ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงแตะระดับต่ำสุดในรอบ 7 สัปดาห์ หลังมีการปรับตัวเลขจ้างงานย้อนหลัง พบว่ามีตำแหน่งงานใหม่เกิดขึ้นน้อยกว่าที่คาดมาก ส่งสัญญาณว่าเศรษฐกิจสหรัฐอ่อนแรงกว่าที่ประเมินไว้
นักลงทุนจึงเร่งเก็งกำไรว่า Fed จะต้องเร่งลดดอกเบี้ยแรงกว่าที่เคยส่งสัญญาณ ส่งผลให้ราคาทองคำทะยานขึ้นทำสถิติใหม่ที่ 3,659 ดอลลาร์ต่อออนซ์ กลายเป็นจุดสะท้อนว่า ทองคำยังคงเป็นสินทรัพย์ “หนีความเสี่ยง” เมื่อดอลลาร์อ่อนค่าและเศรษฐกิจเริ่มสั่นคลอน
ทำไมราคาทองยังไม่หยุดทำสถิติ?

การปรับขึ้นของทองคำรอบนี้ ไม่ได้มีแค่ปัจจัยดอกเบี้ย แต่คือ Perfect Storm
• ดอลลาร์อ่อนค่าต่อเนื่อง
• Bond Yield ปรับลดลง
• ตลาดมั่นใจว่า Fed จะลดดอกเบี้ยเร็ว ๆ นี้
• ความเชื่อมั่นต่อ “เงินกระดาษ” ลดลงทั่วโลก
นี่ไม่ใช่เพียงการเก็งกำไรสั้น ๆ แต่เป็น สัญญาณว่าตลาดกำลังไม่เชื่อมั่นในระบบการเงินกระแสหลัก
Fed กำลังยอมรับ “เงินเฟ้อ 3%” แทนเป้า 2%?
ปัจจุบันตัวเลข Core CPI อยู่ที่ 3.1% และ PCE (ดัชนีเงินเฟ้อที่ Fed ใช้ดูเป็นหลัก) อยู่ที่ 2.9% ทั้งคู่ยังสูงกว่าเป้า 2% ที่เคยเป็น “กฎเหล็ก” ของนโยบายการเงิน
แต่การที่ Fed เตรียมลดดอกเบี้ย แม้เงินเฟ้อจะยังสูง แปลได้ว่า Fed อาจกำลังยอมรับ New Normal ของเงินเฟ้อที่ 3% เพื่อรักษาเศรษฐกิจไม่ให้ถดถอยลึก
ผลที่ตามมาคือ ทองคำยิ่งมีเสน่ห์ เพราะหากเงินเฟ้อถูกยอมรับสูงขึ้น ค่าของเงินตราก็จะค่อย ๆ เสื่อมลง
สถิติใหม่: ทุนสำรองทองคำโลก แซง U.S. Treasuries
ข้อมูลล่าสุดระบุว่า มูลค่าทองคำที่ธนาคารกลางทั่วโลกถือรวมกัน อาจแตะ 4.2 ล้านล้านดอลลาร์ ซึ่งมากกว่ามูลค่าพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐ (Treasuries) ที่อยู่ราว 3.9 ล้านล้านดอลลาร์
นี่คือครั้งแรกในประวัติศาสตร์ยุคใหม่ที่ทองคำแซง Treasuries ในฐานะสินทรัพย์ทุนสำรองโลก แสดงให้เห็นว่า ประเทศต่าง ๆ เริ่มกลับมาพึ่งพาทองคำ แทนที่จะยึดติดกับพันธบัตรสหรัฐเพียงอย่างเดียว
Anglo + Teck: การควบรวมที่จะเปลี่ยนโฉมอุตสาหกรรมเหมือง
ยักษ์ใหญ่เหมือง Anglo American ประกาศควบรวมกับ Teck Resources จากแคนาดา สร้างบริษัทใหม่มูลค่ากว่า 53,000 ล้านดอลลาร์
• ติดอันดับ Top 5 ผู้ผลิตทองแดงโลก
• ฐานใหญ่ใน Vancouver
• เหมืองทองแดงสำคัญในชิลี (Collahuasi + Quebrada Blanca)
• คาดสร้างซินเนอร์ยี่ได้กว่า 800 ล้านดอลลาร์ต่อปี
• และ Unlock รายได้เพิ่มปีละ 1.4 พันล้านดอลลาร์ ตั้งแต่ 2030 เป็นต้นไป
ทองแดง = โลหะแห่งอนาคต ที่จำเป็นต่อรถยนต์ไฟฟ้า (EV) และพลังงานหมุนเวียน การควบรวมครั้งนี้สะท้อนการแย่งชิงทรัพยากรท่ามกลางโลกที่กำลังเปลี่ยนผ่านพลังงาน
Key
• ดอลลาร์อ่อน = ทองคำแข็งแรง และยังมี Upside ต่อ
• Fed อาจเปลี่ยนเป้าเงินเฟ้อ จาก 2% → 3% = ทองได้ประโยชน์ระยะยาว
• ทุนสำรองโลกกำลัง Shift จาก Treasuries → Gold
• การควบรวมเหมือง Anglo–Teck = Copper จะเป็นพระเอกใหม่ในยุคพลังงานสะอาด
สรุป
ทองคำยังคงเป็น “สินทรัพย์ต้องมี” ในยุคดอลลาร์สั่นคลอน
ส่วนทองแดง กำลังจะกลายเป็น “พระเอกใหม่” ของโลกพลังงานสะอาด
ที่มา. KIM Property Live