เกิดอะไรขึ้นกับตลาดหุ้นอเมริกา และมีผลต่อตลาดหุ้นไทยอย่างไร? เราต้องล้างพอร์ตกั้นหรือยัง..!
โดย ณัฐวุฒิ รุ่งวงษ์
บริษัทหลักทรัพย์ที่ปรึกษาการลงทุน ต้นธารคอร์ปอเรชั่น
1.ดัชนีดาวโจนส์ร่วงลง-800จุด(-3.05%)เมื่อคืนนี้ ปิดที่25479จุด
2.เกิดจากความกลัวว่าจะเกิดภาวะเศรษฐกิจโลกถดถอย อันมาจากตัวเตือนสำคัญอันหนึ่งที่เรียกย่อๆว่าIYC หรือ Inverted Yield Curve คืออัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐฯประเภท2ปีขึ้นไปสูงกว่าประเภท10ปี
ล่าสุดตัวเลขเป็นดังนี้
U.S.2YEAR BOND=1.581% https://www.investing.com/rates-bonds/u.s.-2-year-bond-yield
U.S.5YEAR BOND=1.494 % https://www.investing.com/rates-bonds/u.s.-5-year-bond-yield
U.S.10YEAR BOND=1.583% https://www.investing.com/rates-bon…/u.s.-10-year-bond-yield
เอาเข้าจริงเวลานี้ยังไม่เข้าเกณฑ์ว่า2ปีสูงกว่า10ปีนะครับ แค่ว่า2ปีสูงกว่า5ปี
แต่ไม่เป็นไร กลัวไว้ก่อนดีกว่าประมาท..
ปรากฎการณ์นี้เพิ่งเกิดเมื่อเดือนพฤศจิกายนปีกลายครับ ตอนนั้นทุบดาวโจนส์ร่วงวันเดียว1,000จุด หนักกว่าเมื่อคืนนี้หน่อย
3.แล้วจริงๆIYCชี้เป็นชี้ตายให้เกิดวิกฤตเศรษฐกิจโลกถดถอย(ซึ่งจะฉุดหุ้นโลกร่วงขนานใหญ่)อย่างไร? และมันจะมาหรือยัง?
3.1 ย้อนกลับไปตั้งแต่ปี 1960 มาจนถึงปัจจุบัน จะพบว่า ปรากฎการณ์ Inverted Yield Curve เคยเกิดขึ้นมาทั้งหมด 18 ครั้ง (คือ2ปีสูงกว่า10ปีนะครับ ไม่ใช่แค่2ปีสูงกว่า5ปีอย่างเวลานี้)
จากนั้นราว1ถึง2ปี ตามมาด้วยrecession 8ครั้ง
ไม่เกิด recession จำนวน 10 ครั้ง
สถิติคือเกือบจะ50% ตามมาด้วยrecession
ไม่ใช่ทุกครั้ง.
3.2 ค่าเฉลี่ยคือ 627 วัน หรือ22เดือน หลังจากเกิด IYCแล้ว จึงจะเกิดภาวะเศรษฐกิจโลกถดถอยตามมาครับ เอาเป็นว่าครั้งนี้หากเราถือว่าตอนนี้เกิดภาวะIYCเรียบร้อยแล้ว(ความจริงแค่มาเฉียดๆ) ดังนั้นครั้งต่อไปที่เศรษฐกิจโลกจะเข้าสู่ recession คือเดือนมิถุนายนปี 2021 ครับ โดยสถิตื
3.3 เมื่อ3เดือนก่อนบริษัทCITI GROUPออกรายงานฉบับหนึ่งชี้ว่า ณ เวลานี้มีเครื่องชี้อยู่เพียง2.5ตัว จากทั้งหมด15ตัวที่เข้าข่ายว่าเศรษฐกิจโลกเสี่ยงที่จะเกิดภาวะถดถอย เมื่อเปรียบเทียบเทียบกับวิกฤตต่างๆหลายครั้งที่ผ่านมาคือ วิกฤตต้มยำกุ้ง ปี1997 วิกฤตด็อตคอมปี2000 วิกฤตแฮมเบอร์เกอร์ปี2008
4.สรุปว่า รอบนี้นักลงทุนทั่วโลกเกิดอาการหวาดผวาภาวะเศรษฐกิจโลกถดถอยเป็นระยะๆ เราพูดกันเรื่องนี้มา2-3ปีแล้ว ขนาดผมที่ได้ชื่อว่าเป็นคนมองโลกแง่ดีมากๆคนหนึ่ง ก็ยังนำเรื่องนี้มานำเสนอแล้ว2ปี และผมนำเรื่องนี้มาเป็นประเด็นสำคัญในหนังสือคู่มือตลาดหุ้นไทยปี2562(ที่ออกจำหน่ายเผยแพร่เมื่อ1มกราคม2562)ด้วยว่าให้เตรียมการรับมือ
พูดง่ายๆว่าทุกคนในโลกการเงินการลงทุนวิตกเรื่องนี้มาโดยตลอด
ภาษิตโบราณที่ว่า อะไรที่เกิด เราก็มักไม่กลัวมันมาก่อน อะไรที่เรากลัวมันมากๆก็มักจะไม่เกิดนั้นน่าจะเป็นจริง...
5.Recession หรือCorrection?
