ห้องเม่าปีกเหล็ก

BANPU เปิด 4 ปัจจัยฝ่าวิกฤติ

โดย poomai
เผยแพร่ :
67 views

BANPU เปิด 4 ปัจจัยฝ่าวิกฤติ COVID-19 ลั่นทุกธุรกิจกระแสเงินสดเป็นบวก

นางสมฤดี ชัยมงคล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท บ้านปู จำกัด (มหาชน) หรือ BANPU เปิดเผยว่า แนวโน้มธุรกิจถ่านหินยังถือว่าไปได้ดี จากราคาที่ปรับขึ้นมาแล้ว แต่ยังต้องดูดีมานด์จะเข้ามาต่อเนื่องหรือไม่ ซึ่งต้องรอให่ผ่านพ้นวิกฤติ COVID-19 ไปก่อน ส่วนธุรกิจก๊าซฯ ยังได้ดีเช่นกัน มองเป็นธุรกิจที่สร้างกระแสเงินสดได้ดี ดังนั้นโดยรวมแล้วทุกกลุ่มธุรกิจของบริษัทกระแสเงินสดยังเป็นบวก มีทิศทางที่ดีต่อเนื่อง


นายวิรัช วุฒิธนาเศรษฐ์ ผู้อำนวยการสายอาวุโส corporate strategy และเลขานุการ BANPU เปิดเผยว่า ในช่วงนี้ราคาถ่านหินยังถือว่าค่อนข้างผันผวน เนื่องจาก ในช่วงที่ผ่านมาซัพพลายอยู่ในระดับที่สูง ประกอบกับการแพร่ระบาดของ COVID-19 ส่งผลให้ความต้องการใช้ไฟฟ้าที่ลดลงตามกิจกรรมทางเศรษฐกิจที่ชะลอตัว เพราะฉะนั้นในธุรกิจถ่านหิน หลังจากที่บริษัทจะมุ่งเน้นในเรื่องของประสิทธิภาพการผลิต และลดต้นทุนอยู่แล้ว ทำให้บริษัทจึงต้องเข้มงวดมากขึ้นอีกในช่วงนี้


ประกอบด้วย 1.การผลิต โดยไตรมาส 1/2563 ในอินโดนีเซีย ออเตรเลีย จีน ยังถือว่าทำได้ดี  สามารถผลิตได้ตามเป้า จึงมั่นใจว่าช่วงที่เหลือของปี 2563 จะสามารถรักษาการผลิตได้ตามแผนที่กำหนดไว้  2.ลดต้นทุนการผลิตอย่างน้อย 15% ทุกหน่วยธุรกิจ 3.ด้านการตลาด จะมุ่งเน้นขายในประเทศมากขึ้น เพราะมีราคาที่ดีกว่าส่งออก โดยเฉพาะออสเตรเลีย  และ4. บริหารกระแสเงินสด โดยจะมุ่มเน้นการลงทุนที่จำเป็น โดยจะรักษากระแสเงินสดให้ได้มากที่สุด

 

 

ราคาถ่านหินผ่านจุดต่ำสุดแล้ว

สำหรับแนวโน้มราคาถ่านหินปรับตัวลดลงพอสมควร แต่ล่าสุดพบว่าราคาตอบรับการผลิต หลังจากผู้ประกอบการหลายรายปรับลดกำลังการผลิตลง จึงทำให้ราคาถ่านหินฟื้นตัวอยู่ที่ 53 เหรียญสหรัฐ มองระยะสั้นราคาระยะสั้นถือว่ายังอยู่ในระดับต่ำ แต่มองว่าได้พ้นจุดต่ำสุดแล้ว


ขณะที่ระยะยาว ประเมินว่า ราคาถ่านหินหากมองจากแนวโน้มต้นทุนการผลิต มองช่วงแรกราคาถ่านหินอาจอยู่ 50-60 เหรียญสหรัฐ ส่วนระยะยาวคาดว่าอยู่ในระดับ 70-80 เหรียญสหรัฐ โดยเชื่อว่าราคาถ่านหินยังเป็นไปได้ยากที่จะกลับไปสู่ระดับ 100 เหรียญสหรัฐ


ส่วนธุรกิจก๊าซฯ ก่อนหน้านี้ราคาก๊าซปรับตัวลดลงมาก จากซัพพลายที่เพิ่มขึ้น สวนทางดีมานด์ที่ลดลง อย่างไรก็ตามผู้ประกอบการหลายแห่งได้มีการปิดหลุมก๊าซฯลง จึงทำให้ราคาก๊าซฯฟื้นตัวขึ้นมา  โดยคาดปลายปี 2563 ราคาก๊าซฯมีโอกาสฟื้นตัวอยู่ในระดับที่ดี


ขณะที่ประเด็นมีการปรับเปลี่ยนรายละเอียดในสัญญาซื้อขายเพื่อทำการเข้าซื้อสัดส่วนผลประโยชน์ในบริเวณแหล่งก๊าซธรรมชาติบาร์เนตต์ (Barnett) ประเทศสหรัฐอเมริกา โดยมูลค่าการลงทุนมีการเปลี่ยนแปลงเป็นจำนวน 570 ล้านเหรียญสหรัฐ จากเดิม 770 ล้านเหรียญสหรัฐ และมูลค่าผลประโยชน์แก่ผู้ขายในอนาคตโดยรวมไม่เกิน 260 ล้านเหรียญสหรัฐ ในกรณีที่ราคาน้ำมันปรับเพิ่มขึ้น ภายในระยะเวลา 4 ปี ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2564 ถึง 31 ธันวาคม 2567


ทั้งนี้มูลค่าผลประโยชน์ส่วนเพิ่มนี้จะขึ้นอยู่กับราคาของก๊าซธรรมชาติอ้างอิงราคา Henry Hub เฉลี่ยทั้งปีเริ่มต้น 2.75 เหรียญสหรัฐต่อล้านบีทียู หรือ ราคาน้ำมันอ้างอิง West Texas Intermediate เฉลี่ยทั้งปีเริ่มต้น 50 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล  อย่างไรก็ตามประเมินว่าผู้ที่ได้ประโยชน์สูงสุดคงเป็นบริษัท ซึ่งส่วนแบ่งที่จะแบ่งเพียง 15% ของอิบิทด้าที่จะได้รับเพิ่มขึ้น ส่วนอีก 85% ยังเป็นส่วนแบ่งของบริษัท

 

ขอบคุณที่มาเนื้อหาข้อมูลจาก


poomai