1. ครึ่งปีที่ผ่านมาเรียกว่าเป็นกลุ่มที่ไม่ดีต่อหุ้นโรงแรม รวมถึงหุ้น ERW ที่ราคาร่วงมาตลอดเนื่องจากผลประกอบการที่ลดลง นักท่องเที่ยวจีนมาเที่ยวประเทศไทยน้อยลง และเศรษฐกิจในประเทศไทยที่ไม่เติบโต
2. บล. เคจีไอ วิเคราะห์ว่าธุรกิจโรงแรมของ ERW จะยังอ่อนแอต่อเนื่องถ้าไม่นับโรงแรมราคาประหยัด แต่ถ้าเอามารวมเข้าด้วยกันแล้วกำไรสุทธิจะโต 23% จากฐานของกำไรที่ต่ำ อย่างไรก็ตามธุรกิจมีการแข่งขันที่สูงและเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ จึงให้คำแนะนำ "ถือ" และราคาเหมาะสมที่ 6.30 บาท
3. บล.ฟิลลิป(ประเทศไทย) แนะนำ "ซื้อ" หุ้น ERW โดยเลือกเป็น Top pick ของกลุ่มท่องเที่ยวพร้อมแสดงความเห็นว่าช่วงครึ่งปีหลังมีวันหยุดยาวสำคัญของจีน ทำให้นักท่องเที่ยวมาเที่ยวไทยมากขึ้นโดยเฉพาะนักท่องเที่ยวจีนจะเพิ่มขึ้นประมาณ 4% พร้อมให้ราคาเป้าหมาย 7 บาทต่อหุ้น
4. บล.กสิกรไทย วิเคราะห์ว่าหุ้น ERW รับปัจจัยลบไปมากในขณะที่สถานการณ์ท่องเที่ยวครึ่งปีหลังฟื้นตัวแน่นอนด้วย 3 เหตุผล คือ
- การประท้วงในฮ่องกงทำให้ท่องเที่ยวไทยได้ประโยชน์
- การยกเลิกค่าธรรมเนียม visa-on-arrival ทำให้นักท่องเที่ยวมาไทยมากขึ้น
- การกระตุ้นการท่องเที่ยวจากภาครัฐ คนไทยออกมาเที่ยวมากขึ้น
5. บล.ดีบีเอส วิคเคอร์ส แสดงความเห็นว่าช่วงที่เหลือของปีนี้หุ้น ERW จะมีโมเมนตัมที่ดีต่อเนื่อง และเก็บเกี่ยวผลประโยชน์จากการลงทุนจากการลงทุนที่ผ่านมา รวมถึงโครงการในอนาคตจะเปิดโรงแรมเพิ่มอีก 9 แห่ง ซึ่งรวมแล้วจะทำให้ ERW มีโรงแรมในพอร์ตมากถึง 70 แห่ง และห้องพักมากถึง 9,559 ห้อง แนะนำซื้อ ให้ราคาพื้นฐาน 7.30 บาท
โดยรวมแล้วครึ่งปีหลังไม่ค่อยดี แต่บทวิเคราะห์มองไปในทางเดียวกันว่าจะกลับมาฟื้นตัวได้ในครึ่งปีหลัง และเสริมด้วยการบริโภคภายในประเทศที่กลับมาจากการกระตุ้นของภาครัฐ แต่สิ่งที่มองข้ามไม่ได้เลยคือสภาพของธูรกิจที่มีการแข่งขันสูงมาก