เรื่องของRecession fear หรือความกลัวว่าจะเกิดภาวะเศรษฐกิจถดถอยหนล่าสุดเมื่อคืนนี้ ก็น่าจะยังไม่เกิดหรอกครับ แบบที่กลัวกันหลายหนที่ผ่านมา แต่จะเกิดสิ่งที่เรียกว่าCorrection หรือการตกปรับฐานของตลาดแทน
โดยเป้าหมายการตกปรับฐานที่ว่าก็อาจจะมีตั้งแต่ระดับ25,400จุด คือตกเมื่อคืนนี้แล้วก็จบเลย มาไวเคลมเร็ว
หรือหากจะลงไปอีกหน่อยก็เขต24750จุด
หนักสุดให้ไปเลยแถงๆ24000จุด หรืออีกราว1500จุด นี่เอาแบบจัดเต็ม ไม่บอกผ่านแล้วนะครับ
เป้าหมายการตกพักฐานที่ว่าจะเท่าไหร่ ก็คอยดูกันไป แต่จากนั้นมันก็จะฟื้นกลับขึ้นไปแถวๆ27000อีกที เผลอๆจะทะลวงขึ้นไป30,000จุดในเที่ยวหน้า ซึ่งตอนนั้มผมว่าน่ากลัวฟองสบู่ขะมาหละครับ
6.แล้วปู่SETหละ ยิ่งอาการสาหัสอยู่ จะโดนอะไรเข้าไปอีกชุดใหญ่หละทีนี้?
ตลาดหุ้นไทยเราเที่ยวนี้แย่กว่าตลาดดาวโจนส์และตลาดอื่นๆครับ เข้าข่ายว่า ดาวโจนส์ตก เราก็ตก,ดาวโจนส์ขึ้น เราก็ตก ,ด่าวโจนส์เฉยๆ เรายังตก
โดยหุ้นไทยตกมาแล้ว4สัปดาห์ หรือ1เดือนเต็มๆไม่มีโงหัวเลย
เอาหละหากเที่ยวนี้ดาวโจนส์เป็นเพียงCorrection ไม่ใช่Recessionอย่างที่หวาดผวากันหรอก แล้วหุ้นยไทยจะมีเป้าหมายตกเท่าไหร่?
คำตอบคือตกมาเขตนี้ใกล้เคียนงจะควานหาจุดต่ำสุด หรือBottom outพบแล้ว โดยอาจเป็นตั้งแต่1613 ที่ลงมาเมื่อวาน หรือ1605-1600 หรือจัดหนักไปได้แถวๆ1595 แย่สุดขีด1585จุด
เหตุที่ผมให้เป้าตกของทั้งดาวโจนส์และหุ้นไทยไว้มากตำแหน่ง หลายจุดขนาดนี้ก็เพราะในทางเทคนิคเขาเรียกรูปแบบการตกนี้ว่ามันร่วงลงมาสร้างบ่าขวาของรูปแบบหัวและบ่า(Head&shoulders bottom)ครับ บริเวณที่คาดว่าจะเป็นเป้าตกก็เลยกินบริเวณกว้างๆ
แต่รูปแบบที่ว่านี้เมื่อตกจบมันก็จะฟื้นกลับ หุ้นไทยนั้นจะฟื้นกลับไปได้ถึงตั้งแต่1670-1680 หรือ1700 หรือแม้แต่1750จุดท่ี่มันตกลงมาในเที่ยวนี้ครับ
7.แล้วเอาไงดีมีเต็มพอร์ตเลย!?
*ถ้าท่านคิดว่าตลาดกำลังหาจุดต่ำสุดพบแถวๆนี้แหละคือราว1600+/-10จุดโดยประมาณ(และดาวโจนส์ก็พักฐานจบแล้วฟื่น) หากลงทุนระยะกลางยาว ติดหุ้นไว้ก็ติดกันต่อไปครับ เพราะติดแล้วมันก็จะแกะออกได้ เมื่อจบพักฐานรอบนี้ มันก็จะฟื้นกลับอยู่แล้ว
*หากท่านคิดว่าเป็นโอกาสที่จะช้อนซื้อหุ้น ก็รอให้มันลงสะเด็ดน้ำ ฯ จุดใดจุดหนึ่ง แล้วเกิดสัญญาณฟื้นตัว เงยหัวขึ้นชัดเจนก็ค่อยซื้อตามน้ำครับ
*หากท่านคิดว่ามันจะตกไปอีกหลุด1600ลงไป1585-1595จุด โดนอีกตั้งหลายจุด ท่านก็ขายออกครับ แล้วก็รอความชัดเจนจนเกิดสัญญาณกลีับตัวค่อยว่ากัน
8.ล้างพอร์ตเลยดีมั้ย เจ็บปวดมานานแล้วติดหุ้นเต็มพุง ขายเสร็จจะได้โล่ง?
กรณีนี้ผมจะสบับสนุนหากว่า มีความชัดเจน มีเหตุผลสนับสนุนว่าrecessionมันมาแน่ และจะตกกันยาว เช่นด่วโจนส์หลุด24000จุด หรือ22000จุด
หุ้นไทยลงไปหลุด1585จุด หรือชัดๆเลยคือพังฐานเก่า1545จุดลงไป ครับสงสัยว่ามันจะโลกาวินาศแน่ๆ น่าจะลงยาว วิกฤตมาแน่ๆ ไม่ใช่แค่Correction กรณีนั้ผมอยากชวนให้ตัดอวัยวะ เพื่อรักษาชีวิตครับ
แต่ตอนนี้ยังก่อน
อ่านที่ผมเขียนมานี้อีกรอบ แล้วคิดตาม และตัดสินใจนะครับ
โชคดีมีกำไร ปลอดภัยในการลงทุนทุกท่าน สวัสดีครับ
เครดิต:https://www.facebook.com/tontancorp/
ขอบคุณที่มาเนื้อหาข้อมูลจาก
FB ..หุ้นเด่นByณัฐวุฒิ รุ่งวงษ์ บริษัทหลักทรัพย์ที่ปรึกษาการลงทุนต้นธารคอร์ป