดกระทิง และ ธุรกิจรับเหมาก่อสร้างขาขึ้นรอบใหญ่ได้ใน longtunbysak.blogspot.com