ใครมี PTG เข้ามาอ่านครับ

บล.หยวนต้า ระบุ กำไรสุทธิในไตรมาส 3/61 จะทำได้เพียง 121 ล้านบาท หดตัวถึง 47% จากช่วงเดียวกันปีก่อน แม้ปริมาณการขายน้ำมันเชื้อเพลิงจะทำได้ราว 936 ล้านลิตรสูงขึ้น 17% จากช่วงเดียวกันปีก่อน แต่มีแรงกดดันจากค่าการตลาดน้ำมันเชื้อเพลิงที่อยู่ในระดับต่ำ ลดลง 0.8% จากไตรมาสก่อนหน้า รวมถึงมีค่าใช้จ่ายในการขายและบริหารของธุรกิจที่ไม่ใช่น้ำมัน

และที่สำคัญยังมีความเสี่ยงจากนโยบายภาครัฐที่ต้องการควบคุมราคาน้ำมันดีเซลหน้าสถานีบริการไม่ให้เกิน 30 บาทต่อลิตร ซึ่งจะทำให้อัตรากำไรขั้นต้นของผู้ประกอบการสถานีบริการน้ำมันลดลง เพราะไม่สามารถปรับขึ้นราคาขายปลีกได้แม้ราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกยังอยู่ในขาขึ้นจากการคว่ำบาตรอิหร่านของสหรัฐที่จะเริ่มตั้งแต่วันที่ 4 พ.ย.61 และเงินสนับสนุนปัจจุบันอยู่ที่ 0.6 บาท/ลิตร ใกล้เกณฑ์ที่กระทรวงพลังงานกำหนดไว้ระดับไม่เกิน 1 บาท/ลิตรแล้ว

แนะนำ "ขาย" ที่ราคาเหมาะสม 11.2 บาท บน PE 19.68 เท่า (-1S.D. บนค่าเฉลี่ย PER ย้อนหลังนับตั้งแต่ PTG เข้าซื้อขาย) เตรียมปรับประมาณกำไรทั้งปีลงหลังจากรายงานผลประกอบการไตรมาส 3/61 ในวันที่ 7 พ.ย.นี้ เนื่องจากคาดกำไรสุทธิ 9 เดือนปี 61 จะทำได้เพียง 60% ของประมาณการทั้งปีเท่านั้น

ขณะที่นักวิเคราะห์บางรายยังมองว่าแนวโน้มผลการดำเนินงานในไตรมาส 4/61 จะกลับมาฟื้นตัวได้จากการเข้าสู่ช่วงการท่องเที่ยว และเริ่มมีรายได้จากโครงการปาล์มคอมเพล็กซ์ และมองราคาหุ้นลงแรงสะท้อนผลประกอบการอ่อนตัวไปแล้ว

บล.ทิสโก้ เผย แม้แนวโน้มผลประกอบการในไตรมาส 3/61 จะอ่อนตัวทั้งช่วงเดียวกันปีก่อน และจากไตรมาส 2/61 เนื่องจากเป็นปัจจัยด้านฤดูกาล และค่าการตลาดธุรกิจน้ำมันโดยน้ำมันดีเซลลดลงมาอยู่ที่ 1.42 บาทต่อลิตรในเดือนก.ย.61 จาก 1.7 - 1.8 บาทต่อลิตรในเดือน ก.ค.-ส.ค.61 ขณะที่ไตรมาส 3/60 สูงถึง 1.87 บาทต่อลิตร

อย่างไรก็ดีในไตรมาส 4/61 คาดปริมาณการขายจะกลับมาฟื้นตัว เนื่องจากเข้าสู่ช่วงไฮซีซั่น และจะเริ่มรับรู้รายได้จากโครงการปาล์มคอมเพล็กซ์ ที่เริ่มจำหน่ายไบโอดีเซลได้ตั้งแต่ไตรมาส 4/61 เป็นต้นไป ขณะที่ธุรกิจร้านกาแฟพันธุ์ไทยเริ่มขาดทุนน้อยลง และจะถึงจุดคุ้มทุนในปีหน้า

แนะนำ "ซื้อ" ราคาเป้าหมาย 14 บาท เนื่องจากราคาหุ้นที่ปรับตัวลงแรงสะท้อนแนวโน้มผลประกอบการที่อ่อนตัวไปแล้ว